คาดอีก 6 เดือนเซ็นสัญญา PPP ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีกล่าวว่า

ภาพรวมอีอีซีทั้ง 3 จังหวัด รัฐบาลได้ตั้งเป้าลงทุนประมาณ 8 แสนล้านบาท ภายใน 5 ปี ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นตัวชี้วัดว่าประเทศจะไป 4.0 ได้หรือไม่ แต่วันนี้มีเอกชนหลายรายมาถามตนว่า รัฐบาลจะทำจริงหรือไม่ เพราะยังไม่เห็นความเคลื่อนไหว ตรงนี้ได้อธิบายไปแล้วว่า ทำจริงแน่นอน แต่ว่าจะให้เห็นรถไฟขึ้นวันนี้เป็นไปไม่ได้ เพราะอยู่ระหว่างทำ TOR หาเอกชนมาลงนามในสัญญา แต่มั่นใจว่านับจากนี้ไปภายใน 6 เดือน สิ่งที่จะเห็นคือ จะมีคู่สัญญาในการพัฒนาทั้งท่าเทียบเรือ สนามบิน ระบบราง รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ และถนนจะเริ่มเห็นการลงมือแน่นอน

“โครงการนี้รัฐบาลทุ่มสุดตัว และเราเองก็มองว่าเป็นไปได้ อย่างอีสเทิร์นซีบอร์ดที่ว่าโชติช่วงชัชวาลยังสู้อันนี้ไม่ได้ เพราะครั้งนั้นเป็นแค่พลังงาน แต่นี่ครอบคลุมหมดทั้ง 10 อุตสาหกรรมเก่าและใหม่ ซึ่งวันนี้รัฐบาล ส่วนราชการ และภาคเอกชนพยายามทำให้โปร่งใส เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ดังนั้นต้องยึดถือระเบียบกฎหมาย ซึ่งมีขั้นตอน ระยะเวลา จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจ จริง ๆ รัฐบาลอยากทำวันนี้พรุ่งนี้ แต่เกรงว่าทำออกมาจะเกิดผลกระทบ เนื่องจากมุมมองของคนที่ไม่เข้าใจ อาจจะพูดได้ว่าเอื้อประโยชน์กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่จริง ๆ ไม่ใช่ เราต้องการทำให้บ้านเมืองดีขึ้น แต่ในเมื่อติดข้อกฎหมายก็ต้องอดทน แม้กระทั่งการร่วมลงทุน PPP ถ้าไม่รัดกุมก็จะเกิดคำถามว่า ทำไมเอื้อบริษัทใหญ่ ดังนั้นรัฐบาลไม่ได้ผลีผลาม กำหนดหลักเกณฑ์ให้ชัดขึ้น”

ดูแลประโยชน์ชาวบ้าน-นักลงทุน

นายภัครธรณ์กล่าวว่า บทบาทจังหวัดกับการผลักดันอีอีซี สำหรับจังหวัดคือการประชาสัมพันธ์กับกลุ่มคนต่าง ๆ เพราะบางครั้งยังไม่เข้าใจว่าอีอีซีจะทำอะไร แล้วมีผลกระทบอย่างไร จึงเป็นหน้าที่จังหวัดไปให้ความเข้าใจ ย้ำเสมอว่า โครงการอะไรก็ตาม ชาวบ้านต้องได้ประโยชน์และดีขึ้นกว่าเดิม อาจจะได้รับผลกระทบ แต่ต้องมีทางชดเชย เช่น ท่าเทียบเรือแหลมฉบังเฟส 3 ชาวประมงในพื้นที่หาปลาลดลง รายได้อาจจะน้อยลง ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบรัฐบาลไม่ทิ้ง ช่วยหาทางออก เช่น ลูกหลานประมงไปสมัครงานในการท่าเรือ เพื่อที่ให้ท้องถิ่นทำงานร่วมกัน อยู่ร่วมกันได้ ตรงนี้ชาวบ้านพอใจ

“ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ผ่านมา มองว่าอยู่ที่การบริหารจัดการที่เกิดจากคน เช่น มาบตาพุด โรงงานมีปัญหาปล่อยของเสีย นั่นเพราะไม่บริหารจัดการ เปรียบเหมือนบ้านเรา คนในบ้านตื่นเช้ามาไปฉี่ไปถ่ายหน้าบ้าน ทำอย่างนี้ทุกวันบ้านก็เละเทะ โรงงานก็เช่นกัน มีของเสียแน่นอน แต่ถ้าบริหารจัดการก็ไม่เกิดปัญหา วันนี้จังหวัดชลบุรีได้ขอร้องทุกคนว่า ทำงานด้วยกันต้องทำงานด้วยหลักเหตุผล ไม่ใช่ประท้วงทุกอย่าง”

ในส่วนของนักลงทุนที่กำลังมองหาที่ลงทุน ผู้ว่าฯชลบุรีบอกว่า จังหวัดชลบุรีมีนิคมอุตสาหกรรมที่ยังมีพื้นที่อยู่ หากมาทำในนิคมก็จะง่ายเพราะมีความพร้อมหมดแล้ว เพียงแต่นำเงินมาลงทุนเท่านั้น แต่หากนักลงทุนไม่ว่าไทยหรือต่างชาติที่ไปซื้อที่ดินที่สามารถลงทุนได้ แต่ติดเรื่องผังเมือง เราก็พร้อมจะดูแล ดูรายละเอียดปรับปรุงให้

ปรับโฉมท่องเที่ยว-แก้น้ำท่วม

นายภัครธรณ์บอกว่า การท่องเที่ยวตนเน้น 3 เรื่อง คือ สะดวก สะอาด และปลอดภัย ตลอด 1 ปี มีการเก็บข้อมูลและแก้ไขมาตลอด จากเดิมที่นักท่องเที่ยว พูดเรื่องความน่ากลัวของแก๊งต่าง ๆ ทั้งมาเฟียต่างชาติ แก๊งกะเทย วันนี้ไม่มีปัญหาแล้ว เป็นผลให้นักท่องเที่ยวมามากขึ้น การท่องเที่ยวบูมขึ้น รายได้จากท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรีปี 2559 อยู่ที่ 2.06 แสนล้านบาท

ผู้ว่าฯชลบุรีบอกอีกว่า อีกเรื่องสำคัญที่ต้องแก้ให้ได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดคือปัญหาน้ำท่วมพัทยา โดยปีนี้ได้งบฯกลุ่มจังหวัดมา 800 กว่าล้าน เพื่อทำโครงการอุโมงค์น้ำ สืบเนื่องจากพัทยาเป็นเมืองติดทะเล เป็นพื้นที่รับน้ำ เมื่อน้ำมาจากด้านบนคือ หนองปรือ หนองปลาไหล ทำให้เกิดน้ำท่วม จึงคิดว่าจะสร้างอุโมงค์น้ำยาวขนานไปกับทางรถไฟ เมื่อสร้างเสร็จจะสามารถจุน้ำได้ 4-5 แสนล้านลูกบาศก์เมตร โดยน้ำที่ไหลมานั้นจะต้องพิจารณาอีกว่าจะบริหารจัดการอย่างไร ซึ่งกรมชลประทานและท้องถิ่นก็ต้องมีส่วนร่วม ความคืบหน้าโครงการขณะนี้ท้องถิ่นอยู่ระหว่างการลงนามสัญญา แต่ตอนนี้ท้องถิ่นก็ยังกังวลว่าจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ จังหวัดจึงตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อศึกษาโครงการอีกครั้ง

กรมวิชาการเกษตร ย้ำชัดปรับปรุง พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุด สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เองได้ พร้อมยังคุ้มครองสิทธินักปรับปรุงพันธุ์พืช สร้างแรงจูงใจเร่งปรับปรุงพันธุ์พืชใหม่ เผยการแก้ไข พ.ร.บ.ผ่านกระบวนการทางกฎหมายอย่างถูกต้องทุกขั้นตอน

นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 ว่าด้วยเรื่องการคุ้มครองพันธุ์พืช 3 ระบบ ประกอบด้วย ระบบการจดทะเบียนพันธุ์พืชใหม่ ซึ่งเป็นการคุ้มครองเชิงทรัพย์สินทางปัญญา ให้สิทธิกับนักปรับปรุงพันธุ์พืช ระบบการจดทะเบียนพันธุ์พืชพื้นเมืองเฉพาะถิ่น ให้สิทธิความเป็นเจ้าของกับชุมชน และระบบการแจ้งและอนุญาตให้ใช้พันธุ์พืชพื้นเมืองทั่วไปและพันธุ์พืชป่า เพื่อการศึกษา ทดลอง วิจัย และปรับปรุงพันธุ์ ซึ่งเป็นการคุ้มครองเชิงอนุรักษ์ รวมถึงการบริหารจัดการกองทุนคุ้มครองพันธุ์พืชที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พันธุ์พืชอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม โดยที่ตัวบทกฎหมายตามพระราชบัญญัตินี้ ได้ผูกโยงระบบการคุ้มครองดังกล่าวทั้งหมดเข้าด้วยกัน เมื่อบังคับใช้กฎหมายมาสักระยะหนึ่งพบว่า มีข้อติดขัดทั้งในด้านกระบวนการปฏิบัติงานและการบังคับใช้กฎหมาย นอกจากนี้ กฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันยังขาดสาระสำคัญบางประการทำให้ไม่สามารถให้ความคุ้มครองสิทธินักปรับปรุงพันธุ์พืชได้อย่างเพียงพอ มีบางข้อที่จำกัดโอกาสการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์พืชใหม่ๆ อีกทั้งไม่ส่งเสริมสนับสนุนให้ชุมชนได้อนุรักษ์พัฒนาและใช้ประโยชน์พันธุ์พืชของชุมชน รวมถึงเป็นอุปสรรคต่อการวิจัยและพัฒนาที่ใช้พันธุ์พืชพื้นเมืองทั่วไปและพันธุ์พืชป่า และไม่เหมาะสมกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ส่งผลให้ไม่ส่งเสริมศักยภาพด้านการแข่งขันการลงทุนและการวิจัยและพัฒนาของประเทศเท่าที่ควร

ดังนั้น จึงเห็นสมควรปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืชฉบับที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน โดยคงไว้ซึ่งเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 ทุกประการ

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า การปรับแก้ไขกฎหมายคุ้มครองพันธุ์พืชให้เป็นสากลจะส่งผลดีต่อผู้เกี่ยวข้องจำแนกตามกลุ่ม ได้ดังนี้

1.​เกษตรกรผู้ค้า/ผู้ปลูก มีทางเลือกมากขึ้นในการเลือกชนิดพืชและพันธุ์พืชใหม่ๆ ที่เหมาะสมใช้เพาะปลูกตามความต้องการ ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและคุณภาพของผลผลิตให้ได้รับผลตอบแทนสูงขึ้น อาชีพเกษตรกรผู้รับจ้างผลิตเมล็ดพันธุ์ (พืชไร่และผัก) มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สร้างรายได้ให้เกษตรกร นอกจากนี้ เกษตรกรจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเมล็ดพันธุ์ที่ทันสมัยไปด้วย โดยที่เกษตรกรยังสามารถใช้พันธุ์พืชพื้นเมืองและเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกได้เองตามปกติ ส่วนพันธุ์พืชใหม่ที่ได้รับการจดทะเบียนคุ้มครอง เกษตรกรยังสามารถเก็บเมล็ดพันธ์ไว้เพาะปลูกในพื้นที่ของตนเองได้ตามสิทธิพิเศษสำหรับเกษตรกรที่กำหนดไว้ในมาตรา 35 ของร่างพระราชบัญญัติฯ

2.​นักปรับปรุงพันธุ์พืชไทย มีแรงจูงใจในการลงทุนวิจัยปรับปรุงพันธุ์พืชใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และมีแหล่งพันธุกรรมที่มีความหลากหลายใช้ในการปรับปรุงพันธุ์มากขึ้น มีการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์มากยิ่งขึ้น และจะมีจำนวนนักปรับปรุงพันธุ์เพิ่มมากขึ้น

3.​ผู้บริโภคและอุตสาหกรรมแปรรูป มีทางเลือกที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น สามารถเลือกซื้อผลิตผลและผลิตภัณฑ์พืชได้ตรงกับความต้องการ มีพันธุ์พืชใหม่ๆออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดแคลน ทำให้ประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น

4.​การลงทุนด้านเมล็ดพันธุ์พืช มีการขยายการลงทุนด้านการวิจัยพัฒนาปรับปรุงพันธุ์และการผลิตเมล็ดพันธุ์ ทั้งเพื่อใช้ในประเทศและส่งออก นักลงทุนมีความเชื่อมั่น ดึงดูดให้เข้ามาลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาในประเทศมากขึ้น

