ด้านผลตอบแทน ชมพู่ 1 ต้น ห่อได้ประมาณจะได้ชมพู่ประมาณ

140 ก.ก. (รวมทั้ง 3 รุ่น) ราคาเฉลี่ย ก.ก.ละ 80 บาท คิดเป็นเงิน 140 X 80 ตกประมาณ 11,200 บาท หากผลผลิตไม่เสียหาย จะได้กำไรเฉลี่ยต้นละ 7,450 บาท ต่อปี คำแนะนำมือใหม่หัดปลูก

ต้นชมพู่เพชรสายรุ้ง ปลูกดูแลง่าย ใช้เวลาดูแลแค่ 3 ปี ก็เก็บผลผลิตออกขายได้ เนื่องจากชมพู่เพชรสายรุ้งมีราคาค่อนข้างแพง ทำให้เกษตรกรในพื้นที่อื่นๆ สนใจนำต้นชมพู่เพชรสายรุ้งไปปลูกในท้องถิ่นของตัวเอง แต่ส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จในการปลูกสักเท่าไร ส่วนหนึ่งอาจเพราะต้นชมพู่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ประการต่อมา เกษตรกรนำต้นพันธุ์ชมพู่เพชรสายรุ้งไปปลูกก็จริง แต่ไม่ได้นำองค์ความรู้หรือภูมิปัญญาในการปลูกดูแลเช่นเดียวกับที่เกษตรกรชาวเพชรบุรีปลูกดูแลต้นชมพู่เพชรสายรุ้งไปด้วย จึงทำให้เกษตรกรมือใหม่ส่วนใหญ่ประสบความล้มเหลวในที่สุด

มีคำแนะนำเพิ่มเติมว่า ควรเลือกซื้อกิ่งพันธุ์ ชมพู่เพชรสายรุ้ง สายพันธุ์แท้จากแหล่งต้นกำเนิดในจังหวัดเพชรบุรีเสียก่อน เลือกซื้อกิ่งพันธุ์ที่เป็น กิ่งปานกลาง ไม่อ่อน ไม่แก่ จนเกินไป ควรปลูกต้นชมพู่ในแหล่งดินร่วนปนทราย รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมัก นำกิ่งพันธุ์ลงปลูกในระยะห่าง 6×6 เมตร กลบดินที่โคนต้นให้แน่น นำไม้หลักมาปักยึดป้องกันต้นชมพู่โค่นหักเอน รดน้ำให้ชุ่ม ส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ปีละ 2 ครั้ง ต้นชมพู่จะให้ผลผลิตรุ่นแรกเมื่ออายุ 18-24 เดือน จะได้ผลผลิตประมาณ 50 ถุง เมื่อต้นชมพู่อายุ 4-5 ปี ขึ้นไปจะให้ผลผลิตสูงขึ้น เมื่อต้นชมพูมีอ่ายุมากขึ้น ก็ยิ่งให้ผลผลิตมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

“มะม่วงอาร์ทูอีทู” มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย เป็นมะม่วงพันธุ์การค้าของประเทศออสเตรเลีย ตั้งแต่ปี 2537 เป็นต้นมา ถูกพัฒนามาจากมะม่วงพันธุ์เคนท์ (Kent) ปัจจุบัน อาร์ทูอีทู เป็นมะม่วงที่มีการปลูกมากเป็น อันดับ 2 ของประเทศออสเตรเลีย อันดับ 1 คือ พันธุ์เคนซิงตัน ไพรด์

ลักษณะเด่นของอาร์ทูอีทู
คือเป็นพันธุ์มะม่วงที่มีอายุการเก็บรักษานานหลังการเก็บเกี่ยวและเป็นที่ต้องการของตลาดส่งออก คุณวารินทร์ ชิตะปัญญา นับเป็นเกษตรกรไทยรายแรกที่ปลูกมะม่วงสายพันธุ์นี้ในเชิงการค้า โดยนำมาปลูกในพื้นที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ปรากฏว่า ได้ผลผลิตและคุณภาพไม่แพ้ที่ปลูกในออสเตรเลีย

