ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประกอบการในพื้นที่สามารถขยายธุรกิจโดยการ

สร้างโรงอบใบชา และนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศ ซึ่งมีมูลค่า 2 – 3 ล้านบาท เพื่อมาผลิตชาที่มีคุณภาพ จนทำให้รายได้จากการจำหน่ายชาและการส่งออกชาปีละเป็นร้อยล้านบาท สามารถช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกชาที่เข้าร่วมโครงการ 124 คน จากชุมชนผู้ผลิตชาคุณภาพ ปลอดภัย ดอยวาวี อำเภอแม่สรวย และสหกรณ์สวนชาดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ซึ่งได้รับการรับรองการผลิตพืชอินทรีย์ (Organic Thailand) 26 ราย รวมพื้นที่ปลูก 232 ไร่ และได้รับการรับรองการผลิตพืชอินทรีย์สหภาพยุโรป (EU) กลุ่มเกษตรกรจำนวน 66 ราย รวมพื้นที่ปลูกชา 2,702 ไร่

อย่างไรก็ตาม จุดเด่นชาวาวี นอกจากเป็นชาอินทรีย์แล้ว พื้นที่ดอยวาวียังเป็นแหล่งปลูกชา “อัสสัม” คุณภาพดี โดยในพื้นที่ดังกล่าวมีต้นชาอัสสัมที่มีอายุมากกว่าร้อยปี และมีบางต้นที่มีอายุถึงหนึ่งพันปี แต่ที่โดดเด่นที่สุดที่พื้นที่อื่นไม่มี คือ บริเวณนี้มีน้ำใต้ดินที่เป็นน้ำแร่คุณภาพสูง ส่งผลให้ชาอัสสัมที่ผลิตได้มีคุณภาพสูงมาก ซึ่งทางกลุ่มพ่อค้าชาชาวจีนได้เคยเก็บตัวอย่างใบชาสดและชาอบแห้งไปวิเคราะห์คุณภาพ พบว่า ชาวาวีเป็นยอดชาที่มีคุณภาพมากที่สุด จึงทำให้ชาวาวี เป็นที่ต้องการของตลาดจีนอย่างมาก

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเปิดตัว “ศูนย์จำหน่ายอาหารเพื่อสุขภาพครบวงจร ปลอดสารเคมี” หรือ เอ็นดูเฮิร์บ (En Doherb) เนื้อที่กว่า 4 ไร่ ตั้งอยู่ตลาดเชิงสะพาน ซ.ราชพฤกษ์ 17 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นตลาดรูปแบบใหม่ทันสมัยเอาใจคนรักสุขภาพ สไตล์การตกแต่งจำลองพื้นที่รูปแบบของฟาร์มระบบปิดสุญญากาศที่คงความเย็นแบบธรรมชาติ ที่สามารถคงความสดของสินค้าไว้ได้ดีและสดใหม่อยู่เสมอ เป็นหนึ่งในการรวบรวมพืชผัก ผลไม้ เนื้อหมู ไก่ ที่ปลอดสารเคมี จากเกษตรกร ชาวสวน ชาวไร่ ที่อยู่ในกลุ่ม

นางมัณฑิตา วงศ์พิทักษ์โรจน์ อายุ 45 ปี เจ้าของตลาดฟาร์มยุค 4.0 ชาวจ.หนองคาย กล่าวว่า มาเปิดศูนย์สินค้าเกษตรนานาชนิด ขายพืช ผัก เนื้อหมู-ไก่ เห็ด ผลไม้ปลอดสารต่างๆ ที่นำมาจากสวนในหลายจังหวัด อาทิ หนองคาย เชียงใหม่ เชียงราย บุรีรัมย์ เพชรบูรณ์ ราชบุรี ซึ่งเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ สด ใหม่ ปลอดสาร และราคาประหยัด ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป เพราะเราขายเองโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง จากไร่ผ่านมือเกษตรกรถึงประชาชนผู้บริโภคเองโดยตรง ในรูปแบบการถนอมสินค้าที่จำลองอากาศเสมือนจริงในอุหภูมิที่เหมาะสม ที่จะทำให้สินค้ามีความสดใหม่อยู่ตลอดเวลา พร้อมกับเปิดจำหน่ายสินค้าให้กับประชาชนและชาวบ้านที่รักสุขภาพแบบครบวงจรในพื้นที่โดยรอบของถนนราชพฤกษ์และจังหวัดใกล้เคียง ที่ไม่ต้องเดินทางไกลเพื่อไปเลือกซื้อสินค้า พืช ผักและเนื้อหมู-ไก่ ยังต่างจังหวัดอีกต่อไป เราได้สร้างฟาร์มและยกสินค้าทางการเกษตรมากมายหลายชนิด มารวมไว้ที่ตลาดแห่งนี้แล้ว เพราะเราคือลูกเกษตรกรแท้ 100% พร้อมเปิดบริการจำหน่ายสินค้าเกษตรทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00- 21.00 น.