ทั้งนี้ การดำเนินการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืชที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2553 ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม 40 มาตรา จาก 69 มาตรา ได้มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปว่า เกษตรกรรายย่อยส่วนใหญ่มีข้อห่วงกังวลต่อการที่จะไม่สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกเองได้ดังเช่นที่เคยปฏิบัติมา ราคาเมล็ดพันธุ์ที่อาจจะสูงขึ้น และการกระทำผิด (ละเมิด) โดยไม่รู้ ซึ่งต่อมาภายหลังจากได้รับความรู้เกี่ยวกับการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายจากพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว เกษตรกรมีความเข้าใจและไม่คัดค้านการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายดังกล่าว โดยปัจจุบัน การเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืชทางเว็บไซต์ของกรมวิชาการเกษตรในระหว่างวันที่ 5-20 ตุลาคม 2560 ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการเสนอกฎหมายของหน่วยงานซึ่งจะต้องให้กระทรวงพิจารณาเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี และหาก ครม. เห็นชอบ จะต้องส่งร่างดังกล่าวไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาก่อนเสนอให้ สนช. ในขั้นตอนสุดท้าย

ต้นชะคราม เป็นพืชล้มลุกและเป็นวัชพืชที่ขึ้นแถวดินที่มีความเค็ม หาได้ง่ายแถวสมุทรสงครามและสมุทรสาคร ใบชะครามจะดูดความเค็มมาไว้ที่ใบ เวลาจะรับประทานจึงต้องนำมาลวกเอาความเค็มออก

ใบชะครามนำไปปรุงอาหารได้หลายอย่างนอกเหนือจากยำ ทำแกงคั่วใบชะครามใส่ปู ลวกทานกับน้ำพริก นำมาชุบไข่ทอดรับประทานกับน้ำพริก ทำห่อหมกและแกงส้มได้ นอกจากนั้น บางแหล่งข้อมูลกล่าวว่า ใบชะครามมีคุณค่าทางยา รากเป็นยาบำรุงกระดูกแล้ว กำลังศึกษาว่ามีสารอนุมูลอิสระสามารถป้องกันมะเร็งได้

วิธีการยำในวันนี้จะทำแบบยำถั่วพู ใส่มะพร้าวคั่ว กุ้งแห้งคั่วนำไปบด ใส่หมู กุ้ง ปลาหมึกลวก หอมเจียว กระเทียมเจียว ราดกะทิ รับประทานเคียงกับไข่ต้ม ชะคราม เป็นอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน สด อร่อย รับประทานกับข้าวหรือรับประทานเปล่าๆ ก็อร่อย ใช้เวลาเตรียมเครื่องพอสมควร แต่อร่อยคุ้มค่าจริงๆ ค่ะ

บางคนถามว่า ใบชะครามราคาเท่าไร กำนี้ซื้อที่ตลาดปากน้ำปราณ ราคามัดละ 10 บาทเท่านั้นค่ะ จานนี้ใช้ใบชะครามแค่ครึ่งมัด หรือถ้าชอบจะลวกหมดกำก็ได้ค่ะ ขอให้รับประทานให้เอร็ดอร่อยนะคะ

อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยลดลงมาก จากค่าเฉลี่ย 9% ต่อปีในปี 2529-2539 เหลือ 3% ในสองปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการที่ภาคอุตสาหกรรมพัฒนาจนถึงจุดอิ่มตัว ในขณะที่เศรษฐกิจมีความหลากหลายมากขึ้น และปัจจุบันประเทศไทยมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เป็นตัวพัฒนาความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล ซึ่งนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เป็นโครงการริเริ่มระดับประเทศ มีเป้าหมายพัฒนาอุตสาหกรรมที่ได้รับคัดเลือกให้มีมูลค่าสูงขึ้น โดยอาศัยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า

“เชอร์มิน ก็อตเฟรดเซ็น” ผู้จัดการใหญ่ ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย กล่าวว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องอาศัยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและมีทักษะทางเทคโนโลยี ในการผลักดันให้โครงการไทยแลนด์ 4.0 ประสบความสำเร็จ

ซึ่งไทยขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องดังกล่าวมาก เนื่องจากระบบการศึกษาของไทยผลิตวิศวกร ช่างเทคนิค และผู้ปฏิบัติงานด้านการผลิตไม่เพียงพอ รวมถึงมีประชากรในวัยทำงานลดลง และขาดการส่งเสริมเพื่อพัฒนาทักษะฝีมือของแรงงานที่มีอยู่

