ทิ้งท้ายว่า สวนเงาะของตนนั้นจะให้ผลผลิตประมาณ 1.5 ตัน

ราคาจำหน่ายหน้าสวน กิโลกรัมละ 50-60 บาท “ไม่อยากขายแพง อยากให้คนอื่นได้กินในราคาถูก” เคยมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อที่สวนของตนแล้วนำไปขายราคาแพงมาก เห็นแล้วเขาเอาเปรียบผู้บริโภคมากเกินไป ตนจึงให้ภรรยานำไปวางขายเองที่บริเวณตำบลหินดาด ไม่ไกลจากสวนมากนัก

พี่นารี กล่าวเสริมขึ้นมาว่า อนาคตจะเปิดสวนผลไม้ให้นักท่องเที่ยวเข้ามากินแบบบุฟเฟ่ต์ โดยคิดค่าเข้าสวนเป็นรายคน กินให้อิ่มแล้วค่อยกลับ เพราะสวนของตนนั้น นอกจากมีเงาะทองผาภูมิที่เป็นผลไม้เด่นแล้ว ยังมีทุเรียนหมอนทอง และลองกอง ที่มีรสชาติหวานหอม ไม่แพ้ทางภาคใต้ หรือทางตะวันออก ให้นักท่องเที่ยวลองเข้ามาลองลิ้มชิมรสอีกด้วย

ทั้งนี้ หากนักท่องเที่ยวท่านใดอยากกินผลไม้ชั้นดี รสชาติอร่อย ที่ขึ้นชื่อของอำเภอทองผาภูมิ อาทิ เงาะทองผาภูมิ ทุเรียน ส้มโอ มังคุด ลองกอง มะไฟ สะตอ สับปะรด ฯลฯ ซึ่งปลูกได้ผลผลิตดีในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ การจำหน่ายพืชผักปลอดสารพิษ พันธุ์ไม้ท้องถิ่น สินค้าโอท็อปชื่อดัง คาราวานสินค้าราคาถูก ชมการสาธิต และการแสดงศิลปวัฒนธรรมของชนเผ่าต่างๆ อาทิ มอญ กะเหรี่ยง ลาว ม้ง เย้า ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ

พบกันได้ที่งานวันผลไม้ของดีอำเภอทองผาภูมิ และสืบสานประเพณี ลานบ้าน ลานวัฒนธรรม ปี 2562 ในระหว่าง วันที่ 28 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2562 ณ บริเวณสนามลานจอดเฮลิคอปเตอร์ เขื่อนวชิราลงกรณ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เบอร์โทรศัพท์ 034-599-482 ต้องการซื้อผลผลิต สอบถามที่ คุณนารี คนขยัน เบอร์โรศัพท์ 065-968-4996

“พระเจ้าทองทิพย์คู่ถิ่น แหล่งทำกินหนองเล็งทราย มากมายมะพร้าวเผา”

นี่คือคำขวัญท่องเที่ยวของอำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา ในวันนี้ขอยกประเด็นเรื่องของมะพร้าวเผามาคุยกัน เล่าเรื่องส่วนตัวกันนิดหนึ่งว่าผู้เขียนเองเป็นลูกแม่ค้าขายมะพร้าวเผา (จริงๆ คือมะพร้าวต้ม) สมัยเป็นนักเรียนมัธยมศึกษา แม่จะซื้อมะพร้าวแถวละแวกบ้านที่ตำบลหนองตอง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ มาปอกเปลือกนอกทิ้งเหลือติดกะลาเพื่อไม่ให้คาน (เปลืองพื้นที่) หม้อจะได้ปริมาณมากๆ ต่อการต้ม 1 ครั้ง

