ที่เฝ้าระวัง มียางพาราแผ่นดิบชั้น 3 ต้นทุนอยู่ 46.77 บาท/ก.ก.

ราคาขาย 42.57 บาท/ก.ก. ต่ำกว่าต้นทุน 4.20 บาท/ก.ก. สับปะรดโรงาน ต้นทุนอยู่ที่ 3.48 บาท/ก.ก. ขายได้อยู่ที่ 3.22 บาท/ก.ก. ราคาต่ำกว่าต้นทุน 0.26 บาท/ก.ก.

พิจิตร – นายกิตติชาติ ชาติยานนท์ เกษตรจังหวัดพิจิตร เผยว่า ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หลังนา ทดแทนการปลูกข้าวนาปรัง โดยจัดกิจกรรมรณรงค์และสาธิตการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ บริเวณแปลงสาธิตของผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ้านหนองอ้ายตู้ หมู่ที่ 8 ตำบลทับคล้อ อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตร ให้จังหวัดพิจิตรดำเนินการจัดทำแปลงเรียนรู้ 2 แปลง แปลงละ 50 ไร่ ในพื้นที่อำเภอดงเจริญ และอำเภอทับคล้อ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดแทนการปลูกข้าวที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่า และลดรอบในการทำนาให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนปลูกพืชหมุนเวียน ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่มากขึ้น

จังหวัดพิจิตรมีพื้นที่การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ประมาณ 20,000 ไร่ ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้น 30% อยู่ที่ราคา 7.40 บาทต่อกิโลกรัม ในพื้นที่ 1 ไร่เก็บเกี่ยวได้ประมาณ 950-1,500 กิโลกรัมต่อไร่ มีต้นทุนการผลิตประมาณ 3,500 บาทต่อไร่

เชียงราย – นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย พ.อ.สิงหนาท โลสุยะ ผู้แทนจากมณฑลทหารบกที่ 37 พ.ต.อ.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ ผู้แทนจาก ภ.จว.เชียงราย เป็นตัวแทนหน่วยงานภาครัฐร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงหรือเอ็มโอยูในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบส่งยาเสพติดทางระบบขนส่ง ร่วมกับ ผู้ประกอบการขนส่งพัสดุด่วนเอกชนจำนวน 16 ราย และการขนส่งพัสดุด้วยรถโดยสารประจำทางอีก 7 ราย โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ภาค 5 ขนส่งจังหวัด ฯลฯ

การลงนามเอ็มโอยูเพื่อจะร่วมกันเข้มงวดกวดขันการส่งพัสดุภัณฑ์ให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้ขบวนการค้ายาเสพติดใช้เป็นช่องทางในการขนยาเสพติดได้ พร้อมเผยว่าสถานการณ์การลักลอบนำเข้ายาเสพติดที่ผ่านมาพบว่ากลุ่มขบวนการมักจะขนไปจากช่องทาง 2 จังหวัดของภาคเหนือคือ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ เท่านั้น และใช้วิธีการที่หลากหลายเพื่อเลี่ยงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ โดยหนึ่งในนั้นคือการลักลอบนำไปทางพัสดุภัณฑ์ดังกล่าว

“ดังนั้นจึงได้มีความร่วมมือกันในครั้งนี้เพื่อให้ภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกัน โดยเฉพาะภาคเอกชนขอให้มีการตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลข 13 หลักที่บัตร ตัวบุคคล หากมีกำลังก็ขอให้มีกล้องเพื่อเก็บภาพผู้นำไปฝากส่งด้วย จะเป็นการป้องปรามและหากตรวจพบยาเสพติดที่ปลายทางก็จะสามารถขยายผลติดตามจับกุม ผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ต่อไป”