วันที่ 13 ก.พ. เวลา 14.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ ถึงกรณีปัญหามลพิษจากหมอกควันและฝุ่นละอองในอากาศที่เกิดขึ้นขณะนี้ว่า ไม่ต้องการให้ทุกคนวิตกกังวลจนมากเกินไปกับปัญหาดังกล่าว โดยขณะนี้หลายๆ คนมีมาตรการป้องกันตัวเองไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากากอนามัยเวลาออกนอกบ้าน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีในการป้องกันตัวเอง

โดยในส่วนของรัฐบาลจะมีมาตรการทำฝนเทียมเพื่อลดฝุ่นละออง พร้อมกันนี้ ได้กำชับให้กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งข่าวเตือนประชาชนอยู่อย่างต่อเนื่อง

“ปัญหามลพิษจากหมอกควันและฝุ่นละอองในอากาศที่เกินค่ามาตรฐาน เป็นปัญหาระดับโลกในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะประเทศใหญ่ๆ ก็ประสบปัญหาเหมือนกัน สาเหตุของปัญหาเกิดจากหลายประเด็น ทุกคนต้องร่วมมือกัน ลดฝุ่นละออง โดยเฉพาะผู้ประกอบการต่างๆ และเกษตรกรที่เผาซังข้าวเพื่อเตรียมการปลูกพืช” นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายทรงพันธ์ จันทร์สว่าง เกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด นำนักปั่นจักรยาน มี เกษตรอำเภอ 20 อำเภอ หัวหน้ากลุ่มฯหัวหน้าฝ่าย นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ร่วมปั่นท่องเที่ยวเชิงเกษตรบนเขาเขียว อำเภอหนองพอก จากพระมหาเจดีย์ศรีชัยมงคล สวนพฤกษศาสตร์ในวรรณคดี ผากิ่วลม ผานางคอย สู่ผาหมอกมิวาย บนหน้าผาสูงชันพร้อมการประชุมประจำเดือน กุมภาพันธ์ 2561 ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น เป็นการประชุมสัญจร ครั้งที่ 1 นายพงษ์ศักดิ์ ลาภา เกษตรอำเภอหนองพอก เจ้าภาพสถานที่ ขึ้นเขา ลงเขา ทั้งถนนเรียบ และถนนลูกรัง รวมระยะทาง 25 กิโลเมตร

จังหวัดท่องเที่ยวเตรียมกิจกรรมรับเทศกาลตรุษจีนคึกคัก เชียงใหม่อานิสงส์หนาว ผุดกิจกรรมต่อเนื่อง งานไชน่าทาวน์ดึงนักท่องเที่ยว 3 หมื่นคน ด้านพัทยาเริ่มโปรโมตแหล่งเที่ยวใหม่ เม็ดเงินสะพัด 300 ล้านบาท ขณะที่ภูเก็ตเที่ยวบินเตรียมทะยานสูง 400 เที่ยวบิน โรงแรมเต็ม 100% ส่วนสุราษฎร์ฯอู้ฟู่ รับนักท่องเที่ยวทั้งอ่าวไทย-อันดามัน

เชียงใหม่เตรียมรับ 3 หมื่นคน นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งยังคงอยู่ในช่วงฤดูการท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น โดยเฉพาะในปีนี้มีปัจจัยบวกหลายด้านที่ช่วยหนุนให้สถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ในภาพรวมค่อนข้างคึกคัก ทั้งสภาพอากาศที่หนาวเย็นยาวนานกว่าทุกปี