แล้วเอาไปต้ม เมื่อสุกก็นำไปแช่ในน้ำเย็นแกะเปลือกทิ้ง นำมาขูดด้วยกระจกให้ผิวเกลี้ยงเกลา แล้วจึงนำไปขายที่ตลาดหนองดอก อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ยังมีเรื่องเล่าตลกๆ กันในหมู่แม่ค้าว่ามีแม่ค้ารายหนึ่งยืนยันกับลูกค้าว่ามะพร้าวที่ตนเองขายเป็นมะพร้าวเผา เผอิญลูกค้าถามว่ามะพร้าวลูกนี้ทำไมหัวจุกมันมีสีเขียวคล้ำ แม่ค้าเผลอตอบไปว่ามันอยู่บนสุดน้ำท่วมไม่ถึงสีมันจึงออกสีคล้ำๆ ทำให้ลูกค้าจับได้ว่าเป็นมะพร้าวต้มไม่ใช่มะพร้าวเผา ตอนมาเรียนที่แม่โจ้ เมื่อมีงานทางชมรมนักศึกษาไม้ผลก็จะสอยมะพร้าวในสวนของสาขามาเผาขาย (เผาจริง) ทำให้รู้ว่าถึงแม้ผิวข้างนอกจะเหมือนกัน แต่ถ้าได้ชิมแล้วจะรู้ถึงความแตกต่างระหว่างมะพร้าวเผาและมะพร้าวต้ม

ในคำขวัญของอำเภอแม่ใจที่บอกมากมายมะพร้าวเผานั้น จะเหลือเจ้าที่เผาจริงๆ ไม่มาก หนึ่งในนั้นคือ มาลีมะพร้าวเผา ที่สังเกตได้ว่าเป็นของเจ้านี้คือจะใช้ตราประทับชื่อร้านไว้ทุกลูกเพราะเคยมีการแอบอ้างว่าเป็นมะพร้าวเผาของร้านแต่คุณภาพไม่ดีจริงเหมือนโฆษณา อีกทั้งไม่ได้เผาจริง เอาไปต้มแล้วใช้หัวพ่นแก๊สเป่าให้เห็นร่องรอยของการไหม้ ซึ่งถ้าเผาจริงๆ จะไม่ปล่อยให้ไหม้ถึงกะลา

คุณลุงบุญยืน กัณธา เจ้าของร้านมาลีมะพร้าวเผา เล่าให้ฟังว่า ตนเองทำมะพร้าวเผาขายมานานด้วยวิธีการเผาจริงๆ ไม่เหมือนบางเจ้าที่เปลี่ยนไปเป็นการต้ม มะพร้าวเผาที่ร้านจะทำวันต่อวัน ตนเองใช้มะพร้าวน้ำหอมจากแหล่งผลิตที่มีชื่อเสียงจากดำเนินสะดวก ราชบุรี หรือสามพราน นครปฐม ซื้อมาครั้งละ 1 คันรถปิกอัพ ราวๆ 1,800-1,900 ลูก เป็นพันธุ์ตูดจีบ หรือพันธุ์ลูกกลม พันธุ์ตูดจีบเปลือกจะหนา รูปผลอาจจะไม่ค่อยสวย พันธุ์ลูกกลมรูปผลจะสวยกว่า ที่ใช้มะพร้าวน้ำหอมจากแหล่งผลิตแถวราชบุรีหรือนครปฐม เพราะมะพร้าวน้ำหอม

กับมะพร้าวแกงแถวบ้านเราจะมีข้อแตกต่างกันทั้งขนาด รสชาติ และความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ มะพร้าวที่เหมาะกับการเผาจะมีเนื้อประมาณ 2 ชั้นครึ่ง เมื่อตัดทะลายแรกไปแล้วจะเว้นระยะเวลา 15-20 วัน จึงจะตัดทะลายต่อไปซึ่งเนื้อจะพอดีไม่แก่หรืออ่อนเกินไป การเผาจะเริ่มเผาตั้งตี 5 จะเสร็จประมาณ 7 โมงครึ่งพร้อมที่ขายให้ลูกค้า วิธีการเผาจะก่อกองฟืนเสร็จแล้วก็จะนำมะพร้าวขึ้นไปวางทับไว้ การเผาครั้งหนึ่งประมาณ 150 ลูก ต่อเตา จะใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง แต่ถ้ามะพร้าวมาหลายวันเปลือกมันจะแห้งลงจะทำให้ใช้เวลาการเผาน้อยลงเหลือประมาณครึ่งชั่วโมงก็สุก จะช่วยประหยัดฟืนด้วย จากนั้นจะทำการแกะเปลือกออก แล้วนำไปขูดผิวด้วยเครื่องขูดผิวไฟฟ้า ซึ่งทำได้รวดเร็วกว่าสมัยก่อนที่ใช้มีดหรือกระจกในการขูดผิวให้เกลี้ยงเกลา ในช่วงหน้าร้อนจะเพิ่มปริมาณการทำขึ้นเพื่อให้พอกับความต้องการของผู้บริโภค

