ปาล์มอ้ายหมี (Copernicia macroglossa) มีถิ่นกำเนิดในคิวบา

อเมริกากลางอเมริกาใต้ แคริบเบียน เป็นปาล์มต้นเดี่ยว โตช้า ปาล์มต้นนี้ไม่มีก้านใบ กาบใบจะแผ่คลุมรอบคอ ใบแห้งที่ติดแน่นที่ลำต้นจะหลุดร่วงเองเมื่อต้นสูงเกิน 5 เมตร ใบแห้งเหล่านี้ทำให้ต้นปาล์มมีลักษณะ “กระโปรง” พร้อมกับใบแก่ที่ยังคงอยู่ ซึ่งก่อให้เกิด “กระโปรงชั้นใน” ที่เป็นเอกลักษณ์และมีลักษณะเฉพาะตัว ปาล์มอ้ายหมี เติบโตได้ดีในบริเวณที่มีแสงแดดจัด

เป็นปาล์มต้นเดี่ยว สูงได้ 15-20 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางลำต้น 40-60 เซนติเมตร ลำต้นหนาและแข็งแรง มีช่องระบายอากาศ ใบแผ่กางกลม ใต้ใบมีนวล ก้านใบมีหนามที่ขอบ ผลสีดำ ขนาด 1.8-2.3 เซนติเมตร ปาล์มชนิดนี้ชอบดินค่อนข้างด่างหรือเป็นกลาง ทนน้ำท่วมระยะสั้น แสงแดดจัด หรือร่มเงาบางส่วน โตช้า ลำต้นสวย เหมาะสำหรับใช้ประดับสวน ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด งอกง่าย แต่ต้นอ่อนโตช้า ใช้เวลาหลายปี

ปาล์มแชมเปญ (Hyophorbe lagenicaulis)

เป็นปาล์มต้นเดี่ยวที่โตช้า โตเต็มที่สูงประมาณ 3-4 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางลำต้น 0.6 เมตร ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยเป็นรูปตัววีคว่ำ ผลออกเป็นทะลาย ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ผลรูปลูกรักบี้ ขนาด 1-1.5 เซนติเมตร มี 1 เมล็ด ผลอ่อนสีเขียวอ่อน เมื่อแก่สีเขียวเข้ม และเมื่อสุกผิวจะนิ่ม กลิ่นเหมือนกล้วยหอม เปลือกข้างในเป็นสีดำและแข็งคล้ายกะลามะพร้าว นิยมปลูกต้นปาล์มแชมเปญไว้ในกระถาง เพื่อโชว์ทรวดทรงของลำต้นที่ป่องออกคล้ายสะโพก ดูแลง่าย สามารถใช้เป็นไม้ประดับทั้ง

หมากสง (Areca catechu)

หมาก มีด้วยกันหลายชนิด นักพฤกษศาสตร์เรียกหมากที่ใช้กินกับใบพลูว่า “หมากสง” เป็นพืชจำพวกปาล์ม เป็นชนิดหนึ่งในสกุล Arecaceae นับว่ามีความสำคัญมากทั้งในด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมในหลายท้องถิ่น ในทวีปเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยด้วย การเก็บหมากนั้น ไม่สามารถใช้ไม้สอยได้อย่างมะพร้าว เพราะหมากมีต้นสูง จึงต้องใช้คนปีนขึ้นไปเก็บ แต่การปีนหมากมีความเสี่ยงสูง อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ต้นหมากสงมีลำต้นเล็ก ความสูงปานกลาง ประมาณ 20 เมตร แต่ด้วยขนาดลำต้นที่เล็ก เส้นผ่าศูนย์กลาง 20-30 เซนติเมตร ทำให้ดูสูงมาก สามารถใช้เป็นไม้ประดับสวนได้ดี หากปลูกเป็นกลุ่มในพื้นที่กว้าง ใบจะไม่ค่อยเสีย เพราะใช้เป็นแนวกันลมให้กันอยู่

คุณโต้ง หรือ คุณกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา เล่าว่า เดิมทีต้นหมากสงมีลำต้นสูงมาก ทำให้ยากต่อการเก็บผล จึงเกิดการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ให้มีลำต้นเตี้ยลง ทำให้เก็บผลได้สะดวก และแนะนำให้คนไทยปลูกหมากสงเป็นไม้ประดับสวน เพราะเป็นปาล์มต้นสวย โตเร็ว ดูแลง่าย