และมีกิจกรรมการท่องเที่ยวหลากหลายตลอดทั้งเดือน อาทิ งานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ วันวาเลนไทน์ และเทศกาลตรุษจีน ซึ่งพบว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงเดือนนี้มากกว่าปีที่ผ่านมา โดยวัดจากอัตราการจองห้องพักโรงแรมที่เป็นสมาชิกของสมาคม เฉลี่ยมากกว่า 85% เป็นสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีน 40% ยุโรป-สหรัฐอเมริกา 50% และนักท่องเที่ยวไทย 10%

โดยเฉพาะเทศกาลตรุษจีนของจังหวัดเชียงใหม่มีกิจกรรมตรุษจีนไชน่าทาวน์เชียงใหม่ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีบริเวณตรอกเล่าโจ๊ว ย่านตลาดวโรรส เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจะมีวันพักเฉลี่ย 3-4 วัน ค่าใช้จ่ายต่อหัวอยู่ที่ราว 4,000 บาท คาดว่าในช่วงเดือนนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่ 30,000 คน รายได้การท่องเที่ยวจะอยู่ที่ 120 ล้านบาท

พัทยาอัดโปรแกรมต่อเนื่อง

ด้านนายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า ตรุษจีนทุกปีมีความคึกคักอยู่แล้ว ปีนี้ก็เช่นกัน โดยช่วงวันที่ 16-22 กุมภาพันธ์ ยอดจองห้องพักเต็มเกือบทุกแห่ง และคาดว่าช่วงอาทิตย์หลังตรุษจีนนักท่องเที่ยวจะทะลักเข้ามาอีกระลอก เนื่องจากไม่ต้องจ่ายค่าเซอร์ชาร์จเหมือนช่วงตรุษจีน ที่เพิ่มขึ้น 800-1,000 บาท/ห้อง

นายเอกสิทธิ์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่มาพัทยา เริ่มมีการรีเควสต์แหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ส่งผลให้เม็ดเงินมีการกระจายลงสู่พื้นที่ต่าง ๆ มากขึ้น เช่น ปราสาทสัจธรรม ตั้งแต่กลางปี 2560 ที่ผ่านมา ได้รับความนิยมอย่างมาก แม้ว่าจะไม่มีการลดราคา หรือให้ค่าหัวกับไกด์ทัวร์ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเติบโต 100%

“ช่วงตรุษจีนปีนี้นอกจากกรุ๊ปทัวร์จีนก็มีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเอง จะทำให้เงินกระจายลงพื้นที่มากขึ้น คาดว่าใช้จ่ายต่อหัวประมาณ 3,000-4,000 บาท เงินจะสะพัดถึง 300 ล้านบาท”

สำหรับกิจกรรมในพัทยานอกจากเทศกาลตรุษจีน ก็มีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง อาทิ วันที่ 3 มีนาคม จะมีการจัดวิ่ง Night Run ซึ่งงานนี้จะมีวง BNK 48 มาโชว์ จากนั้นเดือนพฤษภาคมจะมีงานอเมซซิ่ง ซีฟู้ด ครั้งที่ 4 เป็นการรวมยอดเชฟในพัทยามาร่วมงาน และเดือนมิถุนายน จะมีงานไทยแลนด์ ทราเวล มาร์ท ที่โอเชี่ยนมารีน่า จะเป็นงานที่รวมบายเออร์จากทั่วโลกมาดูโปรดักต์ของไทย ซึ่งคาดว่าตัวเลขการท่องเที่ยวพัทยาในปี 2561 จะสูงกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 3-5%

ภูเก็ตคาดบิน 7 หมื่นคน/วัน

นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า การปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ กำหนดแล้วเสร็จมิถุนายน 2561 เมื่อแล้วเสร็จสามารถรองรับผู้โดยสารได้ จำนวน 12 ล้านคนต่อปี แต่ปัจจุบันการเติบโตของผู้โดยสารได้เกินขีดความสามารถไปแล้ว คือ จำนวน 16 ล้านคนต่อปี โดยช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมีผู้โดยสารจำนวนกว่า 65,000 คน เที่ยวบิน 363 เที่ยวบิน และในช่วงตรุษจีนคาดว่าผู้โดยสารวันละ 7 หมื่นคน เที่ยวบินน่าจะถึง 400 เที่ยวบินต่อวัน อย่างไรก็ตาม ได้เร่งแผนงานก่อสร้าง ซึ่งเมื่ออาคารเสร็จเรียบร้อยมั่นใจว่าท่าอากาศยานภูเก็ตสวยงามเป็นที่ประทับใจแก่นักท่องเที่ยวทั่วโลก