ทั้งนี้มีการตรวจยึดยาเสพติดที่มีการขนส่งได้หลายราย โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตรวจยาไอซ์ได้จำนวน 172 ถุง น้ำหนักประมาณ 201 กิโลกรัม บรรจุในกล่องพัสดุภัณฑ์จำนวน 7 กล่องที่ถูกนำไปส่งที่เอกชนรายหนึ่ง นอกจากนี้ยังยึดของกลางที่ปลายทางอีกหลายครั้งด้วย ต่อไปนี้จะมีรถเอกซเรย์ของด่านศุลกากรแม่สายเข้าไปตรวจสอบสถานที่รับส่งพัสดุภัณฑ์ต่างๆ ร่วมด้วยต่อไป

เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักข่าวเอเอฟพี อ้างรายงานของ US Preventive Services Task Force หรือสำนักงานบริการด้านป้องกันของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า การพลัดตก หกล้ม ซึ่งเป็นสาเหตุใหญ่ของการบาดเจ็บที่นำไปสู่การเสียชีวิตของคนชราอายุ 65 ปีขึ้นไป สามารถป้องกันได้ด้วยการออกกำลังกาย ไม่ใช่พึ่งการกินอาหารเสริมต่างๆ อย่างเช่น วิตามินดี เพราะล่าสุดมีผลการศึกษาออกมาแล้วว่า การกินวิตามินดีและแคลเซียมไม่ได้ช่วยป้องกันผู้สูงอายุจากการหกล้ม

คำแนะนำใหม่จากสำนักงานบริการด้านป้องกันของสหรัฐมีขึ้นหลังจากที่เมื่อปี 2555 มีกลุ่มที่ปรึกษาทางการแพทย์อิสระกลุ่มหนึ่งออกมาเสนอแนะว่า การบริโภคอาหารเสริมที่มีวิตามินดีเป็นส่วนประกอบ สามารถช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่เกิดจากการหกล้มได้

แต่ในผลสำรวจล่าสุดของสำนักงานบริการด้านป้องกันของสหรัฐไม่พบข้อดีดังกล่าวในผู้สูงวัย ทั้งยังพบความเสี่ยงที่จะเป็นนิ่วในไตสูงขึ้นในกลุ่มผู้สูงอายุที่รับประทานวิตามินดี และอาหารเสริมที่มีแคลเซียมด้วย

“สำนักงานบริการด้านป้องกันของสหรัฐพบหลักฐานที่เพียงพอที่จะกล่าวว่า อาหารเสริมที่มีวิตามินดี ไม่ได้มีประโยชน์ในการช่วยป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ” ข้อความหนึ่งในรายงานที่เผยแพร่ในวารสารสมาคมการแพทย์อเมริกัน แทนการกินวิตามินดี หรืออาหารเสริม สำนักงานบริการด้านป้องกันของสหรัฐแนะนำให้ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นวัยที่มีความเสี่ยงสูงที่จะพลัดตก หกล้ม ควรหาเวลาออกกำลังกาย ซึ่งสามารถช่วยป้องกันการหกล้มได้

ทั้งนี้ การออกกำลังที่แนะนำ มีทั้งการออกกำลังกายโดยมีคนคอยอยู่ดูด้วย การเข้าคลาสออกกำลังกายที่เหมาะกับผู้สูงวัย รวมทั้งการทำกายภาพบำบัด

สำนักงานบริการด้านป้องกันของสหรัฐได้อัพเดตฐานข้อมูลจากการสุ่มตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์ 11 ชิ้น ซึ่งทำสำรวจในกลุ่มตัวอย่างกว่า 51,000 ราย แล้วได้ข้อสรุปตามนี้ว่า “การกินอาหารเสริม วิตามินดี และแคลเซียม เพียงอย่างเดียวไม่สามารถช่วยลดการบาดเจ็บจากการหกล้มในกลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่มีภาวะขาดวิตามินดี ไม่เป็นโรคกระดูกพรุน หรือมีอาการกระดูกแตกร้าวมาก่อนแต่อย่างใด

จากข้อมูลล่าสุดตั้งแต่เมื่อปี 2557 พบว่า เกือบ 29% ของผู้สูงอายุในสหรัฐที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป เกิดการพลัดตก หกล้ม และเกือบ 38% จำเป็นต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์ หรือไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้เหมือนเดิมนานเป็นวัน หรือนานยิ่งกว่านั้น ขณะที่เมื่อปี 2558 มีผู้สูงอายุที่เสียชีวิต เนื่องจากหกล้มราว 33,000 ราย