มะพร้าวทะเล พันธุ์พืชหายาก

มะพร้าวทะเล เป็นหนึ่งในพันธุ์พืชหายากที่สวนนงนุชพัทยามีความภาคภูมิใจมาก เพราะเป็นสวนพฤกษศาสตร์แห่งเดียวที่ปลูกและขยายพันธุ์ต้นมะพร้าวทะเลได้มากที่สุดในขณะนี้ มะพร้าวทะเล หรือ มะพร้าวแฝด (LODOICEA MALDIVICA) จัดเป็นปาล์มชนิดหนึ่ง มีถิ่นกำเนิดอยู่บนเกาะเล็กๆ ของประเทศเซเชลส์ ในมหาสมุทรอินเดีย เป็นเมล็ดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และหนักที่สุดในโลก มีความยาวมากถึง 12 นิ้ว และน้ำหนักประมาณ 40 ปอนด์ ลักษณะผลเหมือนมะพร้าว 2 ลูก ติดกัน จนเป็นที่มาของชื่อ มะพร้าวแฝด (Double coconut) หรือมะพร้าวก้นคน หรือมะพร้าวก้นสาว แม้ชื่อสามัญจะมีชื่อว่า มะพร้าวแฝด แต่ก็ไม่ใช่มะพร้าว น่าจะอยู่ในกลุ่มเดียวกับต้นตาลมากกว่า

มะพร้าวทะเล เป็นสายปาล์มที่มีการเจริญเติบโตช้ามาก ผลใช้เวลาเป็นปีในการงอก จัดเป็นพืชหายากชนิดหนึ่งของโลก มีลักษณะการเจริญเติบโตเหมือนปาล์มที่มีรูปพัด โดยมีเพศแยกออกไปคนละต้น ต้นเพศเมียจะไม่ให้ผลจนกว่าจะมีอายุ 30 ปีขึ้นไป บางต้นอาจมีระยะเวลาถึง 100 ปี ในอดีตชาวมัลดีฟส์ใช้มะพร้าวทะเลนี้ทำเป็นอาหารและเครื่องดื่ม และเชื่อว่าเป็นยาทิพย์รักษาสารพัดโรค สามารถแก้พิษ และที่สำคัญที่สุดคือเป็นไวอากร้าของคนสมัยนั้น ปัจจุบัน ราคาของมะพร้าวทะเลค่อนข้างแพง ตกใบละ 1,000-1,500 ดอลลาร์สหรัฐ

หนังสือบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ ยกย่อง มะพร้าวทะเล ว่าเป็นเมล็ดผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนักเฉลี่ย ผลละ 20 กิโลกรัม โดยธรรมชาติแล้ว ต้นมะพร้าวทะเล แบ่งออกเป็นต้นเพศผู้และเพศเมีย เมื่อผสมเกสรระหว่างต้นตัวเมียและตัวผู้แล้ว กว่าผลจะสุกต้องใช้เวลาถึง 7 ปี หากนำเมล็ดไปเพาะขยายพันธุ์ ต้องนำผลตั้งบนดินนาน 1 ปี ถึงจะมีรากแก้วงอกออกมา แล้วชอนไชเข้าไปในดิน มีความยาวหลายฟุต ก่อนที่จะเริ่มมีใบออกมาปีละ 1 ใบ เพศผู้มีลำต้นสูงถึง 30 เมตร กว่าจะเติบโตออกดอกออกผลได้ต้องมีอายุ 20-40 ปี

คุณโต้ง กล่าวว่า ต้นมะพร้าวทะเล เป็นพันธุ์ไม้หายากชนิดหนึ่ง พบที่เกาะเซเชลส์ ในมหาสมุทรอินเดียเพียงแห่งเดียวในโลก ผมเริ่มเก็บมะพร้าวทะเลจากเกาะเซเชลส์ตั้งแต่ 30-40 ปีที่แล้ว ช่วงนั้นเกาะเซเชลส์อนุญาตให้เก็บผลได้ 2 ผลต่อ 1 คน ผมเดินทางไปเรื่อยๆ เก็บมาปลูกขยายพันธุ์ในสวนนงนุชพัทยาได้กว่า 20 ต้นแล้ว ปัจจุบัน เกาะเซเชลส์ไม่อนุญาตให้นำมะพร้าวทะเลออกนอกประเทศ เพราะถือว่าเป็นสมบัติสำคัญของชาติ กลายเป็นพันธุ์ไม้หายากชนิดหนึ่งที่สวนพฤกษศาสตร์ทุกแห่งต้องมี