มะม่วงอาร์ทูอีทู ที่ปลูกในไทยจะมีผลผลิตเข้าสู่ตลาดในช่วงเดือนเมษายน อย่างไรก็ตาม มะม่วงอาร์ทูอีทูเป็นสายพันธุ์ที่บังคับให้ออกนอกฤดูได้ยากกว่าพันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง แม้จะมีการใช้สารแพคโคลบิวทราโซลราดเพื่อบังคับก็ตาม ทั้งนี้ มะม่วงอาร์ทูอีทู มีจุดเด่นในเรื่องช่อดอกใหญ่และดอกสมบูรณ์เพศจึงติดผลได้ง่ายมาก เรียกว่า หากต้นมะม่วงออกดอกแล้วโอกาสติดผลมีสูงมาก

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
มะม่วงอาร์ทูอีทู เป็นไม้ยืนต้นที่มีความสูงปานกลางถึงสูงมาก ลักษณะเป็นทรงพุ่ม กิ่งเปราะ และหักง่าย ลักษณะของดอกมะม่วงอาร์ทูอีทู มีความยาวของช่อดอก 20-50 เซนติเมตร ความกว้างของช่อดอก 10-20 เซนติเมตร ความหนาแน่นของขนมีน้อยมากหรือไม่มีเลย สีของดอกมีสีแดงด้านๆ และมีเปอร์เซ็นต์ของดอกสมบูรณ์เพศเป็นจำนวนมาก ทำให้มีการติดผลได้ง่ายกว่ามะม่วงพันธุ์อื่น ผลมีลักษณะกลม เนื้อแข็ง ผลค่อนข้างใหญ่ น้ำหนักประมาณ 800 กรัม ต่อผล ปริมาณเนื้อผลประมาณ 81.61% เมื่อสุกผิวผลจะมีสีเหลืองอมแดง เนื้อสีเหลืองมะนาว ไม่มีเสี้ยน รสหวาน

จุดเด่นที่ควรปลูก
มะม่วงอาร์ทูอีทู จัดเป็นมะม่วงประเภทกินสุกที่มีขนาดผลใหญ่ มีน้ำหนักผลเฉลี่ย 800 กรัม-1 กิโลกรัม เมื่อผลสุกสีของผลจะเปลี่ยนจากสีเขียวอมชมพูเป็นสีเหลืองอมแดงสวยงามสะดุดตาต่อผู้บริโภค จัดเป็นมะม่วงที่มีเนื้อละเอียดเนียนและลักษณะเนื้อแข็งเหมือนมะละกอไม่มีเสี้ยน เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการมะม่วงที่ไม่มีรสหวานจัด เพราะมีค่าความหวานเพียง 18 เปอร์เซ็นต์บริกซ์ ที่สำคัญ ไม่มีกลิ่นเหม็นขี้ไต้

วิธีปลูก ดูแลรักษา
มะม่วงอาร์ทูอีทู ใช้หลักการปลูกและดูแลเช่นเดียวกับมะม่วงพันธุ์ไทยทั่วไป สามารถปลูกได้ทั่วประเทศ แต่พบว่า มะม่วงอาร์ทูอีทูที่ปลูกในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น กลับช่วยให้สีผิวของมะม่วงอาร์ทูอีทูสวยงามกว่าการปลูกในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก อาร์ทูอีทูเป็นมะม่วงที่ขนาดทรงพุ่มใหญ่ ควรปลูกในระยะ 6×6 เมตร เป็นอย่างน้อย ต้นมะม่วงอาร์ทูอีทูจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีแรก และจะเจริญเติบโตช้าเมื่อต้นมีอายุประมาณ 4-5 ปี ต้มะม่วงจะเริ่มให้ผลผลิตในระยะนี้ด้วย เมื่อ าร์ทูอีทู มีอายุ 6 ปี อาจมีความสูงถึง 6 เมตร หรือมากกว่า

ในช่วง 2-3 ปีแรก ถ้าต้นมะม่วง อาร์ทูอีทู ไม่ได้รับการแต่งกิ่ง ต้นจะสูงมากและให้ผลน้อยลง ดังนั้น ช่วง 2 ปีแรก ควรตัดแต่งกิ่ง 2-3 ครั้ง ต่อปี เพื่อให้กิ่งก้านอยู่ในรูปทรงที่ดี เพื่อจะรองรับน้ำหนักของผลผลิตในช่วงปีต่อๆ ไป เมื่อต้นอายุ 5-6 ปี การเจริญเติบโตจะช้าลง แต่การแต่งกิ่งยังต้องทำต่อเนื่องทุกปี