ในรายงานของสำนักงานบริการด้านป้องกันของสหรัฐได้เน้นย้ำให้ผู้สูงอายุควรหาเวลาออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายสามารถช่วยลดการบาดเจ็บจากการหกล้มในผู้สูงอายุได้

คนส่วนใหญ่มักคิดว่า ‘สิว’ เป็นปัญหาสำหรับวัยรุ่น และอย่างที่ทราบกัน การเป็นสิวมากน้อยขึ้นอยู่กับฮอร์โมนและกรรมพันธุ์ของแต่ละคนที่แต่ต่างกัน แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าจริงๆแล้วอาหารการกินของเราในแต่ละวัน ก็เป็นอีกหนึ่งปัญจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสิว

นายแพทย์ ดักลาส โกรส นายกสมาคมแพทย์เวชภัณฑ์จากมหาวิทยาลัยออสตราลาเซีย (CPCA) กล่าวว่า สิ่งสำคัญในการรักษาสิวขึ้นอยู่กับการรับประทานอาหารและไลฟ์สไตล์

“จากประสบการณ์การทำงานทางการแพทย์ที่ผมทำมา 48 ปี ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ได้ปฏิเสธว่าการลดน้ำหนักจะสามรถรักษาสิวให้น้อยลง” “ผลการวิจัยล่าสุดในปีนี้ได้ปรากฏอย่างชัดเจนว่า ปัญหาสิวจะไม่เกิดขึ้นในกลุ่มของผู้ที่รับประทานอาหารแบบบรรพกาลโภชนา (Paleo diet) หรือโภชนาการแบบมนุษย์ดึกดำบรรพ์ เนื่องจากเป็นวิธีโภชนาการที่สอดคล้องกับพันธุศาสตร์และเป็นอาหารที่ไม่มีน้ำตาล, ธัญพืช และผลิตภัณฑ์จากนม”

นอกจากนี้คุณหมอยังเปิดเผยว่า คนที่เป็นสิวควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลแปรรูปสูง เช่น เครื่องดื่มน้ำอัดลม, ธัญพืชเคลือบน้ำตาล, มันฝรั่งทอด และขนมปังขาว

“สิวมันไม่ใช่แค่เป็นเรื่องเกี่ยวกับฮอร์โมน แต่สาเหตุหลักเกิดจากพฤติกรรมการกินอาหารผิดๆ ซึ่งดัชนีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตที่มากเกินไปเป็นสาเหตุการเกิดสิวที่เลวร้ายที่สุดเลยก็ว่าได้ ถ้าอยากหน้าใสล่ะก็คาร์โบไฮเดรตถือเป็นศัตรูตัวสำคัญที่ทำให้เกิดสิว”

ดังนั้นอาหารที่คนเป็นสิวควรหลีกเลี่ยงได้แก่ ขนมปัง, พาสต้า, ซีเรียล, บิสกิต, เค้ก และผลิตภัณฑ์จากนมทั้งหมด

“คาร์โบไฮเดรตที่สูงจะกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนที่เรียกว่า ‘อินซูลิน’ และเป็นสาเหตุเดียวกันที่ทำให้ปริมาณเทสโทสเทอโรนในเลือดสูง ซึ่งการรวมกันของทั้งสองตัวนี้ จะกระตุ้นต่อมไขมัน ทำให้ผิวเกิดการอุดตันจนเป็นสิวในที่สุด” เราจึงควรรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตอย่างพอดี

นอกจากนี้คุณหมอยังกล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ จะสามารถช่วยรักษาสิวได้ ซึ่งช่วยลดการแต่งหน้าหนักๆทับรอยสิวที่จะทำให้เกิดการอักเสบและเพิ่มการอุดตันได้เป็นอย่างดี