ด้านนางกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า ช่วงตรุษจีนการท่องเที่ยวภูเก็ตคึกคัก มีการจองห้องพักล่วงหน้าแล้วจำนวนมาก ห้องพักค่อนข้างเต็ม และหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนในจังหวัดภูเก็ตมีการจัดกิจกรรมช่วงตรุษจีน เช่น กิจกรรมงานเทศกาลโคมไฟ ช่วงกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม และกิจกรรมงานตรุษจีนย้อนอดีต ระหว่างวันที่ 21-23 กุมภาพันธ์นี้ เป็นต้น ภายในงานดังกล่าวมีกิจกรรมมากมายที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

“ตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้ามาช่วงตรุษจีน มีตลาดจีน ยุโรป กลุ่มเรือซูเปอร์ยอชต์ และมีเป้าหมายขยายตลาดอีกหลายกลุ่ม ซึ่งตลาดจีนเป็นลูกค้าที่เดินทางแบบเอฟไอทีหรือท่องเที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้น ซึ่งในช่วงตรุษจีนคาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 10% อัตราห้องพักเต็มเกือบ 100% ในบริเวณหาดป่าตอง หาดไม้ขาว ส่วนในเมือง อัตราห้องพักอยู่ที่กว่า 90% นับว่าตรุษจีนปีนี้คึกคักมาก”

สุราษฎร์ฯอู้ฟู่รับทรัพย์ 2 ฝั่งทะเล

นางสาวจินตนา สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุราษฎร์ธานี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เดือนกุมภาพันธ์ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีนของปีนี้ สุราษฎร์ธานีคึกคักเป็นพิเศษ นอกจากจะเป็นจังหวัดที่เชื่อมระหว่างอันดามันกับอ่าวไทย มีโอกาสได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรป อเมริกา รัสเซีย สวิตเซอร์แลนด์ จากฝั่งอันดามันที่มาล่องแก่ง เดินป่าในอุทยานแห่งชาติเขาสก เที่ยวเขื่อนรัชชประภา และยังได้รับอานิสงส์จากนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยวเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า เป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามายังสนามบินสุราษฎร์ธานีจากสายการบินต่าง ๆ ประมาณ 2,400 คน/สัปดาห์ โดยมีเที่ยวบินอยู่ประมาณ 48 เที่ยวบิน/เดือน แต่ช่วงตรุษจีนมีเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำจากจีนเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ สายการบินไลอ้อนแอร์ 30 เที่ยวบิน สายการบินไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ 12 เที่ยวบิน ทำให้เดือนกุมภาพันธ์มีเที่ยวบินรวมกว่า 90 เที่ยวบิน

“ธุรกิจการท่องเที่ยวของสุราษฎร์ธานีในปีนี้ถือว่าบูมมาก เพราะนักท่องเที่ยวจีนไปเกาะสมุยค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่จะใช้สุราษฎร์ธานีเป็นเมืองผ่านเพื่อขึ้นรถบัสแล้วต่อเรือเดินทางไปเที่ยวเกาะสมุย เพราะสนามบินสมุยมีขีดจำกัดในการรองรับเที่ยวบิน และมีราคาค่าตั๋วเดินทางแพงกว่าการบินมาลงที่สนามบินสุราษฎร์ธานี เมืองสุราษฎร์ธานีจึงได้รับอานิสงส์และมีรายได้ไปด้วย แม้สัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติของเมืองสุราษฎร์ธานีจะมีเพียง 20% แต่นักท่องเที่ยวจีนก็มาเป็นอันดับ 1 ส่วนอีก 80% จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยที่นิยมมาจัดประชุมสัมมนา”