สำหรับการปลูกขยายพันธุ์มะพร้าวทะเลไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผสมพันธุ์ด้วยมือ โดยนำเกสรตัวเมียและตัวผู้มาผสมกัน หากผสมติดต้องใช้เวลาประมาณ 7 ปีกว่าผลจะสุก เนื้อในมีสีขาว รสชาติคล้ายลูกตาล สำหรับต้นมะพร้าวทะเลที่เติบโตตามธรรมชาติบนเกาะเซเชลส์ มีอายุประมาณ 60 ปี เพราะหน้าแล้งขาดแคลนน้ำ จึงหยุดการเติบโต แต่เมื่อมาอยู่ในเมืองไทย สวนนงนุชพัทยาดูแลรดน้ำทุกวัน ทำให้ต้นมะพร้าวทะเลเติบโตไว ให้ผลดก บางผลมีขนาดใหญ่ มีเมล็ด 2-3 เมล็ด ก็เคยเจอมาแล้ว

“โชคดี ที่สวนนงนุชพัทยาปลูกและขยายพันธุ์มะพร้าวทะเลมาตลอด ทำให้มีจำนวนต้นที่เก็บสะสมไว้จำนวนมาก สามารถนำไปแลกเปลี่ยนต้นพันธุ์กับสวนพฤกษศาสตร์ทั่วโลกได้ ขณะเดียวกัน หมู่เกาะเซเชลส์ ก็ต้องการพันธุ์ต้นมะพร้าวทะเลกลับไปปลูกเพิ่มบนเกาะ ผมก็ยินดีให้ความร่วมมือ โดยขอแลกเปลี่ยนกับสายพันธุ์ปาล์มที่เกาะเซเชลส์มีอยู่ แม้ที่นั่นจะมีสายพันธุ์ปาล์มไม่มากเท่าไร แต่สวนนงนุชพัทยาเป็นศูนย์รวบรวมพันธุ์ไม้จากทั่วโลกกว่า 18,000 กว่าชนิด และเราตั้งใจเก็บให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในตอนนี้เรียกได้ว่า สวนนงนุชพัทยา ปลูกต้นมะพร้าวทะเลได้มากที่สุดในเอเซีย เป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของเรา และในอนาคต สวนนงนุชพัทยา ตั้งเป้าหมายปลูกและขยายพันธุ์ต้นมะพร้าวทะเลให้ได้มากที่สุดในโลก” คุณโต้ง กล่าวในที่สุด

“กล้วยน้ำว้ามะลิอ่อง” เป็นกล้วยพันธุ์โบราณ นิยมปลูกกันมาช้านาน และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือผลของกล้วยชนิดนี้จะมีนวลสีขาวจำนวนมากติดที่เปลือกผลตลอดทั้งผล โดยเฉพาะเวลาผลสุกจะเป็นสีเหลืองนวลคล้ายมีแป้งเคลือบอยู่ จึงถูกตั้งชื่อว่า “กล้วยน้ำว้ามะลิอ่อง” และเรียกกันเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งความหมายก็คือ ขาวสดใสเอี่ยมอ่อง ส่วนรสชาตินั้นก็ไม่เป็นสองรองใคร จะรับประทานเป็นกล้วยน้ำว้าสุกเพื่อเพิ่มพลังงาน เสริมธาตุเหล็ก ก็อร่อยเหนียวนุ่ม หวานจัด หรือจะนำมาแปรรูปทำกล้วยปิ้ง ก็อร่อยกำลังดี เนื้อนุ่มไม่เละ เป็นที่ถูกอกถูกใจของพ่อค้าแม่ขายไม่น้อย

คุณไพบูลย์ ไกรทอง อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ที่ 12 ตำบลนาป่า อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ อาชีพเกษตรกรรมถือเป็นอาชีพที่อยู่ในสายเลือดของชายคนนี้มาตลอด เพราะตั้งแต่จำความได้คุณไพบูลย์ก็เกิดมาในครอบครัวเกษตรกร โตขึ้นมาก็เป็นเกษตรกร จนเกิดเป็นความรักโดยไม่รู้ตัว ทุกวันนี้กลายเป็นเกษตรกรมืออาชีพ สามารถทำเกษตรผสมผสานแบบลดต้นทุน สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้อยู่อย่างสุขสบาย