ภาครัฐจับมือเอกชนร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟไทยต้นน้ำ-ปลายน้ำ พร้อมดันเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ล่าสุดร่วมกลุ่มประเทศอาเซียน เปิดโครงการประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียน ครั้งที่ 1 สร้างโรดแมปแหล่งผลิตกาแฟสำคัญของโลก

อนาคตกาแฟไทยสดใส ภาครัฐและเอกชนร่วมมือพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟไทยทั้งด้านคุณภาพและปริมาณตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ พร้อมผลักดันขึ้นเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ หลังการเติบโตของตลาดกาแฟไทยแตะ 30,000 ล้านบาท ล่าสุดเปิดร่างยุทธศาสตร์กาแฟจัดโครงการประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียน ครั้งที่ 1 สร้างความร่วมมือและโรดแมปสร้างอาเซียนเป็นแหล่งผลิตกาแฟสำคัญของโลก

ดร. วราภรณ์ พรหมพจน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงยุทธศาสตร์กาแฟในช่วงระยะ 5 ปี ช่วงปี2559-2563 ว่า ทางกระทรวงฯ มีเป้าหมายต้องการให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นำในด้านการผลิตและการค้ากาแฟคุณภาพของภูมิภาคอาเซียน โดยจะมีการผลักดันให้กาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของไทยที่สร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่เกษตรกรและผู้ดำเนินธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมกาแฟของไทย เนื่องจากแนวโน้มราคาผลผลิตเมล็ดกาแฟคุณภาพในตลาดโลกมีแนวโน้มที่สูงขึ้น รวมถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมกาแฟไทยที่มีมูลค่าสูงแตะ 30,000 ล้านบาท

ขณะที่ผลผลิตเมล็ดกาแฟของไทยยังไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคภายในประเทศ สาเหตุจากพื้นที่เพาะปลูกที่ลดลงเหลือ 259,867 ไร่ ทำให้ผลผลิตกาแฟลดลงไปด้วยโดยเหลือเพียง 23,273 ตัน แต่ยังสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรปีผู้ปลูกถึงปีละอย่างน้อย 200 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจกาแฟของไทยมีมูลค่าในการส่งออกประมาณ 3,900 ล้านบาท ในปี 2560 แต่มีมูลค่าการนำเข้าถึงประมาณ 8,044 ล้านบาท

เนื่องจากความต้องการบริโภคและใช้ในอุตสาหกรรมอยู่ที่ 90,000 ตัน และ คาดว่าในปีนี้ (2561) ความต้องการจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1 แสนตัน ด้วยเหตุนี้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และ องค์กรที่เกี่ยวข้อง จึงมีการร่วมมือกันเพื่อพัฒนาการผลิตกาแฟในทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำให้เป็นไปอย่างมีระบบ ด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ

คือ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและพัฒนาคุณภาพผลผลิตโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม พัฒนาการแปรรูปและสร้างมูลค่าเพิ่ม พัฒนาด้านการตลาด พัฒนาด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงพัฒนาด้านการบริหารจัดการ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มทั้งคุณภาพและปริมาณผลผลิตให้แก่อุตสาหกรรมกาแฟไทย

ด้าน ดร.อนันต์ ดาโลดม นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย กล่าวถึงที่มาของการจัดการประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียนครั้งที่ 1 ว่า ประเทศไทยและประเทศกลุ่มอาเซียนถือว่าเป็นเพียงไม่กี่กลุ่มประเทศที่อยู่เขตพื้นที่เหมาะสมแก่การปลูกกาแฟ หรือ ที่เรียกว่าเขต Bean Belt

โดยรายงานขององค์การอาหารและเกษตรกรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอฟเอโอ) ระบุว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผลผลิตเมล็ดกาแฟในสัดส่วน 1 ใน 4 ของผลผลิตเมล็ดกาแฟทั่วโลก มีอัตราการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่า ใกล้เคียงกับกาแฟจากทวีปแอฟริกา โดยเวียดนามเป็นแหล่งผลิตกาแฟพันธุ์โรบัสตาอันดับ 1 ของโลก และ เป็นผู้ผลิตกาแฟสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจาก บราซิล