นอกจากนี้ การกระตุ้นของรัฐบาลที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรอง มีแนวโน้มว่าตัวเลขการท่องเที่ยวของจังหวัดจะเพิ่มขึ้นมาก คาดว่าเฉพาะตัวเมืองสุราษฎร์ธานีในปีนี้จะเพิ่มขึ้นประมาณ 2% จากปี 2560 ซึ่งในปี 2559 มีนักท่องเที่ยวไทย-เทศ 161,328 คน และในปี 2560 เพิ่มขึ้นมาเป็น 2.4 ล้านคน รวมรายได้ทั้งจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน ประเมินการเบื้องต้นอยู่ที่ 87,920 ล้านบาท แบ่งเป็นเฉพาะตัวเมืองสุราษฎร์ธานีอยู่ที่ประมาณ 15,371 ล้านบาท และคาดว่า 2561 จะทะลุถึง 2 หมื่นล้านบาท

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ ติดตามเกษตรกรและผู้สนใจที่ผ่านการอบรมจากศูนย์อำนวยการโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ อำเภอสันป่าตอง ปี 2560 เผย สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอดและปรับใช้ได้จริง ผลผลิตได้คุณภาพ ช่วยเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายในครัวเรือน หนุนภาครัฐดำเนินงานต่อเนื่อง ขยายเป้าหมายโครงการไปสู่พื้นที่ใกล้เคียงต่อไป

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการประเมินผู้ผ่านการอบรมจากศูนย์อำนวยการโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ปีงบประมาณ 2560 ซึ่งจากการติดตามของ สศท.1 พบว่า ปีงบประมาณ 2560 มีการจัดอบรมให้ความรู้ด้านการเกษตรต่างๆ ได้แก่ เทคโนโลยีการผลิตลำไยที่เหมาะสม การเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก การมีส่วนร่วมของคนในชุมชน การจัดทำบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว การผลิตพืชผักปลอดภัยตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง การถนอมอาหาร และการพัฒนาการเกษตรสู่ระบบเกษตรอินทรีย์

การดำเนินงานปีงบประมาณ 2560 มีเกษตรกรและผู้สนใจ จำนวน 554 ราย ซึ่ง สศท.1 ได้ติดตามและสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างผู้ผ่านการอบรม พบว่า ภายหลังการอบรม ผู้ผ่านการอบรมร้อยละ 77 มีการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ และร้อยละ 63 มีรายจ่ายลดลง เช่น จากการผลิตปุ๋ยอินทรีย์/น้ำหมัก/สารชีวภัณฑ์ใช้เอง จากการปลูกผักอินทรีย์ และการเลี้ยงปลาไว้บริโภคในครัวเรือน รวมถึงการปรับแนวคิดสู่เศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้นจากผลผลิตลำไยมีคุณภาพดีขึ้น จากการดูแลรักษาและตัดแต่งกิ่งลำไยที่เหมาะสม การขายผักอินทรีย์และปลาที่เหลือจากการบริโภคในครัวเรือน

ด้านสังคม มีการรวมกลุ่มภายหลังจากการฝึกอบรมร้อยละ 52 และผู้ผ่านการอบรมมีการถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับให้แก่บุคคลอื่น เช่น เพื่อนบ้าน ญาติ และผู้ปกครอง ทั้งนี้ ยังพบว่าแปลงเกษตรมีการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น และผู้ผ่านการอบรมส่วนใหญ่จะยังคงนำความรู้ไปปฏิบัติต่อเนื่องในอนาคต

อย่างไรก็ตาม พบว่า มีผู้ผ่านการอบรมบางส่วนที่ยังไม่ได้นำความรู้ ไปปฏิบัติ ซึ่งยังประสบปัญหา เช่น อายุมาก ขาดเงินทุน ไม่ได้ทำเกษตรเป็นอาชีพหลัก พื้นที่จำกัด และให้ผู้อื่นเช่าที่ดินทำการเกษตร ดังนั้น ในการจัดฝึกอบรมครั้งต่อไป ศูนย์ฯ ควรคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าอบรมที่มีความพร้อมในการนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์เป็นลำดับแรก และควรพิจารณาความเหมาะสมของกิจกรรมการอบรมตามความต้องการของเกษตรกร และขยายผลพื้นที่เป้าหมายโครงการไปสู่พื้นที่อื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง

ด้าน นายธวัชชัย เดชาเชษฐ์ ผู้อำนวยการ สศท.1 กล่าวเสริมว่า เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2561 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ ในการนี้ ทรงมีพระราชดำรัสว่า การดำเนินการของศูนย์ฯ เป็นไปตามพระราชประสงค์ที่จะให้เกษตรกรรายย่อยได้รับการศึกษา การฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม

ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ เดิมในปี 2522 เป็นสถานีใช้ในการพักเตรียมอุปกรณ์และกล้าไม้เพื่อใช้ปฏิบัติงานในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ต่อมาได้จัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางด้านการเกษตรเชิงบูรณาการโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และดำเนินการส่งเสริมและฝึกอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีผู้เข้ามาเยี่ยมชมและศึกษาดูงานจากศูนย์ฯ ไปแล้วมากกว่า 23,000 ราย โดยปัจจุบัน ศูนย์ฯ มีความพร้อมในการให้ความรู้ด้านการเกษตรโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานด้านการให้ความรู้แก่เกษตรกรของศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บริเวณตลาดสดในเขตเทศบาลหนองฉาง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ทั้ง 2 แห่งในช่วงวันจ่ายของเทศกาลตรุษจีนประจำปี 2561 มีประชาชนเข้ามาจับจ่ายเลือกซื้อของไหว้กันแน่นตลาด ซึ่งปีนี้จะมีพิธีไหว้เจ้าและบรรพบุรุษในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ทำให้วันนี้บรรยากาศที่บริเวณตลาดสดเทศบาลตำบลหนองฉาง เนืองแน่นไปด้วยร้านค้านำสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการไหว้ตรุษจีนมาคอยจำหน่ายประชาชนกันจนแน่นออกไปด้านนอกตลาด ยาวไปจนถึงซอยด้านข้างตลอดทางสัญจรโดยรอบ

โดยปีนี้ราคาสินค้าทั้ง เนื้อหมู เนื้อไก่ และผลไม้นั้น มีการปรับราคาขึ้นมาเล็กน้อยได้แก่ผลไม้ และเนื้อสัตว์ ที่มีการปรับราคาขึ้นมาประมาณ 5 – 15 บาท ส่วนประชาชนยังคงซื้อสินค้าในปริมาณมาณเท่าเดิม เพื่อคงปริมาณรายจ่ายในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ นางกอบัว กิตติ แม่ค้าขายดอกกุหลาบ ในตลาดเทศบาลเมืองสระแก้วจ.สระแก้ว กล่าวถึงบรรยากาศการซื้อดอกไม้วันวาเลนไทน์ ว่า ปีนี้ แม่ค้าขายดอกกุหลาบ แทบหืดขึ้นคอ ขายดอกละ 5 บาท ยังไม่มีคนจะซื้อ จะซื้อเฉพาะเด็กนักเรียนที่เรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่ซื้อดอกกุหลาบส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนหญิง กับสาวประเภทสอง ส่วนนักเรียนชายจะซื้อค่อนข้างน้อยมาก

อย่างไรก็ตามพบว่า นักเรียนระดับประถมและระดับมัธยมตอนต้นจะซื้อสติกเกอร์รูปหัวใจสีแดง ราคาถูก ติดเสื้อได้หลายคน จะขายได้มากกว่าดอกกุหลาบ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลายเป็นภาพสุดประทับใจในสื่อสังคมออนไลน์หลังมีการแชร์ข้อความและภาพของผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pattaradej Maliwan ที่ระบุว่า เมื่อวานนี้ เวลา 12:24 น. ·

เห็นภาพนี้แล้วรู้สึกดีจัง นั่งกินอยู่ดีๆก็มีวินมอไซค์พาแม่เดินเข้ามา ไอ้เราก็แอบฟัง แม่: จะกินจิงๆเหรอลูกมันแพงนะ

วิน: ผมมีตัง (พร้อมกับหยิบเงินละเอามาโชว์ให้แม่ดูบนโต๊ะ)

แม่: (หยิบเงินมานับๆๆ) มันไม่กี่บาทเองนะ (ที่มองๆ ประมาน200 กว่าบาทได้) เก็บไว้ใช้เถอะ แม่กินอาหารตามสั่งก็ได้ วิน: แค่นี้ผมวิ่งอีกแป๊บเดียวก็ได้คืนแล้ว (ลุกไปสั่งของ)

แล้วเห็นทั้งแม่และวินนั่งกินคุยไปมีความสุขดี ราคาแค่นี้ทำให้เขามีความสุขได้ คุ้มนะ