หากต้องการมะพร้าวเผาที่เผาจริง ต้องมะพร้าวเผาที่ ร้านมาลีมะพร้าวเผา ตั้งอยู่ที่เลขที่ 132 หมู่ที่ 7 ตำบลศรีถ้อย อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา ที่คนทั่วไปเรียกว่าแยกมะพร้าวเผา (สี่แยกไฟแดง) พร้อมให้บริการมะพร้าวเผา ร้านนี้ทำการเผาแบบนี้มากว่า 40 กว่าปี มีเทคนิคเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยคือเวลาเผาให้มีควันนิดหนึ่งจะทำให้มีกลิ่นหอมเพิ่มขึ้นกว่าปกติ และในอนาคตจะทำเตาให้ทันสมัยขึ้น กำลังประสานกับสถานศึกษาที่จะออกแบบและติดตั้งต่อไป แต่จะยังคงรักษาคุณภาพของการเผาไว้ และทางร้านยังคงยึดมั่นในจรรยาบรรณของแม่ค้ามะพร้าวเผา ด้วยการขายมะพร้าวเผาที่เผาสดๆ จากเตาทุกๆ เช้า ไม่มีการต้มแล้วมาหลอกลวงผู้บริโภค เพื่อรักษาคุณภาพและเกียรติประวัติของร้าน สังเกตมะพร้าวทุกลูกจะประทับตราชื่อร้านไว้ทุกลูกและมีขายที่ร้านเท่านั้น ไม่มีสาขา

จึงเป็นร้านค้าที่น่าสนับสนุนถ้าคิดถึงมะพร้าวเผาน้ำหอมๆ เนื้อนุ่มๆ ชุ่มคอ ชื่นใจ ต้องมะพร้าวเผามาลีเท่านั้น สอบถามรายละเอียดหรือสั่งซื้อได้จาก คุณบุญยืน กัณธา ร้านมาลีมะพร้าวเผา โทร. (089) 263-4905 หรือคุณป้ามาลี โทร. (081) 530-7587

ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน เป็นช่วงเวลาที่อินทผลัมผลสดให้ผลผลิตมากที่สุด บางปีอาจจะเหลื่อมระยะเวลาไปบ้าง แต่ก็ไม่เร็วหรือช้าไปกว่านี้ และจำนวนผลผลิตอินทผลัมผลสดที่ได้แต่ละปี อาจแปรผันมากน้อยขึ้นกับสภาพอากาศ

กลุ่มอินทผลัมภาคตะวันตก หรือ Western Date Palm Group (WDP) เป็นกลุ่มที่เริ่มจากเกษตรกรจำนวนหนึ่งในแถบภาคตะวันตก ที่ปลูกอินทผลัมจากต้นเพาะเนื้อเยื่อ แรกเริ่มมีเพียงเกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันตก แต่เมื่อการบริหารจัดการภายในกลุ่มมีประสิทธิภาพ ทำให้เกษตรกรที่สนใจปลูกอินทผลัมภาคอื่นๆ ให้ความสนใจ จึงเปิดกว้างรับสมาชิกผู้ปลูกอินทผลัมเพาะเนื้อเยื่อทั่วประเทศ มีสมาชิกจากหลายภาคหลายจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา อุบลราชธานี อุดรธานี เป็นต้น ยกเว้นภาคใต้ที่แม้จะสมัครเป็นสมาชิกแล้ว แต่ไม่สามารถปลูกอินทผลัมได้ เนื่องจากสภาพอากาศไม่เหมาะสม จึงเป็นสมาชิกในรูปแบบของตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปของกลุ่ม