จากการสำรวจบริษัทต่าง ๆ ของธนาคารโลกพบว่า มีบริษัทในประเทศไทยเพียง 18% ที่จัดหาการฝึกอบรมอย่างเป็นทางการให้พนักงานของตนเอง ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน เช่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมกำลังขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะฝีมือ จึงต้องหาแผนกลยุทธ์โดยใช้ระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติ ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่เข้ามาช่วยทำงาน เพื่อสร้างมูลค่าจากทรัพยากรบุคคลที่มีอยู่ให้มากขึ้น และเพื่อยกระดับความรู้ความสามารถของพนักงาน

โดยหุ่นยนต์ที่สามารถปฏิบัติงานร่วมกับมนุษย์ได้ หรือ “โคบอตส์” (Collaborative Robots : Cobots) ช่วยให้พนักงานที่มีทักษะฝีมือน้อย มีกำลังการผลิตมากขึ้น และช่วยให้ธุรกิจเข้าสู่ยุคประเทศไทย 4.0 ได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องลงทุนสูงเกินไป เนื่องจากการใช้โคบอตส์เรียนรู้ได้ง่าย พนักงานจึงพัฒนาทักษะฝีมือของตนเองได้รวดเร็ว และง่าย เพื่อไปปฏิบัติงานในหน้าที่ที่มีมูลค่าสูงขึ้น โดยอาศัยความรู้ในการใช้โคบอตส์ช่วยให้ภาคธุรกิจเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่กิจกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมเร็วขึ้น

“โคบอตส์เป็นหุ่นยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับมนุษย์ ช่วยสร้างมูลค่าให้กับภาคธุรกิจ จึงไม่น่าแปลกใจที่ Barclays คาดการณ์ว่า ยอดขายโคบอตส์ทั่วโลกจะสูงถึง 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2568ซึ่งธุรกิจในประเทศใช้ประโยชน์จากโคบอตส์เพื่อเสริมกำลังการผลิตและพัฒนาคุณภาพสินค้าได้ หุ่นยนต์ประเภทนี้มีขนาดกะทัดรัด ปลอดภัย ใช้ง่าย และนำไปปรับเปลี่ยนให้เข้ากับการใช้งานได้”

ผู้บริหาร “ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์” มองว่า “โคบอตส์” จะเข้ามาปฏิรูปการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ ช่วยให้พนักงานมีกำลังการผลิตสูงขึ้น ช่วยให้ทำงานเดิม ๆ ซ้ำ ๆ และงานที่ต้องใช้แรงมากได้มีประสิทธิภาพ และแม่นยำขึ้น ทั้งการนำมาร่วมทำงานกับพนักงานในสายงานผลิตเดียวกัน ยังช่วยเสริมกำลังการผลิตให้สูงขึ้น และคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่

บิลต์อินภายใน ช่วยให้นำไปใช้งานร่วมกับพนักงานได้โดยไม่ต้องใช้รั้วป้องกันหนา ๆ และช่วยเสริมซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างงานที่มีคุณภาพที่ทั้งคู่ไม่อาจทำได้โดยลำพัง เช่น ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ (ยูอาร์) ใช้โคบอตส์และพนักงานร่วมกันประกอบแขนหุ่นยนต์ จึงได้ใช้ประโยชน์จากความแม่นยำของโคบอตส์ในการขันสกรู

และการวัดค่าต่าง ๆ ขณะที่พนักงานทำการติดตั้งชิ้นส่วนใหญ่ ๆ และสั่งงานเครื่องจักร งานติดตั้งทั้งกระบวนการสลับไปมาระหว่างโคบอตส์กับพนักงานบนโต๊ะทำงานตัวเดียวกัน ช่วยให้กระบวนการประกอบ รวมถึงคุณภาพของแขนหุ่นยนต์สูงขึ้นมาก