คุณไพบูลย์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นการเป็นเกษตรกรว่า ตนนั้นเป็นเกษตรกรมาอยู่แล้วตั้งแต่เกิด เมื่อเริ่มโตขึ้นพอช่วยหยิบจับอะไรได้ ก็เริ่มมีการเรียนรู้ที่จะเป็นเกษตรกรตามรอยพ่อแม่เลย โดยเริ่มต้นจากที่ครอบครัวปลูกพืชผักตามที่ตลาดต้องการเกือบทุกชนิด เช่น พริก หอม กระเทียม ผักบุ้ง กวางตุ้ง และอื่นๆ อีกมากมาย บอกวันนี้ก็คงไม่หมด ปลูกจนเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัวได้ จากที่พ่อแม่เคยเช่าพื้นที่คนอื่นปลูก ก็ได้มีการขยับขยายซื้อที่ดินของตัวเองสะสมมาเรื่อยๆ

จนถึงปัจจุบันนี้ครอบครัวของตนมีพื้นที่ทำการเกษตรเป็นของตัวเองกว่า 100 ไร่ และที่มีทุกวันนี้ได้ก็เกิดมาจากความสามัคคีของครอบครัว และการวางแผนการปลูกที่ดี ใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุดด้วยการปลูกพืชผสมผสาน ปลูกพืชที่เอื้อประโยชน์กันภายในสวน ดังนั้น ไม่ว่าจะเดินไปตรงไหนของสวนจะสามารถเด็ดกินผักกินผลไม้ได้ทุกต้น มีพืชผักผลไม้เก็บขายสร้างรายได้ทุกสัปดาห์ และที่วิเศษไปกว่านั้นคือ การที่สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ด้วยการปลูกพืชต้นทุนต่ำ อาศัยประสบการณ์ที่คลุกคลีกับอาชีพเป็นเกษตรกรตั้งแต่เด็กมาประยุกต์ทำในสวนเพื่อให้ได้ต้นทุนที่ต่ำที่สุด แต่ยังคงได้ผลผลิตที่มีคุณภาพเท่าเดิม

“กล้วยน้ำว้ามะลิอ่อง” พืชปลูกง่าย
ต้นทุนต่ำ สร้างรายได้ดีของสวน
เจ้าของบอกว่า ภายในสวนผสมผสานปลูกพืชผักผลไม้ไว้หลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น น้อยหน่า แก้วมังกร พุทรา มะขามหวาน มะขามเปรี้ยว มะขามเทศ กล้วยหิน มะพร้าว มะละกอ และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนพืชที่ยกให้เป็นที่สุดของสวนเพราะปลูกง่าย ขายง่าย ขายได้ทุกส่วน มีต้นทุนในการปลูกดูแลเพียงหลักพันก็ต้องยกให้ กล้วยน้ำว้ามะลิอ่อง ที่มีวิธีการปลูกที่ง่าย ปลูกได้กล้วยๆ สมชื่อจริงๆ อีกทั้งยังเป็นผลไม้ที่เป็นที่ต้องการของตลาด มีประโยชน์มากมายสามารถนำไปแปรรูปประกอบอาหารได้หลากหลาย นี่จึงเป็นที่มาของการจัดสรรพื้นที่การปลูกกล้วยให้มีพื้นที่มากกว่าพืชผักชนิดอื่นๆ

กล้วยน้ำว้าโดยทั่วไปแล้วสามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ ที่สวนตอนนี้ปลูกกล้วยน้ำว้ามะลิอ่องทั้งหมดประมาณ 3,000 กว่าต้น เริ่มปลูกมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 6 ปี ที่มีการปลูกกล้วยเพื่อสร้างรายได้ขึ้นมา โดยครั้งแรกที่เริ่มปลูกต้องบอกตามตรงว่าเริ่มจากการใช้สารเคมีในการปลูก แต่เมื่อสะสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ จนมีวิธีที่ปลูกโดยไม่ต้องใส่ปุ๋ยได้แล้ว ก็หยุดใส่ปุ๋ยเคมีทันที นับเป็นระยะเวลากว่า 3 ปี แล้วที่สวนปลูกกล้วยโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีใดๆ และผลผลิตก็ออกมาได้คุณภาพเป็นที่น่าพอใจ พ่อค้าแม่ค้าชอบจนผลิตขายไม่ทัน ด้วยจุดเด่นกล้วยน้ำว้ามะลิอ่องของสวนมีลูกใหญ่ สีสวย รสชาติดี รับไปขายก็ขายง่าย นี่จึงเป็นจุดดึงดูดให้พ่อค้าแม่ค้าแย่งกันซื้อ ส่วนเทคนิคการปลูกนั้นก็ไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนและไม่ได้มีวิธีการปลูกที่พิสดารไปจากคนอื่น เพียงแค่รักและใส่ใจหมั่นคอยดูแลตัดแต่งไม่ให้ต้นโทรม เพียงเท่านี้ก็จะได้ผลผลิตคุณภาพ ระบบน้ำไม่ต้องมีก็ได้