รวมสมาชิกจากทั่วประเทศ ทั้งหมด 150 ราย พื้นที่ปลูกอินทผลัมทั้งสิ้น ประมาณ 2,000 ไร่ จำนวน 55,000-60,000 ต้น เป็นจำนวนต้นที่ให้ผลผลิตแล้วเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ ประมาณ 200 ตัน ใกล้เคียงกับปริมาณผลผลิตปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศปีนี้ ไม่เอื้ออำนวย อากาศแปรปรวนและร้อนจัด ทำให้ได้ผลผลิตไม่ต่างจากปี 2561

อย่างที่ คุณอนุรักษ์ บุญลือ เลขานุการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกอินทผลัมภาคตะวันตก และกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินทผลัมภาคตะวันตก จำกัด บอกไว้ว่า การรวมกลุ่มของอินทผลัมภาคตะวันตก จนก่อตั้งเป็นกลุ่ม WDP ก็เพราะมีเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์เพื่อให้มีการดูแลแปลงให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้ผลผลิตออกสู่ตลาดอย่างมีคุณภาพ เมื่อกลุ่มโตขึ้นจึงเล็งเห็นเป้าหมายในการจัดการอินทผลัมในเมืองไทย ว่าควรเพิ่มให้มีเรื่องของการแปรรูปอินทผลัมผลสดในเมืองไทยอย่างเป็นรูปธรรมและมีคุณภาพออกสู่ตลาดมากขึ้น เนื่องจากแปลงปลูกอินทผลัมมีเพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องรองรับผลผลิตบางส่วนที่อาจไม่ได้คุณภาพระดับดีที่สุด นำไปใช้ในการแปรรูป เพื่อให้มีสินค้าเกี่ยวกับอินทผลัมอย่างครบวงจร รวมถึงการควบคุมราคาอินทผลัมในประเทศไทยให้เป็นไปด้วยดี ไม่ต่ำลงตามปริมาณอินทผลัมที่ออกสู่ตลาดจำนวนมาก

ผลที่ตามมาคือ การเล็งตลาดแปรรูปอินทผลัม ซึ่งกลุ่มอินทผลัมภาคตะวันตก เคยระบุไว้ชัดเจนว่า ในประเทศไทย ไม่เหมาะต่อการปลูกอินทผลัมผลแห้ง ดังนั้น จึงมุ่งเน้นไปที่การปลูกอินทผลัมผลสด และเมื่อตลาดเริ่มโตขึ้น พื้นที่ปลูกเพิ่มมากขึ้น ปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดจะมากขึ้นตามลำดับ การควบคุมและจำกัดปริมาณผลผลิตอินทผลัมไม่ให้ล้นจนส่งผลให้ราคาอินทผลัมตกต่ำเช่นเดียวกับสินค้าการเกษตรอื่น คือ การแปรรูป

กลุ่มอินทผลัมภาคตะวันตก ให้ความสำคัญกับการแปรรูปอินทผลัมผลสด โดยแบ่งอินทผลัมผลสดมา ร้อยละ 60-70 ของจำนวนผลผลิตที่ได้ทั้งหมดตลอดปี ไว้สำหรับการแปรรูป และคำนึงถึงความเป็นไปได้ของการแปรรูป เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภค รวมทั้งรายได้ของเกษตรกรผู้ปลูก จึงก่อสร้างโรงงานแปรรูปอินทผลัมครบวงจร

โรงงานแปรรูปอินทผลัมครบวงจร ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านหนองขาว อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี มี คุณอนุรักษ์ บุญลือ เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินทผลัมภาคตะวันตก จำกัด ดูแลเรื่องการผลิตอย่างใกล้ชิด

“เราแบ่งผลผลิตออกเป็นขนาดซุปเปอร์จัมโบ้ ขนาด A ขนาด B+ ขนาด B ขนาด C+ จะวางจำหน่าย แต่ถ้าผลผลิตที่ได้ต่ำกว่าเกรด C เราจะนำเข้าห้องเย็น เพื่อเก็บผลผลิตไว้สำหรับการแปรรูป เมื่อไม่ใช่ฤดูของการเก็บเกี่ยวแต่ละปี”