นอกจากนั้นยังมีผู้ผลิตกาแฟสำคัญอย่างอินโดนีเซีย ลาว ไทย และ พม่าที่มีแนวโน้มผลผลิตมากขึ้น ซึ่งหากมีการร่วมมือกันพัฒนาตั้งแต่กระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ คือ ผลิตสายพันธุ์กาแฟ ปลูกและเก็บเกี่ยวจนเป็นสารเมล็ดกาแฟ จนไปถึงปลายน้ำคือผลิตภัณฑ์กาแฟสำหรับดื่มแล้วจะทำให้ประเทศในกลุ่มอาเซียนสามารถก้าวขึ้นเป็นแหล่งผลิตกาแฟชั้นนำของโลกได้

ซึ่งในการประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียนครั้งนี้ มีคณะอนุกรรมการการจัดงานรวมทั้งสิ้น 12 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดเชียงใหม่ กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ในฐานะเจ้าภาพ สมาพันธ์กาแฟอาเซียน สมาคมบาริสต้าไทย สมาคมกาแฟไทย สมาคมชาวสวนกาแฟไทย สมาคมกาแฟและชาไทย และ มูลนิธิชาวสวนกาแฟ ในฐานะเจ้าภาพร่วม และ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดงาน ภายใต้เป้าหมายที่จะ “เป็นผู้นำการผลิตและการค้ากาแฟคุณภาพในภูมิภาคอาเซียน ก้าวไกลสู่ตลาดโลกภายใต้ภาพลักษณ์กาแฟไทย” ภายในปี 2564

สำหรับรายละเอียดในการจัดงานฯ นั้น นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล ประธานบริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า โครงการประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียน ครั้งที่ 1 จะเป็นการประชุมหารือด้านความร่วมมือการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟไทยและอาเซียนโดยมีเป้าหมายหลักร่วมกันในการสร้างการต่อยอดทางความคิดในด้านของวิชาการและด้านธุรกิจ โดยงานประชุมฯ จะจัดขึ้นในวันที่ 22-23 พฤศจิกายน 2561 ณ จังหวัดเชียงใหม่ ภายในงานนอกจากจะมีการประชุมที่สำคัญแล้ว ยังมีกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย อาทิ

1.การประกวดการแข่งขัน ACID 2018 Barista Royal Princess Cups ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2 รายการ ได้แก่ การแข่งขัน ACID 2018 Brewer Cup Championship และการแข่งขัน ACID 2018 Latte Art Championship ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับนานาชาติที่เปิดรับทั้งผู้เข้าแข่งขันจากไทยและนานาชาติ

2. งาน ASEAN Coffee Festival ซึ่งเป็นการจัดแสดงนิทรรศการผลงานด้านวิชาการและงานแสดงสินค้า เพื่อให้องค์กร และหน่วยงานต่างๆ ได้มีโอกาสนำเสนอภาพลักษณ์และธุรกิจขององค์กรในด้านความยั่งยืน ตลอดจนเปิดโอกาสทางการทำธุรกิจการค้าของทุกกลุ่มตั้งแต่กิจการด้านการเกษตร กิจการโรงคั่ว กิจการโรงงาน กิจการเครื่องมือและเทคโนโลยีในการประกอบธุรกิจกาแฟ กิจการร้านค้ากาแฟ และ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจกาแฟ รวมทั้งพาวิลเลี่ยนจากบรรดาประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศอื่นๆ

3.การเยี่ยมชมดูงานด้านกาแฟ อาทิ โครงการหลวง แหล่งปลูกกาแฟ โรงคั่วกาแฟ และร้านกาแฟ

ด้วยเหตุนี้จึงอยากเชิญชวนให้ผู้อยู่ในอุตสาหกรรมกาแฟและผู้สนใจในกาแฟเข้าร่วมงานในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นการจัดงานที่ต้องการให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟจากต้นน้ำยังปลายน้ำได้อย่างแท้จริง และ เป็นหนึ่งในเครื่องมือของการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กาแฟ 2560-2564 ของประเทศไทยให้บรรลุยังเป้าหมายอีกด้วย

นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดคัดเลือกเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ดีเด่นสาขาอาชีพต่าง ๆ ให้เป็นเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ.2561 เพื่อยกย่องประกาศเกียรติคุณและเผยแพร่ผลงานดีเด่นให้สาธารณชนทั่วไปได้รู้จักและยึดถือเป็นแบบอย่างแนวทางในการปฏิบัติงาน

ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดีต่อประเทศโดยรวมในอนาคต โดยมอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรรวบรวมรายชื่อที่ได้รับคัดเลือกเพื่อเข้ารับพระราชทานโล่รางวัลในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญประจำปี พ.ศ.2561 วันที่ 14 พฤษภาคม 2561 ณ พลับพลาที่ประทับมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ตามผลการคัดเลือกดังนี้

เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ อาชีพทำนา ได้แก่ นายชัชวาล ท้าวมะลิ จ.อุดรธานี อาชีพทำสวน ได้แก่ นายธีรภัทร อุ่นใจ จ.จันทบุรี อาชีพทำไร่ ได้แก่ นางทองแดง แดนดี จ.บุรีรัมย์ อาชีพทำไร่นาสวนผสม ได้แก่ นายใจ สุวรรณกิจ จ.พัทลุง อาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ได้แก่ นางกุลกนก เพชรเลิศ จ.บุรีรัมย์

อาชีพเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ นายมูฮำมัดกาแมล เจะมะ จ.นราธิวาส อาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด ได้แก่ นายอดิชัย ว่องไวไพโรจน์ จ.กาญจนบุรี อาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกร่อย ได้แก่ นายวศิน ธนภิรมณ์ จ.ปัตตานี อาชีพเพาะเลี้ยงปลาสวยงามและพันธุ์ไม้น้ำ ได้แก่ นายสิทธิธรรม เรืองจรุงพงศ์ จ.ปราจีนบุรี

อาชีพปลูกสวนป่า ได้แก่ นางธวัลรัตน์ คำกลาง จ.นครราชสีมา สาขาบัญชีฟาร์ม ได้แก่ พันจ่าโทเฉลียว น้อยแสง จ.ชัยนาท สาขาการพัฒนาที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ได้แก่ นายสัญญา หิรัญวดี จ.ภูเก็ต สาขาการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืช ได้แก่ นายบุญมี นามวงศ์ จ.ชัยภูมิ ที่ปรึกษากลุ่มยุวเกษตรกร ได้แก่ นายศรีราชา บัวเบา จ.ราชบุรี สมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกร ได้แก่ นายศุภวิชญ์ บำรุงรัตน์ จ.จันทบุรี และสาขาเกษตรอินทรีย์ ได้แก่ นายสฤษดิ์ โชติช่วง จ.สุราษฎร์ธานี

สถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ กลุ่มเกษตรกรทำสวน ได้แก่ กลุ่มเกษตรกรทำสวนบ้านควนสามโคก จ.พัทลุง กลุ่มเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้เลี้ยงไก่ประดู่หางดำทุ่งช้าง จ.น่าน กลุ่มเกษตรกรทำประมงหรือเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้แก่ องค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น จ.ตราด

กลุ่มเกษตรกรแปรรูปสัตว์น้ำ ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปถนอมอาหาร จ.แพร่ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ได้แก่ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบานหนองเหรียง จ.พัทลุง กลุ่มยุวเกษตรกร ได้แก่ กลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนเพียงหลวง จ.อุบลราชธานี กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ได้แก่ กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวบ้านท่าไม้ จ.นครสวรรค์

สถาบันเกษตรกรผู้ใช้น้ำชลประทาน ได้แก่ กลุ่มบริหารการใช้น้ำชลประทานท่ายางบ้านลาดพัฒนา จ.เพชรบุรี วิสาหกิจชุมชน ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านน้ำเชี่ยว จ.ตราด ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาข้าวชุมชน ประเภทข้าวหอมมะลิ ได้แก่ ศูนย์ข้าวชุมชนตำบลเมยวดี จ.ร้อยเอ็ด และประเภทข้าวอื่น ๆ ได้แก่ ศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชนพัฒนาบ้านบึงประดู่ จ.พิจิตร

สหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ สหกรณ์การเกษตร ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา สหกรณ์โคนม ได้แก่ สหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์ก (ลำพญากลาง) จำกัด จ.สระบุรี สหกรณ์นิคม ได้แก่ สหกรณ์นิคมคลองหลวงสวนหมาก จ.กำแพงเพชร

สหกรณ์ผู้ผลิตยางพารา ได้แก่ สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านเสม็ดจวนพัฒนา จ.นครศรีธรรมราช สหกรณ์ออมทรัพย์ ได้แก่ สหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ สหกรณ์ร้านค้า ได้แก่ ร้านสหกรณ์โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และสหกรณ์บริการ ได้แก่ สหกรณ์สี่ล้อเล็กภูเก็ต

การยางแห่งประเทศไทย จับมือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ไทร์พลัส ประเทศไทย และบริษัท ดีสโตน จำกัด จัดโครงการ “ใกล้ไกลปลอดภัย อุ่นใจทุกการเดินทาง” เปิดจุดให้บริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ฟรี แก่เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. และเจ้าหน้าที่ของ กยท. ณ จุดบริการที่กำหนดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้

นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทยด้านอุตสาหกรรมยางและการผลิตยาง กล่าวว่า กยท. ได้จัดทำโครงการ ใกล้ไกลปลอดภัย อุ่นใจทุกการเดินทาง ขึ้นเพื่อบริการพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง และพนักงานการยางแห่งประเทศไทย ซึ่งใช้รถยนต์สำหรับการเดินทางและขนส่งยางพารา ในการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ฟรี 24 รายการ เป็นการลดค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องเกษตรกรอีกทางหนึ่ง

โดย กยท. ได้ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทร์พลัส ประเทศไทย และบริษัท ดีสโตน จำกัด เปิดจุดให้บริการตามสถานที่ที่กำหนด ได้แก่ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. FIT AUTO 33 สาขาทั่วประเทศ จุดบริการไทร์พลัส ประเทศไทย 126 สาขา และตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์ดีสโตน (บริษัท เดอะเอส-วัน คอร์ปอเรชั่น จำกัด สาขาราชพฤกษ์) โดยไทร์พลัส และดีสโตน จะเปิดให้บริการตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2561 และส่วนบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) FIT AUTO จะเปิดให้บริการจนถึง 31 ธันวาคม 2561 นี้

นายณกรณ์ กล่าวต่ออีกว่า เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับทาง กยท. ทั้งที่มีเอกสารสิทธิ์ (บัตรสีเขียว) และเกษตรกรที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ (บัตรสีชมพู) รวมถึงเจ้าหน้าที่ของ กยท. ทั่วประเทศ สามารถใช้บัตรเขียว บัตรชมพู และบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่เพื่อยื่นขอรับบริการฟรี ได้ที่จุดบริการที่กำหนดทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ปัจจุบันการทำกายภาพบำบัดสำหรับผู้ป่วยที่ป่วยเป็นอัมพาตครึ่งซีกอันเนื่องมาจากโรคเส้นเลือดในสมอง ซึ่งการทำกายภาพบำบัดนั้นจำเป็นจะต้องมีทีมแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดคอยดูแลอย่างใกล้ชิด และกระบวนการทำกายภาพบำบัดในปัจจุบันยังมีความเสี่ยงภายในกระบวนการเนื่องจากกายภาพบำบัดนั้น ผู้ทำกายภาพบำบัดจะเดินด้วยตนเองโดยอาศัยราวคู่และมีเพียงทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยระวังการล้มของผู้ป่วย ทำให้ระหว่างที่ผู้ป่วยทำการเดินกายภาพบำบัดนั้นอาจเกิดความเสี่ยงในการล้มหรือพลาดจากราวคู่ เป็นสาเหตุทำให้อาการทรุดหนักลงกว่าเดิม