ขั้นตอนการปลูก
ของที่สวนไม่มีการเตรียมแปลงยกร่องใดๆ เพียงขุดหลุมแล้วปลูกได้เลย โดยขนาดความลึกของหลุมนั้นประมาณ 40-50 เซนติเมตร ความกว้างของหลุมเอาแค่พอต้นกล้วยลงได้ ระยะห่างระหว่างต้น 5×5 เมตร เพื่อง่ายต่อการจัดการ ไม่แออัดจนเกินไป ระหว่างต้นกล้วยก็จะนำเอาผลไม้ชนิดอื่นมาปลูกแซมในดงกล้วย เท่ากับเป็นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุด ไม่ว่าจะเดินไปตรงไหนก็สามารถเก็บผลไม้กินได้ทุกต้น

ส่วนเหตุผลที่ต้องขุดหลุมลึกขนาดนี้ เนื่องจากที่สวนจะใช้วิธีการนำกล้วยสาวมาปลูก กล้วยสาวในที่นี้คือ กล้วยที่สมบูรณ์เต็มที่แล้ว จะมีขนาดความสูงของต้นประมาณ 1-1.60 เมตร ซึ่งวิธีนี้เกิดจากทดลองการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพื่อให้ผลผลิตที่เร็วขึ้น และผลลัพธ์ที่ได้ก็เป็นไปตามคาด ได้ผลผลิตออกมาดีและเร็ว เพราะปกติถ้าปลูกโดยใช้หน่อกล้วยทั่วไป ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 8-9 เดือนกว่าจะได้เก็บผลผลิตรอบแรก แต่ถ้าปลูกกล้วยสาวจะให้ผลผลิตเร็วใช้ระยะเพียง 6-7 เดือน ก็สามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว อีกทั้งยังได้ผลผลิตออกมาดีมาก ให้เครือใหญ่ หวีเยอะ ต้นแข็งแรง ไม่ล้มง่ายอีกด้วย

การดูแลจัดการ น้ำ-ปุ๋ย
ที่สวนไม่ต้องดูแลอะไรเลย ไม่มีระบบน้ำ ไม่มีการใส่ปุ๋ย ปลูกครั้งแรกแล้วรอเก็บผลผลิตอย่างเดียว ปัญหาศัตรูพืชตั้งแต่ปลูกมาก็ยังไม่เคยเจอ ก็จะเห็นได้ว่าเป็นพืชที่ปลูกง่าย เพียงแต่ขั้นตอนการเก็บผลผลิตจะต้องพิถีพิถันสักหน่อย ซึ่งในขั้นตอนการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่สวนจะไม่จ้างคนงานเลย จะทำเองตัดเองมากกว่า เนื่องจากจ้างคนอื่นมาจะไม่ละเอียดเท่าเจ้าของสวน จ้างให้มาตัดเขาก็มาตัดอย่างเดียว จะไม่มีการดูแลทะนุถนอม แต่ในทางกลับกันถ้าเป็นเจ้าของตัดเอง การดูแลรักษาก็จะต่างกัน ตัดอย่างใจเย็น ตัดไปตรวจไป ต้นไหนใบไหนหักเสียก็ตัดแต่งทิ้งไปด้วย พยายามทำให้ต้นมีความสมบูรณ์ที่สุด หรือถ้ากอไหนออกหน่อมาเยอะ ก็ขุดออกเหลือไว้ต่อกอไม่ต้องมากนัก เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ

ผลผลิต… ที่สวนจะเอาไว้ขั้นต่ำประมาณ 7 หวี ต่อ 1 เครือ น้ำหนักต่อเครืออยู่ที่ประมาณ 15 กิโลกรัม แต่ถ้าเป็นฤดูฝน น้ำหนักของกล้วยจะเพิ่มสูงขึ้นมาอีก บางครั้งขึ้นสูงถึง 20 กิโลกรัม ต่อ 1 เครือ ราคาขายส่ง หวีละ 15-18 บาท ตัดผลผลิตส่งขายเดือนละ 3 ครั้ง ปริมาณการส่ง ครั้งละ 500 กิโลกรัม เลือกตัดผลผลิตตามความต้องการของลูกค้า หากลูกค้าต้องการนำไปปิ้ง ก็ตัดที่ ความสุก 70-80 เปอร์เซ็นต์ ถ้าหากรับประทานผลสด ก็จะตัดอยู่ที่ 80-100 เปอร์เซ็นต์พร้อมรับประทาน หรือถ้าเป็นกล้วยฉาบ จะตัดอยู่ที่ประมาณ 50-60 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้ลูกค้าได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพและเหมาะสมกับจุดประสงค์ที่จะนำไปใช้

รายได้… มีเข้ามาทุกสัปดาห์ อย่างน้อยๆ สัปดาห์ละ 2,000-3,000 บาท เฉลี่ยรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 15,000-20,000 บาท เฉพาะรายได้จากการขายกล้วย แต่ถ้ารวมกับพืชผักชนิดอื่นภายในสวนผสมผสานก็จะมีรายได้จากการทำเกษตรประมาณเดือนละไม่ต่ำกว่า 30,000-40,000 บาท ยังไม่รวมในส่วนของการขายหน่อกล้วย ราคาหน่อละ 20 บาท อีกด้วย ถือว่าเป็นรายได้ที่น่าพึงพอใจได้ทำงานที่ชอบ ได้อยู่กับครอบครัวที่รัก แค่นี้ก็คุ้มค่ากับเหงื่อที่เสียไปแล้ว

ผลผลิตคุณภาพ ขายที่ไหน
พ่อค้าแม่ค้าก็แย่งกันซื้อ
เรื่องการตลาดนั้น คุณไพบูลย์ บอกว่า ไม่มีความกังวลใด เนื่องจากผลผลิตที่สวนได้คุณภาพ ไปส่งที่ไหนใครก็ว้าว! เพราะผลผลิตลูกใหญ่ หวีดก สีสวย โดนใจพ่อค้าแม่ค้า ไปขายที่ไหนก็ชอบกันหมด จนตอนนี้ผลผลิตของสวนกลายเป็นขวัญใจตลาดตามหัวเมืองใหญ่ อย่าง ตลาดอู้ฟู่ขอนแก่น ตลาดไทที่กรุงเทพฯ ตลาดหล่มสักเพชรบูรณ์ และตลาดในชุมชน เรียกได้ว่าตอนนี้มีผลผลิตเท่าไรก็ยังไม่พอขาย ซึ่งในอนาคตได้มีการวางแผนที่จะขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มอีกกว่า 1,000 ต้น

แนะนำมือใหม่หัดปลูกดีไหม
“ต้องแนะนำก่อนว่า ไม่ว่าจะเริ่มลงมือทำอะไรสักอย่าง หากมีความตั้งใจก็ถือว่าประสบผลสำเร็จไปแล้วส่วนหนึ่ง และอีกที่เหลือคือการขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ ทดลองทำจนกว่าจะประสบความสำเร็จ และหากท่านใดสนใจอยากจะทดลองปลูกกล้วยเป็นอาชีพเสริม ก็ถือว่าเป็นอาชีพที่ดีไม่น้อย เพราะกล้วยเป็นผลไม้ที่ตลาดมีความต้องการอยู่ตลอด ปลูกง่าย ต้นทุนต่ำ ปลูกแบบไม่พึ่งสารเคมีก็ได้ มีเพียงเงินหลักพันในการซื้อต้นพันธุ์มาปลูก ส่วนที่เหลือการเตรียมดิน ขุดหลุม ให้ใช้แรงงานภายในครอบครัว ส่วนเรื่องระบบน้ำ การใส่ปุ๋ยไม่ต้องใช้ ใช้เพียงความขยันหมั่นตรวจแปลงบ่อยๆ ดูแลทะนุถนอมให้เหมือนลูกสาว เพียงเท่านี้ท่านก็จะได้ผลผลิตออกมาได้คุณภาพ ตามความต้องการของตลาดโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีต้นทุนชีวิตที่สูงก็ทำได้เช่นกัน” คุณไพบูลย์ กล่าวทิ้งท้าย