คุณอนุรักษ์ บอกด้วยว่า อินทผลัมผลสดที่ได้จากเกษตรกรในกลุ่มอินทผลัมภาคตะวันตก เพียงร้อยละ 30-40 ของผลผลิตทั้งหมดในแต่ละปี จะถูกขายเป็นอินทผลัมผลสด แบ่งเป็นส่งขายยังโมเดิร์นเทรด ออนไลน์ ส่งต่างประเทศ และลูกค้าที่เข้าไปซื้อถึงหน้าสวน ส่วนอีกร้อยละ 60-70 นำเก็บไว้ยังห้องเย็นที่สามารถจุอินทผลัมผลสดได้มากถึง 150 ตัน ซึ่งพื้นที่โรงงานแปรรูปอินทผลัมครบวงจร มีพื้นที่เฉพาะตัวอาคารที่ใช้บริหารจัดการ 1,200 ตารางเมตร มีเครื่องแปรรูปผลิตภัณฑ์แบบต่างๆ เช่น ส่วนคัด ส่วนล้าง ส่วนแพ็กบรรจุภัณฑ์ เครื่องฆ่าเชื้อ เครื่องบรรจุ เป็นต้น

การเก็บวัตถุดิบอินทผลัมผลสด เริ่มเก็บมาก่อนโรงงานเปิดทำการเต็มรูปแบบ จึงมีผลสดอินทผลัมฟรีซในห้องเย็นไว้แล้วส่วนหนึ่ง และเริ่มผลิตอินทผลัมแปรรูปไปแล้วส่วนหนึ่ง กระทั่งโรงงานแล้วเสร็จสมบูรณ์ มีอุปกรณ์และเครื่องมือพร้อม จึงเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

แม้โรงงานแปรรูปจะเริ่มดำเนินการเต็มรูปแบบไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่การดำเนินการทุกอย่างต้องควบคู่กันไป เพื่อให้ไม่เกิดการสะดุด คุณอนุรักษ์ บอกว่า ที่ผ่านมาได้ทำข้อตกลงในการส่งผลิตภัณฑ์จากอินทผลัมของกลุ่มอินทผลัมภาคตะวันตกขายโมเดิร์นเทรดหลายแห่ง มีวางจำหน่ายแล้วที่ แฟมิลี่ มาร์ท บิ๊กซี ซุปเปอร์มาร์เก็ต เซเว่นอีเลฟเว่น ทเวนตี้โฟร์ช็อปปิ้งออนไลน์ นอกจากนี้ ยังลงนามข้อตกลงร่วมกันกับต่างประเทศในการส่งผลิตภัณฑ์แปรรูปจากอินทผลัมผลสดไปจำหน่าย เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ลาว เวียดนาม กัมพูชา ดูไบ ฮ่องกง ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการขออนุญาตนำเข้า

สำหรับผลิตภัณฑ์แปรรูปจากอินทผลัมผลสด ที่ได้จากผลผลิตของเกษตรกรกลุ่มอินทผลัมภาคตะวันตกนั้น สามารถนำไปแปรรูปได้ผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด ภายใต้แบรนด์ “IN ONE” ดังนี้

น้ำอินทผลัมผลสด 100 เปอร์เซ็นต์ ใช้ผลผลิตสายพันธุ์บาร์ฮีในการผลิต เพราะเป็นสายพันธุ์ผลสดที่ดีที่สุด

น้ำอินทผลัมผลแห้ง 100 เปอร์เซ็นต์ ใช้ผลผลิตสายพันธุ์เมดจูลในการผลิต เพราะเป็นสายพันธุ์ผลแห้งที่ดีที่สุด ซึ่งอินทผลัมผลแห้งสายพันธุ์เมดจูลนี้ นำเข้ามาจากไร่คู่ค้าของกลุ่ม ที่มีสวนอินทผลัมที่ประเทศจอร์แดน และปาเลสไตล์