หลังจากต้นมะม่วงอาร์ทูอีทูติดผลมีขนาดเท่าผลส้มเขียวหวาน ควรคัดเลือกไว้เพียงหนึ่งผลต่อหนึ่งช่อ ตัดแต่งกิ่งให้มีสภาพโปร่ง จะช่วยเพิ่มสีผิวผลของผลมะม่วงที่มีสีแดงให้มีผิวสวยมากขึ้น เนื่องจากผิวผลที่โดนแสงมากขึ้น จะช่วยสร้างเม็ดสีแดง ที่เรียกว่า สารแอนโธไซยานิน (Anthocyanin) ที่เปลือกมากขึ้น

ช่วงก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิต ประมาณ 1 เดือน ควรฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ ที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น โพแทสเซียมไนเตรต เพื่อเพิ่มคุณภาพเนื้อ และความหวาน เพื่อให้ได้มะม่วงอาร์ทูอีทูผลแก่ ที่มีรสชาติหวาน ควรเก็บเกี่ยวในช่วงที่จมูกของผลมีลักษณะสีเหลือง ผลผลิตที่เก็บในช่วงนี้จะยังคงมีความแข็งแรงพอที่จะบรรจุใส่กล่องและส่งไปถึงยังตลาดในช่วงที่เหมาะสมแก่การรับประทาน

คุณมงคล จอมพันธุ์ เกษตรจังหวัดตราด กล่าวถึง คุณเรือง ศรีนาราง เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพทำสวนปี 2562 ว่า คุณเรือง ศรีนาราง รู้จักนำประสบการณ์และเทคโนโลยีมาใช้ในการทำสวนทุเรียนจนกระทั่งได้ผลเป็นที่ยอมรับ เป็นต้นแบบศูนย์เรียนรู้ด้านการผลิตทุเรียนคุณภาพ ที่ลดต้นทุนผลิตปุ๋ยใช้เอง การใช้สารชีวภัณฑ์ ลดการใช้สารเคมี การบริหารจัดการน้ำ การนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ และเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้เพื่อนเกษตรกร เป็นรองประธานสภาเกษตรกรจังหวัดตราดและประธานแปลงใหญ่ทุเรียนท่ากุ่ม-เนินทราย ได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่นสาขาอาชีพทำสวนระดับภาคตะวันออกปี 2561 และได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพทำสวน ปี 2562 จะเข้ารับพระราชทานโล่ในงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในเดือนพฤษภาคมนี้

เล็งผลผลิตทำได้ง่ายกว่าชะนี กระดุม

คุณเรือง ศรีนาราง เกษตรกรวัย 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/2 หมู่ที่ 6 ตำบลท่ากุ่ม อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด ประกอบอาชีพทำสวนทุเรียนเป็นอาชีพหลัก ร่วม 25 ปี เดิมมีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดพิจิตร เมื่อเรียนจบประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) จากวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา วิทยาเขตพิษณุโลก แต่งงานกับ ดร.อัชญา ศรีนาราง เป็นคุณครูอยู่โรงเรียนคลองขวาง อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด จึงเริ่มต้นเรียนรู้อาชีพทำสวนทุเรียนที่จังหวัดตราดเมื่อ 30 ปีก่อน จากที่ดินของครอบครัวจำนวน 30 ไร่

“เริ่มทำสวนทุเรียนโดยไม่มีความรู้ด้านนี้มาก่อน แม้จะจบสาขาเกษตรแต่เป็นพืชแถบภาคกลางไม่ใช่พืชสวน ต้องเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด เริ่มด้วยการปลูกทุเรียน 3 สายพันธุ์อย่างละเท่าๆ กัน คือ หมอนทอง ชะนี กระดุม ทำไปเรียนรู้ไปจากการเข้าอบรม ดูงาน ขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตร และการลองผิดลองถูกร่วม 10 ปีจึงเริ่มเข้าใจ และได้ข้อสรุปเลือกที่จะปลูกพันธุ์หมอนทองเป็นรายได้หลัก เพราะเห็นว่า ชะนีกับกระดุมลงทุนเท่ากันแต่ชะนีติดลูกยากกว่า มีต้นทุนค่าแรงดูแลให้ติดผลสูง เมื่อชะนี หมอนทองได้ราคาดี จึงเลือกที่จะปลูกหมอนทองที่ติดลูกได้ดีกว่า