“หม่อนยูนนาน-มะนาวหอม” เป็นผลผลิตจาก สวนเอฟเวอร์กรีน เขาใหญ่ เจ้าของสวนแห่งนี้คือ คุณน้อย หรือ คุณนิรันดร์ชัย เกษบึงกาฬ ได้ยืนยันว่า “หม่อนยูนนาน-มะนาวหอม” เป็นสินค้าเพื่อสุขภาพที่ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อในวงกว้าง หลังจากได้เปิดขายในงานแสดงสินค้า และสื่อออนไลน์ต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา สำหรับหม่อนยูนนาน ขายส่งในราคา กิ่งละ 80 บาท มีออเดอร์จากทั่วประเทศ เดือนละนับ 1,000 กิ่ง

คุณน้อย เรียนจบสาขาพืชสวน จากสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตบางพระ สาขาพืชสวน หลังจากนั้นทำงานกับโบนันซ่า เขาใหญ่ และทำอาชีพรับจ้างจัดสวนอยู่หลายปี ก่อนจะหันมาทำอาชีพเกษตรกรรมอย่างเต็มตัว โดยใช้ชื่อสวนเกษตรแห่งนี้ว่า สวนเอฟเวอร์กรีน เขาใหญ่ ตั้งอยู่ เลขที่ 10 หมู่ที่ 7 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 30130 คุณน้อยชื่นชอบการบริโภค “หม่อนกินผลสด หรือมัลเบอร์รี่” มากเป็นพิเศษ เพราะเป็นผลไม้ที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพสูง เขาจึงสะสมพันธุ์มัลเบอร์รี่สายพันธุ์ไทยและต่างประเทศไว้เป็นจำนวนมาก

“หม่อนยูนนาน” ให้ผลดกทั้งปี
เมื่อ 3 ปีก่อน คุณน้อยได้ไปเที่ยวดูงานเกษตรที่เมืองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ไปเจอต้นหม่อนกินผลสดสายพันธุ์ยูนนาน ที่มีผลผลิตดกมาก จึงนำกิ่งพันธุ์หม่อน จำนวน 2 กิ่ง เข้ามาปลูกขยายพันธุ์ในลักษณะการปักชำ หลังจากทดลองปลูกพบว่า ต้นหม่อนยูนนานพันธุ์นี้มีลำต้นแข็งแรง เจริญเติบโตเร็ว ไม่มีแมลงรบกวน ให้ผลดกตลอดทั้งปี และมีผลขนาดใหญ่ รสหวานอมเปรี้ยว ถือว่ามีรสชาติอร่อย เมื่อเทียบกับหม่อนลูกแดง สายพันธุ์อื่น

ที่สำคัญหากใครมีปัญหาข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่ปลูก เพราะพักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมหรือหอพัก ก็ไม่ต้องกังวล เพราะคุณสามารถปลูกต้นหม่อนพันธุ์ยูนนานในกระถางได้ และได้ผลดกเหมือนปลูกในแปลงปลูกทั่วไป ต้นหม่อนพันธุ์ยูนนานเหมาะสำหรับปลูกเพื่อเก็บผลสดไว้บริโภคหรือขาย เพราะปัจจุบัน ผลหม่อนสด ซื้อขายในราคาสูง ถึงกิโลกรัมละ 300 บาททีเดียว

ต้นหม่อนพันธุ์ยูนนาน ปลูกง่าย สมัคร GClub มีอัตราการรอดสูงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ คุณน้อยแนะนำให้ขุดหลุมปลูก ขนาด 30×30 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยอินทรียวัตถุและปุ๋ยเคมี สูตร 16-16-16 และปลูกเป็นแถว ในระยะห่างประมาณ 2.50×2 เมตร ถึง 4×4 เมตร หลังปลูกคอยดูแลให้ปุ๋ยและน้ำตามปกติ เมื่อต้นหม่อนอายุประมาณ 3 เดือน ค่อยตัดแต่งทิศทางทรงพุ่ม ให้อาหารเสริมพืชทางใบ ปล่อยไปทางระบบน้ำและใส่ปุ๋ย สูตร 16-16-16 บำรุงรักษาต้น เมื่อต้นหม่อนพันธุ์ยูนนานอายุ 5 เดือน ให้ตัดแต่งกิ่ง คงกิ่งหลักไว้เพื่อให้แตกกิ่ง เป็นทรงพุ่มตามต้องการทุกๆ 3 เดือน ต้นหม่อนพันธุ์ยูนนาน 1 ต้น จะให้ผลผลิตเฉลี่ย 10-12 กิโลกรัม นอกจากนี้ ใบหม่อนยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นใบชาหม่อน บำรุงสุขภาพได้อย่างดีเยี่ยม และขายใบชาได้ในราคาสูงอีกต่างหาก