อินทผลัมผลแห้ง นำเข้าจากไร่คู่ค้าที่ปลูกในประเทศจอร์แดน และปาเลสไตล์ ซึ่งผลแห้งที่นำเข้ามา กลุ่มจะนำมาตรวจสอบมาตรฐานผลอีกครั้ง แล้วบรรจุในบรรจุภัณฑ์ของแบรนด์ “IN ONE”

ไซรัป ผลิตจากอินทผลัมผลสดสายพันธุ์บาร์ฮี 100 เปอร์เซ็นต์

น้ำอินทผลัมกระป๋อง มีส่วนผสมของเนื้ออินทผลัม 25 เปอร์เซ็นต์ ปรุงแต่งด้วยโซดา เพื่อเจาะกลุ่มตลาดวัยรุ่น และ กลุ่มคนออกกำลังกาย น้ำอินทผลัมกระป๋อง (เอนเนจี่ ดริงค์) ให้พลังงานเหมือนดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง ผสมเนื้ออินทผลัม 25 เปอร์เซ็นต์ และวิตามินบี 1 บี 2 และ บี 12 ด้วย เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้แรงงานและกลุ่มคนออกกำลังกาย

ซึ่งน้ำอินทผลัมกระป๋องทั้งสองแบบ เตรียมพร้อมสำหรับส่งจำหน่ายต่างประเทศด้วย

นอกจากนี้ ยังผลิตในรูปแบบสแน็ก ทำในรูปของอินทผลัมฟรีซดราย และ อินทผลัมผง 100 เปอร์เซ็นต์ คล้ายอาหารเสริมหรือเส้นใยอาหาร สำหรับชงดื่ม

การมองการณ์ไกลในแบบกลุ่มอินทผลัมภาคตะวันตกเช่นนี้ ถือเป็นการบริหารจัดการสินค้าเกษตรที่ประเมินสถานการณ์และควบคุมให้ราคาผลผลิตไม่ตกต่ำลง ทั้งยังช่วยให้ช่องทางการจำหน่ายหลากหลาย ขยายตลาดออกไปยังต่างประเทศ

ในวันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2562 นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน จัดสัมมนาอินทผลัมกินผล ทางผู้จัดได้เชิญ คุณอนุรักษ์ บุญลือ มาพูดคุยด้วย สยามคูโบต้า เดินหน้า โครงการ “KUBOTA Smart Farmer Camp 2019” ภายใต้แนวคิด “FARMNOVATION นวัตกรรมทำได้จริง” สร้างแคมป์เกษตรยุคใหม่สาย INNO ให้เยาวชนไทยทุกคนเรียนรู้ ได้ดูด้วยตาตัวเอง ทดลองใช้เครื่องปลูกผัก เพื่อควบคุมประสิทธิภาพการปลูก ประหยัดเวลาและขั้นตอนการทำงาน รวมทั้งออกแบบและจัดการฟาร์มด้วยแนวคิดเกษตรรายได้สูง

นายสมศักดิ์ มาอุทธรณ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า สยามคูโบต้า ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ด้านการเกษตรและทักษะการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมให้แก่เยาวชน ตั้งแต่ ปี 2543 ผ่านโครงการยุวเกษตรมานานหลายสิบปี จนกระทั่ง เมื่อปี 2555 ได้เปลี่ยนชื่อโครงการเป็น KUBOTA Smart Farmer Camp โดยปัจจุบัน เป็นปีที่ 7 ของการจัดโครงการนี้ขึ้นมา

สำหรับ โครงการ KUBOTA Smart Farmer Camp เป็นการดำเนินงานตาม CSR Policy ของบริษัท ด้านการศึกษาและเยาวชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีเครื่องจักรกลด้านการเกษตร สร้างทัศนคติที่ดีและกระตุ้นให้เยาวชนรุ่นใหม่ใส่ใจการทำอาชีพเกษตรกรรม ตลอดจนตระหนักถึงการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำเกษตรแม่นยำอย่างยั่งยืนและรอบด้านมากขึ้น เพื่อเป็นเกษตรกรยุคใหม่ที่ดีในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาโครงการประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ มีเยาวชนในโครงการสนใจประกอบอาชีพสายงานด้านการเกษตรเป็นจำนวนมาก