จากนั้นถึงปัจจุบันระยะเวลา 15-20 ปี ทยอยปลูกเฉพาะหมอนทองอย่างเดียว และขยายแปลงไปเรื่อยๆ จากแปลงที่ 1 ถึงแปลงที่ 4 ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกทุเรียน 180 ไร่ ผลผลิตรวมปีละประมาณ 300 ตัน” คุณเรือง เล่าถึงที่มาของอาชีพชาวสวนทุเรียนหมอนทอง

คุณเรือง เล่าถึงตอนที่เริ่มทำสวนทุเรียนเมื่อปี 2531 ระยะแรกทำกันในครอบครัว เป็นแบบล้มลุกคลุกคลาน ด้วยที่ดิน 40 ไร่ ปลูกทุเรียนหลากหลายสายพันธุ์ ได้ผลผลิตบ้างไม่ได้บ้าง พอปี 2539 มีปรากฏการณ์เอลนิโญ เกิดภาวะแห้งแล้งขาดแคลนน้ำ ทุเรียนของชาวสวนทั่วไปที่ปลูกไว้ไม่ได้ผล บางสวนต้องปล่อยให้ต้นตายเพราะไม่มีน้ำรด แต่ผมโชคดีที่มีแอ่งน้ำคลองขวางของตำบลทุ่ม อยู่ใกล้สวนจึงรอดวิกฤตนี้มาได้ และเป็นโอกาสที่ได้ผลผลิต ราคาค่อนข้างสูง ทำให้มีรายได้มากพอที่จะปลดหนี้สิ้นในปีนั้น และมีทุนทำสวนทุเรียนปีต่อๆ มา และสามารถซื้อที่แปลงใหม่ที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้น

“จากจุดเริ่มต้นปลูกทุเรียน 40 ไร่ประสบความสำเร็จ ปีที่เกิดวิกฤตเอลนิโญแต่รอดมาได้ จึงมีทุนที่จะขยายพื้นที่ปลูกทุเรียนออกไปเรื่อยๆ ค่อยๆ สะสมถึงปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกทุเรียนหมอนทองทั้งหมด 4 แปลง 180 ไร่ปลูกทุเรียนหมอนทอง 40,000 ต้น จากประสบการณ์ทำให้มีแนวคิดเรื่องของแหล่งน้ำในสวนทุเรียนเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งเกษตรกรควรจะมีแหล่งน้ำในสวนตัวเองอัตราส่วนในพื้นที่สวน 10 ไร่ ต่อแหล่งน้ำ 1 ไร่ และได้มีการบริหารจัดการแหล่งน้ำอ่างเก็บน้ำคลองขวางร่วมกันกับชลประทานและเกษตรกรใกล้เคียงช่วยกันขุดลอกอ่างและคูคลองให้มีน้ำใช้ได้ทั้งปี ทำให้เกษตรกรบริเวณอ่างเก็บน้ำไม่ต้องเผชิญภาวะภัยแล้งหนักๆ อีก” คุณเรือง กล่าว

ต่อยอดใช้นวัตกรรม ลดสารเคมี ลดต้นทุน ลดแรงงาน

คุณเรือง เล่าต่อว่า แก้ปัญหาเรื่องแหล่งน้ำในสวนทุเรียนผ่านไปเปลาะหนึ่งแล้ว ต้องเผชิญกับโจทย์สำคัญที่ต้องผลิตทุเรียนให้ได้คุณภาพปลอดภัย ทั้งเกษตรกรผู้ผลิตและผู้บริโภค รวมทั้งไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ระยะหลังๆ มีปัญหาเรื่องแรงงานเพิ่มขึ้นมาอีก จึงหาวิธีต่างๆ ที่จะลดต้นทุน ลดอันตรายจากการใช้สารเคมีที่จำเป็น และทำงานได้มีประสิทธิภาพ จึงออกแบบนวัตกรรมทดแทนแรงงานคนและช่วยประหยัดแรงงาน ต้นทุน เช่น วางระบบการให้ยา ปุ๋ย โดยทางน้ำ การพ่นยาป้องกันแมลงใช้รถพ่นยา (Air Bus) ลดปริมาณสารเคมีสารฆ่าหญ้า กำจัดแมลง และใช้สารชีวภาพให้มากขึ้น เช่น น้ำส้มควันไม้ ใช้ราเขียว เชื้อไตรโคเดอร์ม่าเพื่อกำจัดโรครากเน่าโคนเน่า (เกิดจากเชื้อราไฟทอปทอร่า)