“พนักงานคนไทยที่ไม่เก่งไอที ก็เรียนรู้การใช้โคบอตส์ได้ไม่ยาก แค่ฝึกอบรมเล็กน้อยก็ใช้งานได้ พนักงานจะได้มุ่งเน้นในการพัฒนาทักษะฝีมือและความรู้ที่มีมูลค่ามากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรม หรืองานของตนเอง พนักงานจะได้ฝึกฝนทักษะภาษา การคิดเชิงวิเคราะห์ ความสามารถทางเทคนิค ช่วยให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญใหม่ ๆ เพื่อที่จะได้ปฏิบัติงานในหน้าที่ที่มีมูลค่าสูงขึ้น เช่น ออกแบบโซลูชั่นเพื่อพัฒนาศักยภาพธุรกิจ การวิจัยพัฒนา และการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือระบบปฏิบัติการ”

โฆษกกระทรวงพลังงานชี้แจงกรณีไทยซื้อถ่านหินจากประเทศสหรัฐฯ ไม่ได้ขัดแย้งต่อปฏิญญาปารีสว่าด้วยการลดโลกร้อน เพราะไทยให้ความสำคัญกับการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าอยู่แล้วตามแผน PDP 2015 และการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลในปัจจุบันยังมีความจำเป็นสำหรับโรงไฟฟ้าฐานเพื่อความมั่นคงของระบบพลังงานของประเทศ

ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทบทวนการซื้อถ่านหินจากประเทศสหรัฐฯ เพราะถ่านหินเป็นวัตถุดิบพลังงานที่ก่อให้เกิดปัญหาสภาวะโลกร้อน

และการที่นายกรัฐมนตรีสนับสนุนให้เอกชนซื้อถ่านหิน สะท้อนถึงการดำเนินนโยบายที่ขัดต่อปฏิญญาปารีสว่าด้วยการป้องกันปัญหาโลกร้อนนั้น กระทรวงพลังงานขอชี้แจงงว่าา การดำเนินการดังกล่าวของเอกชนสามารถดำเนินการได้ตามกลไกทางธุรกิจที่จะเลือกใช้เชื้อเพลิงจากประเทศใดก็ได้ ซึ่งเดิมเอกชนมีการนำเข้าอยู่แล้ว และประเด็นนี้ก็ไม่ขัดต่อข้อผูกพันของไทย

ในปฏิญญาปารีสว่าด้วยการลดโลกร้อนด้วย เพราะในส่วนของแผนงานของรัฐบาลได้ดำเนินการตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ. 2558 – 2579 (PDP 2015) ซึ่งให้ความสำคัญกับการลดก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตไฟฟ้าอยู่มากแล้ว โดย PDP 2015 มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในการผลิตไฟฟ้า 37% จาก 0.560 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อการผลิตไฟฟ้า 1 หน่วย ในปี 2556 จะเหลือ 0.319 กิโลกรัมต่อหน่วยในปี 2579 จากการดำเนินงานทั้งด้านการอนุรักษ์พลังงาน การพัฒนาพลังงานทดแทน และการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้า ซึ่งตามแผน PDP 2015 ต้องมีโรงไฟฟ้าหลักซึ่งใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งก๊าซธรรมชาติและถ่านหินเป็นโรงไฟฟ้าฐาน โดยมีโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังน้ำ แสงอาทิตย์ ก๊าซชีวภาพ และชีวมวล เป็นพลังงานเสริม ซึ่งมุ่งเน้นการกระจายการเชื้อเพลิงอย่างสมดุลและรักษาระดับราคาค่าไฟฟ้าที่เหมาะสม

สำหรับประเด็นการนำเข้าถ่านหินทั้งหมดในช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2555 – 2560 สัดส่วนการจัดหาถ่านหินนำเข้าจากต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการที่ราคาถ่านหินอยู่ในระดับต่ำไม่แพง เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงอื่น โดยในปี 2560 ช่วง 7 เดือนแรก(ม.ค.-ก.ค.) มีสัดส่วนการนำเข้าประมาณ 57%ของการใช้ในประเทศทั้งหมดคือ การผลิตไฟฟ้าและภาคอุตสาหกรรม ส่วนการผลิตในประเทศมีประมาณ 43% ซึ่งตั้งแต่ปี 2555 – 2560 การใช้ถ่านหินนำเข้าเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่การใช้ถ่านหินเพื่อการผลิตไฟฟ้าลดลง โดยในช่วง 7 เดือนแรก(ม.ค.-ก.ค.) ของปี 2560 อยู่ที่ระดับ 11,054 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.1%