“มะนาวหอมเขาใหญ่” พันธุ์ทะวาย ปลูกง่าย ขายดี
สวนเอฟเวอร์กรีน เขาใหญ่ ยังมีสินค้าเด่นอีกชนิดคือ “มะนาวหอมเขาใหญ่” เป็นมะนาวพันธุ์ทะวาย ให้ผลดกตลอดทั้งปี และสามารถต้านทานโรคแคงเกอร์ได้ดี เมื่อเกือบ 4 ปีที่แล้ว คุณน้อยได้กิ่งพันธุ์มะนาวคุณภาพดี พันธุ์ปลอดโรค จากไต้หวันมาทดลองปลูก ปรากฏว่าให้ผลผลิตดกดีมาก ทั้งๆ ที่ไม่ค่อยรดน้ำหรือให้ปุ๋ยสักเท่าไร แถมปลอดโรคแคงเกอร์อีกต่างหาก ที่สำคัญน้ำมะนาวพันธุ์นี้มีกลิ่นหอมมาก น้ำเยอะ เปลือกบาง และมีผลใหญ่ขนาดจัมโบ้ เฉลี่ยน้ำหนัก ผลละ 1 ขีด

คุณน้อย หันมาใส่ใจดูแลต้นมะนาวพันธุ์นี้มากขึ้น เมื่อเก็บผลผลิตออกขายก็เป็นที่ถูกใจแม่ค้า เพราะติดใจคุณภาพ ช่วงฤดูแล้ง คุณน้อยสามารถขายผลมะนาวพันธุ์นี้ได้ราคาสูง ถึงผลละ 8 บาท ปัจจุบันขายส่ง ในราคา ผลละ 4 บาท เก็บผลผลิตออกขายได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 1,500-2,000 ผล ทำให้คนที่รู้ข่าวเริ่มมาขอแบ่งปันกิ่งพันธุ์มะนาวหอมเขาใหญ่ไปปลูกอย่างต่อเนื่อง ในราคากิ่งละ 150 บาท มียอดสั่งจองเดือนละนับ 1,000 กิ่ง

คุณน้อย บอกว่าต้นมะนาวหอมเขาใหญ่ ปลูกง่าย เหมาะสำหรับปลูกเป็นพืชสวนครัวในบ้านเรือนทั่วไป แค่ปลูกมะนาวหอมเขาใหญ่ สัก 2 ต้น ต่อครัวเรือน ก็จะมีผลมะนาวสดไว้บริโภคตลอดทั้งปี ต้นมะนาวหอมเขาใหญ่ไม่ต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษ แค่รดน้ำทุกวัน ใส่ปุ๋ยเป็นครั้งคราวก็จะได้ผลดกตลอดทั้งปี

อำเภอแม่ใจ เป็นหนึ่งในเก้าอำเภอของจังหวัดพะเยา มีคำขวัญเพื่อการท่องเที่ยวว่า “พระเจ้าทองทิพย์คู่ถิ่น แหล่งทำกินหนองเล็งทราย มากมายสวนลิ้นจี่ รสดีมะพร้าวเผา” จะเห็นได้ว่ามีพืชผลทางด้านการเกษตรถึง 2 ชนิด อยู่ในนั้น ซึ่งผู้เขียนเขียนถึงมาแล้ว 1 ชนิด คือ ลิ้นจี่ วันนี้จะมาเขียนถึงเมล่อน พืชใหม่ที่ทำได้ และทำเงิน

วันก่อนผู้เขียนลงพื้นที่ผ่านโรงเรือนปลูกเมล่อน น้องๆ ที่สำนักงานบอกว่าเป็นแปลงปลูกเมล่อนของประธานวิสาหกิจชุมชนปลูกเมล่อนของอำเภอแม่ใจ เมื่อมีเวลาจึงลงไปพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเจ้าของแปลง คือ คุณธวัชชัย ใจมิภักดิ์ บ้านเลขที่ 77 หมู่ที่ 9 ตำบลศรีถ้อย อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา เดิมคุณธวัชชัยประกอบอาชีพทางช่าง มีบุตร 2 คน ส่งให้เรียนหนังสือจนจบและมีอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ จึงหันมาทำการเกษตร โดยปลูกพืชผักขาย ลองผิดลองถูกมาพอสมควร ในที่สุดหันมาผลิตแบบปลอดภัยจากสารพิษ