ใช้สารหมักจากเชื้อ พด.7 เพื่อกำจัดไรแดง ใช้สารชีวภาพจำพวกปุ๋ยอินทรีย์ สารอินทรีย์สังเคราะห์ ปลาหมัก ผสมปุ๋ยคอกแทนปุ๋ยเคมี ซึ่งช่วยในเรื่องสิ่งแวดล้อมและลดต้นทุนด้วย โชคดีที่ตอนปลูกทุเรียน เว้นระยะระหว่างแถวและต้นไว้ถึง 10×10 เมตร ทำให้พื้นที่กว้างพอสามารถใช้รถพ่นยาได้ ในขณะที่งานบางอย่าง เช่น การเดินหาหนอนเจาะต้นทุเรียน การโยงต้นทุเรียน การโยงลูกทุเรียน และมือตัดทุเรียน เป็นงานละเอียดอ่อนยังจำเป็นต้องใช้แรงงานคน

“เราได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในสวนทุเรียนด้วย ระหว่างแถวได้ปลูกหมาก กาแฟโรบัสต้าแซมเพื่อช่วยเพิ่มรายได้และยังให้ประโยชน์ที่ช่วยคลุมดินสร้างความชุ่มชื้นด้วย ส่วนความปลอดภัยสิ่งแวดล้อมจากการใช้สารเคมี เราตระหนักเป็นพิเศษ ล่าสุดที่คิดนำแก๊ส (ความร้อน) และเชื้อไตรโคเดอร์ม่าแก้ปัญหาโรครากเน่าโคนเน่า เป็นนวัตกรรมใหม่ใช้ได้ผลดีโดยที่ไม่ต้องใช้สารเคมี สวนทุเรียนทั้ง 3-4 แปลงได้รับการรับรองมาตรฐาน GPA หรือการผลิตที่ถูกหลักการเกษตรดีที่เหมาะสมมาตั้งแต่ ปี 2547 และครบ 3 ปีจะต่ออายุจนกระทั่งถึงปัจจุบัน” คุณเรือง กล่าว

ตั้ง “กลุ่มทุเรียนแปลงใหญ่” ศูนย์เรียนรู้เพื่อสมาชิกเกษตรกร

คุณเรือง เล่าถึงกิจกรรมกลุ่มทุเรียนแปลงใหญ่ว่า เพิ่งรวมกลุ่มก่อตั้งปี 2560 ผลงานของกลุ่มที่ทำให้สมาชิกเครือข่าย 40 คน พอใจเห็นประโยชน์ชัดเจนคือ การได้พูดคุยหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน ตัวอย่างที่ชัดเจนช่วยการลดต้นทุนจากการผสมแม่ปุ๋ย ยาชีวภัณฑ์ใช้เอง ตัวอย่างปุ๋ยเร่งดอกผสมเอง 1 ตัน จะประหยัดได้ 300-400 บาท การทำฮอร์โมนบำรุงใบ ต้น ถ้าทำเอง 1 ลิตร ราคาไม่ถึง 20 บาท แต่ถ้าซื้อลิตรละ 200 บาท ส่วนการทำเชื้อไตรโคเดอร์ม่าใช้เอง ถ้าใช้สารเคมีจะแพงกิโลกรัมละ 3,00-1,000 บาท และรักษาไม่หายขาดถ้าทำเอง 250 กรัม ราคาไม่เกิน 15 บาท กิโลกรัมละ 60 บาทรักษาได้หายขาด

การรวมกลุ่มจะช่วยให้หน่วยงานภาครัฐและเกษตรกรมีความสะดวกที่เข้ามาดูแล เช่น สถานีพัฒนาที่ดินช่วยตรวจดิน การสนับสนุนเงินกู้ของ ธ.ก.ส. หรือการช่วยสอนทำบัญชีของสหกรณ์จังหวัด ซึ่งกลุ่มแปลงใหญ่ตอนนี้มีการระดมหุ้นจากสมาชิก 40 คน เป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่จะทำปุ๋ยใช้เอง อนาคตอาจจะมีเงินกู้จาก ธ.ก.ส. ให้สมาชิกกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยต่ำ