“ดังนั้น การวางแผนด้านพลังงานของไทยจึงสอดคล้องกับกระแสโลกในการเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน เพื่อลดคาร์บอนไดออกไซด์ในการผลิตไฟฟ้า โดยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าและมาตรการโรงไฟฟ้าเทคโนโลยีถ่านหินสะอาด ซึ่งไม่ได้ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนตามที่นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนกล่าวอ้างแต่อย่างใด”

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชาวอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย รวม 77 หมู่บ้าน ได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาทุกวันตลอดระยะเวลาเกือบ 3 เดือน ในการร่วมกันปรับปรับปรุงพัฒนา สถานปฎิบัติธรรมดอยเวียงแก้ว ตำบลศรีดอนมูล อำเภอเชียงแสน พื้นที่327ไร่ ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นสถานปฎิบัติธรรมของพระครูบาบุญจุ่ม พระเกจิดังแห่งล้านนา โดยอำเภอเชียงแสนได้เลือกสถานที่แห่งนี้เป็นจุดวางดอกไม้จันทน์ ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 จึงทำให้ประชาชนในอำเภอเชียงแสนได้ช่วยกันปรับสถานที่ให้ดูสมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

โดยล่าสุดได้ปรับพื้นที่เนินเขาเป็นแปลงดอกดาวเรือง ซึ่งคาดว่าจะบานเต็มที่ในวันที่ 26 ตุลาคม นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมจุดจัดนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงเสด็จอำเภอเชียงแสน โดยความร่วมมือของประชาชนทุกหมู่เหล่าเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่านที่ทรงห่วงใยพสกนิกรในอำเภอเชียงแสน และประทานอาชีพที่หลากหลายมาให้ โดยเฉพาะโครงการหลวงฯ

พระครูประยุต เจติยานุการ รักษาการเจ้าอาวาสสถานปฎิบัติธรรมดอยเวียงแก้ว แจ้งว่า ขณะนี้การดำเนินการจัดเตรียมสถานที่ทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างมาก เป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของประชาชนทุกคนในอำเภอเชียงแสน ที่ผลัดเปลี่ยนกันมาพัฒนา ปรับปรุงสถานที่ จนใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าทุกอย่างจะสมบูรณ์ในวันทมี่19ตุลาคมนี้ และทุกอย่างจะทำอย่าง สมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

เมื่อวันที่ 9 ต.ค. พ.ต.ต.สมพร สงแสง ร้อยเวร สภ.คลองท่อม รับแจ้งเหตุจากนางวิเชียร เนื่องพงศ์ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/1 ม.7 ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ว่าวัวของตนที่เลี้ยงไว้ถูกโจรขโมยไป โดยเมื่อเวลา 18.00 น.ของวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนนำวัว 20 ตัว ซึ่งเลี้ยงไว้ในสวนปาล์มของเฒ่าแก่ โดยตนเป็นผู้ดูแลสวนดังกล่าว 100 กว่าไร่ และนำวัวมาผูกไว้อย่างแน่นหนากับต้นปาล์มภายในสวน แต่พอเช้าวันนี้ตนก็ไปปล่อยวัวให้กินหญ้าตามปกติ

นางวิเชียร กล่าวต่อว่า แต่มีวัวอยู่ตัวหนึ่งหายไป losingweightdone.com และพบว่ามีรอยถูกตัดด้วยมีด จากนั้น จึงแกะรอยวัวตัวดังกล่าวไปประมาณ 1 กิโลเมตร ก็พบร่องรอยของวัวและรถยนต์ โดยคนร้ายใช้รถกระบะในการก่อเหตุ ทั้งนี้ วัวตัวดังกล่าว เป็นเพศผู้ อายุ 14 เดือน สายพันธ์ชาโรเลย์ ตนซื้อมาในราคา 25,000 บาท เพื่อนำมาเป็นพ่อพันธุ์ ทำให้ตนรู้สึกเสียใจและเสียดายมาก เพราะตนทำอาชีพเลี้ยงวัวมากว่า 15 ปี ในเลี้ยงตัวเองและส่งลูกเรียนจนจบปริญญา และยังมีหลานอายุ 11 ปี อีก 1 คน ที่ต้องเลี้ยงดู

ด้าน นายสมหมาย ศรีสุข อายุ 37 ปี ชาวบ้าน กล่าวว่า ยายวิเชียรเป็นคนดีมาก เป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน เป็นคนขยันขันแข็ง ทำแต่งาน ไม่เบียดเบียนไคร คนไม่น่าจะมาขโมยวัวของยายเลย