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับ โครงการ KUBOTA Smart Farmer Camp 2019 จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 15-18 มิถุนายน 2562 ณ KUBOTA Farm อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ภายใต้แนวคิด “FARMNOVATION นวัตกรรมทำได้จริง” แคมป์เกษตรยุคใหม่สาย INNO เรียนรู้การออกแบบและการจัดการฟาร์มด้วยแนวคิดเกษตรรายได้สูง การใช้เทคโนโลยีเพื่อการเกษตรสุดล้ำจากคูโบต้าประเทศญี่ปุ่น และทดลองใช้งานจริงบนพื้นที่จริง โดยมีเยาวชนที่สนใจส่งใบสมัครเข้าร่วมกิจกรรม 2,005 คน จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งสยามคูโบต้าได้คัดเลือกเยาวชนที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 120 คน

ทั้งนี้ สยามคูโบต้า ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครเข้าร่วมโครงการว่า เป็นเยาวชนไทย อายุระหว่าง 18-22 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือมหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1-4 โดยปีนี้ได้เปิดกว้างให้กับน้องๆ นิสิตและนักศึกษาทุกคณะ สาขาใดก็ได้ ขอเพียงเป็นคนที่มีความสนใจด้านการทำเกษตรกรรม เยาวชนที่สมัครเข้าร่วมโครงการจะต้องมีความพร้อมที่จะเข้าร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ของโครงการตลอดทั้ง 4 วัน 3 คืน

FARMNOVATION นวัตกรรมทำได้จริง

สำหรับกิจกรรมไฮไลต์ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “FARMNOVATION นวัตกรรมทำได้จริง” น้องๆ ทุกคนจะได้สนุกกับกิจกรรมที่คูโบต้าจัดให้ ดังนี้

สุดยอดเทคโนโลยีจาก KUBOTA ประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ แทรกเตอร์และรถดำนาควบคุมด้วยระบบ GPS ขับเคลื่อนอัตโนมัติ เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับเพื่อการเกษตร อีกทั้งนวัตกรรมอัจฉริยะจากคูโบต้า KUBOTA Intelligence Solutions ภายใต้แนวคิดเกษตรปลอดการเผา (Zero Burn)
เยาวชนทุกคนเรียนรู้ ได้ดูด้วยตาตัวเอง ในการออกแบบและจัดการฟาร์มด้วยแนวคิดเกษตรรายได้สูง ทดลองใช้เครื่องปลูกผัก เพื่อควบคุมประสิทธิภาพการปลูก ประหยัดเวลาและขั้นตอนการทำงาน
เปิดโอกาสให้เยาวชนได้ทดลองใช้งานอุปกรณ์นวัตกรรมคูโบต้าได้ก่อนใครในพื้นที่จริง ด้วยการฝึกการจัดการฟาร์มแบบครบวงจร ผ่านกิจกรรมภายในคูโบต้าฟาร์ม ทั้ง 4 ฐาน ได้แก่

Smart Tech ทดลองใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรสมัยใหม่ เช่น ควบคุมการทำงานอัตโนมัติ ด้วยระบบ GPS เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับเพื่อการเกษตร (โดรน)

Smart Design ออกแบบการบริหารจัดการฟาร์มแบบครบวงจร

Smart Farmer เรียนรู้การจัดการแปลงผักตามแนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่รายได้สูง