“นอกจากเกษตรกรแล้วยังได้ขยายผลการเรียนรู้ให้นักเรียนโรงเรียนคลองขวางเพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกให้ลูกหลานเกษตรกรให้สนใจด้านการเกษตร เพื่อต่อยอดเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ยุค Thailand 4.0 จริงๆ แล้วการรวมกลุ่มเกษตรกรจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน วันนี้เกษตรกรต้องรวมกลุ่มเพื่อพัฒนาทั้งด้านการผลิตและการตลาด จะต่างคนต่างทำไม่ได้ เพราะจะช่วยทั้งลดต้นทุนการผลิต การสร้างอำนาจต่อรองในตลาด ต่อไปหากทุเรียนมีปัญหาด้านการตลาด อาจจะมีการรวมกลุ่มกันขาย ใช้วิธีการประมูลหรือทำสัญญาตกลงราคา แต่ปีนี้ทุเรียนถือว่าราคาดี รุ่นแรกเฉลี่ยกิโลกรัมละ 110-120 บาท รุ่น 2 ที่จะออกกลางเดือนเมษายนที่มีผลผลิตมากยังได้ราคาอยู่ที่ 80 บาท สมาชิกจะขายกันเอง แต่ได้เริ่มสอนให้ทดลองทำตลาดออนไลน์ โดยให้สมาชิกเก็บทุเรียนพรีเมี่ยมไว้ต้นละ 1-2 ลูก เพื่อให้คุ้นเคย เผื่อเป็นทางเลือกเพราะได้มูลค่าสูง” คุณเรือง กล่าว

ขยายช่องทางพรีเมี่ยมออนไลน์และแปรรูปปีละ 30-40 ตัน

คุณเรือง เล่าว่า เมื่อลูกชาย อิสระ ศรีนาราง “เป๊ก” วัย 30 ปี เรียนจบปริญญาตรี และลูกสาว รังสิมา ศรีนาราง “รุ้ง” อายุ 26 ปี กำลังเรียนปริญญาโทอยู่ ทั้งสองคนได้ช่วยงานในสวนและเป็นสมาชิกกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ (Smart Farmer Yong) แรกๆ ให้เรียนรู้เรื่องสวนผลไม้ และเห็นว่าทุเรียนที่เหมาสวนแต่ละปี ประมาณ 300 ตัน มีทุเรียนตกไซซ์ เป็นทุเรียนที่แก่จัด คุณภาพดี รสชาติอร่อย เพียงแต่รูปทรงไม่สวยตามมาตรฐานการส่งออก 3-4 พูเต็ม จึงหาตลาดและรวบรวมทุเรียนตกไซซ์แต่ละปี ประมาณ 30-40 ตัน ขายส่งให้ลูกค้ารายย่อย เพื่อแปรรูปเป็นทุเรียนทอด ทุเรียนกวน และแปรรูปมีแบรนด์ Mr.Ruang และ ALBOX เป็นของตนเองขายทางอินเตอร์เน็ต ออนไลน์ให้ลูกค้าร้านขายของฝาก รวมทั้งลูกค้าที่สนใจทั่วไป ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีมาก และอีกส่วนหนึ่งได้คัดทุเรียนพรีเมี่ยมหมอนทอง ส่งขายออนไลน์กับกลุ่ม YFS ของจังหวัดตราดอีกด้วย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน

คุณเรือง กล่าวทิ้งท้ายว่า รางวัลต่างๆ ที่ได้รับช่วงเวลาทำสวนทุเรียนมา 25 ปี ทุกรางวัลล้วนมีความสำคัญและมีคุณค่า ทำให้มีความภาคภูมิใจในอาชีพชาวสวน เช่น ปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาพืชศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา ซึ่งรวม 7 สถาบันหลักในภาคเหนือ และเป็นสถาบันที่เคยเรียนมา ส่วนรางวัลมิราเคิลออฟไลฟ์ รางวัล “คนดีศรีพิจิตร” เป็นรางวัลชาวพิจิตรภาคตะวันออกเสนอให้ ทำให้มีความรู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนช่วยเหลือบ้านเกิดจังหวัดพิจิตร และล่าสุดรางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพทำสวน ปี 2562 เป็นความภูมิใจอย่างยิ่ง