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งลงบันทึกประจำวันและออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป ค่ายนมเด็ก สบช่องรอแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมฯออกประกาศ กระหน่ำโปรโมชั่นแรง-ลดราคา-ลุ้นโชคเที่ยว ตปท. ปั๊มยอดขายอีกระลอกกรมอนามัยแจง ช่วงสุญญากาศ เร่งแต่งตั้งกรรมการ คาดพฤศจิกายนนี้ครบ ต้นธันวาคมประชุมเข้มวางกรอบคุมการโฆษณา-การทำการตลาดนม ชง รมว.สาธารณสุข ประกาศทันที

เป็นที่รับรู้กันว่า พ.ร.บ.ควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา และจะมีผลให้ผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กถูกควบคุม โดยไม่สามารถทำการตลาดได้ทุกรูปแบบ แต่ล่าสุดเจ้าของสินค้ายังทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายอย่างคึกคัก ทั้งลดราคา แจกของพรีเมี่ยม ลุ้นรางวัลท่องเที่ยว จากก่อนหน้าที่ กม.จะมีผลบังคับใช้ ค่ายนมทุกค่ายต่างทุ่มงบฯจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทิ้งทวนอย่างหนักหน่วง

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ขณะนี้นมเด็กหลาย ๆ ค่ายยังเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมทางการตลาด สำหรับกลุ่มนมผงสูตร 3 หรือนมสำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป และทุกคนในครอบครัว ในช่องทางขายอย่างคึกคัก

จากการสอบถามไปยังนายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ รองอธิบดีกรมอนามัย ได้รับคำชี้แจงว่า ที่ยังเห็นทำกิจกรรมทางการตลาดอยู่ เนื่องจากยังไม่มีประกาศจากรัฐมนตรีออกมาควบคุม ซึ่งตอนนี้กฎหมายควบคุมการโฆษณาและการทำการตลาดเฉพาะนมสูตร 1 (สำหรับทารก 0-12 เดือน) และสูตร 2 หรือสูตรต่อเนื่อง (สำหรับเด็ก 6 เดือน-3 ปี) เท่านั้น

ทั้งนี้ เนื่องจากตามมาตรา 3 ระบุว่า “อาหารสำหรับเด็กเล็ก” หมายความถึง นม หรือผลิตภัณฑ์อื่นที่ใช้เป็นอาหาร ทั้งนี้ ที่มีข้อความแสดงให้เห็นว่า ใช้ในการเลี้ยงเด็กและเฉพาะตามที่รัฐมนตรีประกาศโดยคำแนะนำของคณะกรรมการ ซึ่งคณะกรรมการควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก หรือ คสตท. ตามมาตรา 5 ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน มีกรรมการโดยตำแหน่ง 8 คน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 5 คน และมีอธิบดีกรมอนามัย เป็นกรรมการและเลขานุการ

“คาดว่าจะแต่งตั้งคณะกรรมการเสร็จในเดือนพฤศจิกายนนี้ และเริ่มประชุมได้ในต้นเดือนธันวาคม เพื่อเร่งออกประกาศที่เหลืออีก 8 ฉบับ เช่น ข้อกำหนดในการบริจาค การให้ข้อมูล ฯลฯ ให้ทันใน 180 วัน นับแต่วันที่ พ.ร.บ.นี้บังคับใช้ ซึ่งก็จะทำให้การกำกับดูแลมีความชัดเจนขึ้น” นายแพทย์ธงชัยกล่าว

ขณะที่แพทย์หญิงกิติมา ยุทธวงศ์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมผู้ผลิตอาหารทารกและเด็กเล็ก ตัวแทนบริษัทผู้ผลิตนมผง ได้แก่ แอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส, ดูเม็กซ์, มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย), เนสท์เล่ (ไทย), เนสท์เล่ (ไทย) แผนกธุรกิจไวเอท นิวทริชั่น และแปซิฟิค เฮลธ์แคร์ (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ตอนนี้กฎหมายยังให้โฆษณาและทำการตลาดนมสูตร 3 สำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไปได้ ค่ายต่าง ๆ จึงหันมาโฟกัสทำการตลาดในกลุ่มนมผงสูตร 3