Smart Drive ทดลองขับเทคโนโลยีนวัตกรรม ที่ตอบโจทย์การทำเกษตรได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ กลุ่มเยาวชนยังได้แชร์ความรู้และประสบการณ์จากวิทยากรรับเชิญทั้ง 3 ท่าน ทั้ง “คุณโอ๋-พีทูวอร์ชิป” เจ้าของฮิพอินทรีย์ฟาร์ม ผู้สร้างกระแสฟาร์มออร์แกนิกส์ใจกลางเมือง รับฟังมุมมองใหม่ๆ จาก “คุณจัง” เจ้าของร้านปลูกปั่น ผู้ริเริ่มธุรกิจรักษ์โลก ด้วยน้ำผักผลไม้ปั่นสดส่งสดทุกเช้าด้วยจักรยาน ปิดท้ายด้วย “คุณเอิน อุกฤษ” ผู้ก่อตั้งและ CEO หนึ่งในสตาร์ทอัพเพื่อเกษตรกรไทยที่เป็นที่ยอมรับในเวทีระดับโลก

สำหรับ โครงการ KUBOTA Smart Farmer Camp 2019 สมัครจีคลับ ในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกของการจัดกิจกรรมบนพื้นที่ KUBOTA Farm อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ซึ่งก่อตั้งโดย บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ครอบคลุมพื้นที่ 200 ไร่ อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี โดยใช้นวัตกรรมด้านการเกษตรอย่างครบวงจร เพื่อยกระดับเกษตรกรรมให้เป็นเกษตรแม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมด้วยเกษตรวิถีใหม่ที่ให้ผลลัพธ์คุ้มค่าทุกตารางเมตร รวมถึงการบริหารจัดการรายได้ที่ยั่งยืน เพื่อนำพาเกษตรกรไปสู่เกษตรยุคใหม่อย่างเต็มภาคภูมิ

ปลูกพืชด้วยวิธีการเกษตรสมัยใหม่

นางสาวพชิรา อุ่นหะวงศ์ คณะศิลปศาสตร์ และวิทยาการจัดการ สาขาวิชาการตลาด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร (มก.ฉกส.) และ นายเกียรติศักดิ์ ชาหนองอ้อ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อนต่างสถาบันที่มาเจอกันใน โครงการ KUBOTA Smart Farmer Camp พวกเขาเล่าว่า เป็นลูกหลานเกษตรกร ครอบครัวมีรายได้หลักจากภาคเกษตร พวกเขาจึงสนใจเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเรียนรู้นวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรของคูโบต้า ที่จะช่วยประหยัดแรงงาน ทำงานเหนื่อยน้อยลง แถมได้งานเสร็จเร็วขึ้น ได้ผลผลิตมากขึ้น ให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งโครงการนี้เปิดโอกาสให้พวกเขาได้เรียนรู้เรื่องการทำเกษตรต่างๆ อย่างมากมาย

เยาวชน 120 คน ที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ถูกแบ่งเป็นกลุ่มย่อยๆ หมุนเวียนเข้าร่วมกิจกรรมในแต่ละฐาน ทั้ง 4 แห่ง เพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้นวัตกรรมต่างๆ ได้ครบถ้วนภายใน 1 วัน ได้แก่

ฐาน Smart drive แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย

รถเก็บข้าว เป็นรถที่สามารถเก็บข้าวได้อย่างรวดเร็ว เพราะสามารถเก็บข้าวได้ 20 ไร่ ภายใน 1 วัน ช่วยประหยัดเวลาและแรงงานได้มาก เหมาะสำหรับการทำเกษตรยุคปัจจุบัน
รถขุดขนาดเล็กและรถขุดขนาดใหญ่ ที่ช่วยให้การขุดดินกลายเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว รถขุดคูโบต้ามีความสามารถพิเศษคือ สามารถยกตีนตะขาบของรถขึ้นได้ทั้งสองข้างหรือข้างใดข้างหนึ่ง เพื่อช่วยในการขุดดินได้
รถแทรกเตอร์ ที่ทำให้การเตรียมดินนั้นง่ายขึ้น และมีความรวดเร็ว มีความสามารถพิเศษคือ สามารถขับเคลื่อนด้วยความเร็ว สามารถเบรกได้ทันทีโดยที่รถไม่ลื่นไถลเมื่อหยุดเบรก สามารถหมุนรถในที่แคบได้โดยใช้รัศมีน้อยมาก นวัตกรรมนี้ สุดยอดจริงๆ