เกษตรกรไม่ใช่ทำสวนเก่งอย่างเดียว ต้องมีใจเผื่อแผ่ ถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกรรุ่นใหม่อย่างเต็มที่และต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ฝากให้เกษตรกรรุ่นใหม่ช่วยกันสืบทอดอาชีพเกษตรกรรมให้ยั่งยืน เพราะเป็นอาชีพที่ทำแล้วมีความสุข…

คุณประทุม เสนกุล เกษตรอำเภอเมืองตราด กล่าวเพิ่มเติมในตอนท้ายว่า ด้วยความเข้มแข็งและการเติบโตของกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนท่ากุ่ม เนินทราย ทำผลผลิตทุเรียนมีคุณภาพ สำนักงานเกษตรจังหวัดตราดร่วมกับสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดตราด จัดกิจกรรม “วันผลไม้ของดีเมืองตราด” ที่บริเวณศูนย์เรียนรู้กลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนท่ากุ่ม เนินทราย ระหว่างวันที่ 20-21 เมษายนนี้ เพื่อประชาสัมพันธ์ผลไม้ดี มีคุณภาพของอำเภอเมืองตราดอีกแห่งหนึ่ง เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดตราด…นี่คือผลพวงจากการพัฒนากลุ่มทุเรียนแปลงใหญ่ภายใต้การนำทางของ คุณเรือง ศรีนาราง ประธานกลุ่มที่ได้รับการคัดเลือกเป็นเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพทำสวนปี 2562

ป้องกันกำจัดโรครากเน่าโคนเน่า

คุณเรือง ศรีนาราง กล่าวถึงโรคของทุเรียน คือโรครากเน่าโคนเน่า ที่เกิดจากเชื้อราไฟทอปทอร่า (Phatopthora) ทำให้ต้นทุเรียนตายจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะแพร่ระบาดช่วงฤดูฝนที่อากาศชื้น ทั้งนี้ ได้ใช้ระยะเวลา 2 ปีคิดค้นทดลองใช้ได้ผลดี คือนำแก๊ส (ความร้อน) เผาฆ่าเชื้อไตรโคเดอร์ม่าแก้ปัญหาโรครากเน่าโคนเน่า เป็นนวัตกรรมใหม่โดยไม่ใช้สารเคมี แต่ใช้สารชีวภัณฑ์แทน ปัจจุบันได้เผยแพร่ให้เครือข่ายสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียน วิธีการทำง่ายๆ ดังนี้

ใช้จอบเล็กๆ หน้าบางๆ ขูดเปลือกลำต้นให้เห็นแผลเชื้อรา ใช้กระสอบพลาสติกรองรับเปลือกที่ขูดเชื้อราออกเพื่อนำไปเผาทำลาย ถ้าปล่อยให้ร่วงลงโคนต้นจะลาม ทำให้เกิดโรครากเน่าจากเชื้อราได้
เตรียมอุปกรณ์พ่นแก๊ส ใช้แก๊สเป็นกระป๋องและใส่หัวสเปรย์ จุดไฟและให้แก๊สพ่นความร้อน เผาบริเวณที่เป็นแผลเชื้อรา โดยเฉพาะตรงขอบเพื่อไม่ให้ลุกลามประมาณ 3-5 นาที ทิ้งให้เย็นลงสักครู่
ใช้เชื้อราไตรโคเดอร์ม่าผสมน้ำ สมัครเแทงบอล อัตราส่วน 250 กรัม : น้ำ 1 ลิตร กวนผสมให้เข้ากัน (มีเกษตรกรบางรายใช้น้ำมังคุดหมัก อัตราส่วน 1 : 1 ได้ผลเช่นเดียวกัน)
ใช้แปรงจุ่มน้ำเชื้อราไตรโคเดอร์ม่าทาบริเวณที่เป็นแผลที่ลนความร้อนไว้ให้ทั่ว ปล่อยทิ้งไว้จะช่วยป้องกันโรคโคนเน่า
หรืออาจจะใช้เชื้อไตรโคเดอร์ม่าป้องกันโรค “ใบติด” โดยให้ในระบบน้ำที่รดทุเรียน อัตราส่วนเชื้อราไตรโคเดอร์ม่า 1 กิโลกรัม ผสมน้ำ 200 ลิตร ได้ผลเช่นกัน

สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักและคิดถึงทุกท่าน ในช่วงที่ลมร้อนพัดผ่านผิวกาย อดมิได้ที่จะส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาขนลุกซู่ ด้วยกระอายไอร้อนจากแสงแดดที่แผดกล้า หันไปมองต้นไม้ก็หดหู่ใจยิ่งนัก ใบเหี่ยวหรุบรู่ ครั้นจะหาน้ำมารดก็อาจเป็นภาระที่หนักหนา ด้วยว่าน้ำในแหล่งน้ำตามธรรมชาติก็ลดน้อยลง จะเข้าโครงการปลูกพืชดูจะเป็นการยากไปเสียทุกอย่าง

ปัจจัยหลายๆ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการปลูกพืช ขยายพันธุ์พืช กระทั่งการให้ผลผลิตจากพืชนั้นๆ นอกจากดิน น้ำ ปุ๋ย แสงแดดที่พอเหมาะแล้ว สภาพอากาศก็ส่งผลอย่างหนัก ดูง่ายๆ มะละกอในช่วงนี้ดอกร่วง ติดผลน้อย หรือแทบไม่ติดผล ส่อเค้าว่าในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมของปีนี้ มะละกอผลสุกอาจราคาแพงกว่าทุกปี

ในวงการไม้ดอก ดาวเรืองก็เป็นอีกหนึ่งชนิดที่มีการปลูกเพื่อการค้า ที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรพอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้โดยไม่ขัดสนนัก กิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องตั้งแต่ผู้จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ ผู้จำหน่ายปุ๋ย ผู้จำหน่ายยารักษาโรค ไปจนถึงพ่อค้าแม่ค้าขายดอกไม้สด ขายพวงมาลัยในงานพิธีต่างๆ กระทั่งในการหาเสียงของผู้สมัคร สส. ที่ผ่านมา หรือในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่กำลังจะมาถึง ด้วยชื่อของดาวเรือง ที่มีเสียงพ้องกับความรุ่งเรือง และเป็นไม้ดอกสีเหลืองสำหรับผู้ที่เกิดวันจันทร์อีกด้วย

ปัจจุบัน เมล็ดพันธุ์ดาวเรืองถูกพัฒนาขึ้นให้ดอกมีสีเหลืองหลายเฉด เช่น เหลืองทอง เหลืองอมแดง และพัฒนามาเพื่อการปลูกในช่วงฤดูกาลก็ต่างกัน หน้าแล้งก็สายพันธุ์หนึ่ง หน้าฝนก็สายพันธุ์หนึ่ง หน้าหนาวก็อีกสายพันธุ์หนึ่ง หรือกระทั่งการปลูกลงดินก็สายพันธุ์หนึ่ง ปลูกเป็นไม้กระถางหรือไม้ในถุงดำก็อีกสายพันธุ์หนึ่ง ที่สำคัญก็คือเมล็ดพันธุ์มีราคาค่อนข้างสูงและไม่สามารถเก็บเมล็ดไปปลูกต่อได้ ทำให้ต้นทุนในการปลูกแต่ละรอบจะต้องมีค่าเมล็ดพันธุ์อยู่เสมอ

ผมได้นัดพบกับ พี่วโรชา จันทโชติ เจ้าของสวนและสายพันธุ์มะนาวแป้นวโรชาอันโด่งดังแห่ง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทองนั่นเอง ก่อนนั้นพี่วโรชาก็คลุกคลีอยู่กับมะนาวเป็นหลัก วันๆ ทั้งตอนกิ่ง ชำกิ่ง ปลูก ดูแล และเปิดอบรมให้ผู้ที่สนใจเข้ามาไม่ขาดสาย แต่ยังมีอีกหนึ่งอาชีพที่เคยทำจนสอนลูกศิษย์ไปได้มากมาย นั่นก็คือการทำไม้ถุง ทั้งไม้ดอกและไม้สวนครัว และดาวเรืองก็เป็นศาสตร์วิชาการเกษตรที่หารายได้พิเศษอยู่เสมอ