#อาหารไม่จำเป็นต้องหรูหรา_ขอแค่ได้กินกับคนที่เรารัก_อะไรมันก็อร่อยทุกอย่าง วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดบึงกาฬว่า ช่วงเช้าวันนี้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากโดยเฉพาะคู่รักรอชมพระอาทิตย์ขึ้น แสงแรกของวันวาเลนไทน์ และสูดอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้า ที่บริเวณ“หินสามวาฬ” ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามโดดเด่น อยู่ด้านตะวันออกของภายในศูนย์จัดการกลุ่มป่าสงวนที่ 154 ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู บ้านโนนทรายทอง หมู่ 8 ตำบลโคกก่อง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ หรือเรียกสั้นๆ ว่า “ภูสิงห์ ” โดยเช้าวันนี้อุณหภูมิที่ยอดภูสิงห์อยู่ที่ 18 องศาประกอบกับมีลมพัดเข้ามาเบาๆ และที่ขาดไม่ได้ต้องใช้มือถือ ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชนว่า เช้าวันนี้มีหนุ่มสาวควงคู่ พากันมานั่งเรือชมความงดงามของทะเทบัวแดงกันอย่างคึกคัก ภายในหนองน้ำสาธารณะ หนองเลิง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านสันติสุข หมู่ 5 ต.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ซึ่งภายใต้ชื่อ “มหัศจรรย์บัวริมบึง@ หนองเลิง” โดยจะมีเรือหางยาวของชาวบ้านไว้คอยรอรับบริการนักท่องเที่ยว ในราคาเที่ยวละ 100 บาทตลอดเส้นทางจนนักท่องเที่ยวพอใจ เพื่อให้คู่บ่าวสาวเที่ยวชมความสวยงามและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับบัวแดงและบัวขาวที่บานสะพรั่งอย่างสวยงาม

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดบึงกาฬว่า ช่วงเช้าวันนี้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากโดยเฉพาะคู่รักรอชมพระอาทิตย์ขึ้น แสงแรกของวันวาเลนไทน์ และสูดอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้า ที่บริเวณ“หินสามวาฬ” ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามโดดเด่น อยู่ด้านตะวันออกของภายในศูนย์จัดการกลุ่มป่าสงวนที่ 154 ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู บ้านโนนทรายทอง หมู่ 8 ตำบลโคกก่อง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ หรือเรียกสั้นๆ ว่า “ภูสิงห์ ” โดยเช้าวันนี้อุณหภูมิที่ยอดภูสิงห์อยู่ที่ 18 องศาประกอบกับมีลมพัดเข้ามาเบาๆ และที่ขาดไม่ได้ต้องใช้มือถือ ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชนว่า เช้าวันนี้มีหนุ่มสาวควงคู่ พากันมานั่งเรือชมความงดงามของทะเทบัวแดงกันอย่างคึกคัก ภายในหนองน้ำสาธารณะ หนองเลิง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านสันติสุข หมู่ 5 ต.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ซึ่งภายใต้ชื่อ “มหัศจรรย์บัวริมบึง@ หนองเลิง” โดยจะมีเรือหางยาวของชาวบ้านไว้คอยรอรับบริการนักท่องเที่ยว ในราคาเที่ยวละ 100 บาทตลอดเส้นทางจนนักท่องเที่ยวพอใจ เพื่อให้คู่บ่าวสาวเที่ยวชมความสวยงามและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับบัวแดงและบัวขาวที่บานสะพรั่งอย่างสวยงาม

วันที่ 13 ก.พ.61 นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวถายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติชดเชยค่าใช้จ่ายกรณีเกิดภาวะขาดทุนจากการดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2558/59 ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) วงเงิน 906.82 ล้านบาท โดยขอรับการจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยผลการดำเนินงานโครงการฯ ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2559 ธ.ก.ส. จ่ายเงินกู้ให้แก่เกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร(สหกรณ์ฯ) รวม 74,497 ราย ปริมาณข้าวเปลือก 514,140.14 ตัน สินเชื่อ 6,749.48 ล้านบาท มีเกษตรกรและสหกรณ์ฯ ชำระหนี้และขอไถ่ถอนข้าวเปลือก จำนวน 45,870 ราย ปริมาณข้าวเปลือก 293,792.91 ตัน สินเชื่อ 3,856.82 ล้านบาท