พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 12:00 น. วันนี้

วันพรุ่งนี้ภาคเหนือ มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี และหนองคาย อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน กับมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ประเพณีสงกรานต์เป็นประเพณีที่มีคุณค่า สะท้อนวิถีปฏิบัติอันงดงามของไทยในหลายมิติ อาทิ ศาสนา สังคม ความศรัทธา ความเชื่อ ได้แก่ ความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ความปรารถนาดี ความเอื้ออาทรต่อญาติมิตร มีน้ำใจไมตรีต่อคนทั่วไป รวมถึงการใส่ใจทรัพยากรธรรมชาติ ถือเป็นประเพณีแห่งความสมัครสมานสามัคคีของครอบครัว ชุมชน และสังคม

ในการนี้ วธ. โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ได้เชิญหน่วยงานภาคีเครือข่ายมาประชุมบูรณาการความร่วมมือในการจัดงานสืบสานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2561 ซึ่งมีคุณค่าสาระของประเพณีที่เกี่ยวกับน้ำเป็นหลัก เช่น การสรงน้ำพระพุทธรูป สรงน้ำพระสงฆ์ รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ และการละเล่นเพื่อความสนุกสนานรื่นเริง โดยใช้น้ำอย่างคุ้มค่า และคำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

นายวีระ กล่าวต่อว่า กิจกรรมต่างๆ ของ สวธ. จัดขึ้นเพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์วิถีไทย ใช้น้ำคุ้มค่า ชีวาปลอดภัย” ประกอบด้วย การจัดงานรดน้ำขอพรศิลปินแห่งชาติและผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ในวันที่ 11 เมษายน เวลา 13.00 น. ที่หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

ส่วนการจัดงานประเพณีสงกรานต์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้แก่ วัดปทุมวนารามวรวิหาร ศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามสแควร์ ถนนสีลม และถนนข้าวสาร ระหว่าง วันที่ 12-15 เมษายน การจัดงานประเพณีสงกรานต์แบบดั้งเดิม และสงกรานต์อาเซียนในจังหวัดต่างๆ เช่น สุโขทัย เลย สระแก้ว กาญจนบุรี ระนอง และบุรีรัมย์ เป็นต้น และปีนี้เพิ่มอีกหนึ่งที่คือ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เพราะตอนนี้กระแสเรื่องบุพเพสันนิวาสมาแรง ฉะนั้น จ.พระนครศรีอยุธยา จะจัดสงกรานต์ผสมผสานเรื่องบุพเพสันนิวาส ทั้งยังสนับสนุนงบประมาณให้สำนักงานวัฒนธรรม 70 จังหวัด จัดการแสดงพื้นบ้าน เพื่อส่งเสริมศิลปะการแสดงพื้นบ้านให้ได้รับความนิยมและเป็นสื่อในการสร้างความบันเทิงในช่วงเทศกาลด้วย

จึงขอเชิญร่วมสนุกกับกิจกรรมการประกวดภาพถ่ายแต่งกายชุดไทยย้อนยุคในเทศกาลสงกรานต์จากทั่วประเทศ ชิงโล่รางวัลนายกรัฐมนตรี 10 โล่ นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่แต่งกายชุดไทยย้อนยุคเข้าร่วมงานสงกรานต์ ณ สยามสแควร์ ระหว่าง วันที่ 13-15 เมษายน จะได้รับเกียรติบัตรที่ระลึก วันละ 200 คน นอกจากนั้น สวธ. ยังจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์ และออนไลน์ คือ หนังสือประเพณีสงกรานต์ 2 ภาษา ไทย-อังกฤษ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจถึงวันปีใหม่ไทย สิ่งที่ควรและไม่ควรปฏิบัติในประเพณีสงกรานต์ และยังมีบัตรอวยพรส่งความสุขเนื่องในเทศกาลอีกด้วย

อนึ่ง ประกาศสงกรานต์ ปีพุทธศักราช 2561 มีรายละเอียดดังนี้

ปีจอ (ผีเสื้อผู้หญิง ธาตุดิน) สัมฤทธิศก จุลศักราช 1380 ทางจันทรคติเป็น อธิกมาส ทางสุริยคติ เป็น ปกติสุรทิน

วันที่ 14 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ ตรงกับวันเสาร์ แรม 14 ค่ำ เดือน 5 ปีจอ เวลา 08 นาฬิกา 56 นาที 57 วินาที นางสงกรานต์ ทรงนามว่า นางมโหธรเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว (ผักตบชวา) อาภรณ์แก้วนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทราย หัตถ์ขวาทรงจักร หัตถ์ซ้ายทรงตรีศูล เสด็จยืนมาเหนือหลังนกยูง เป็นพาหนะ

วันที่ 16 เมษายน เวลา 12 นาฬิกา 59 นาที 24 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่ เป็น 1380

ปีนี้ วันศุกร์ เป็นธงชัย วันศุกร์ เป็นอธิบดี วันพฤหัสบดี เป็นอุบาทว์ วันอาทิตย์ เป็นโลกาวินาศ

ปีนี้ วันพุธ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 600 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 60 ห่า ตกในมหาสมุทร 120 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 180 ห่า ตกในเขาจักรวาล 240 ห่า นาคให้น้ำ 5 ตัว เกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ 6 ชี่อ ลาภะ ข้าวกล้าในภูมินา จะได้ผล 9 ส่วน เสีย 1 ส่วน ธัญญาหาร พลาหาร มัจฉมังสาหาร จะบริบูรณ์

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหาร วธ. และผู้แทนหน่วยงานในสังกัด วธ. อาทิ กรมศิลปากร (ศก.) กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ว่า ในการประชุมได้หยิบยกละครโทรทัศน์ เรื่อง บุพเพสันนิวาส มาหารือถึงกระแสละคร ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะการร้อยเรียงเรื่องราวเพื่อให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ การอนุรักษ์ความเป็นไทย ทั้งวัฒนธรรม อาหารไทย การแต่งกาย ภาษาไทย

ตลอดจนการสื่อให้เห็นถึงความสำคัญของมรดกชาติ โดยเฉพาะแหล่งโบราณสถานภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อาทิ พระราชวังโบราณ วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ วัดพระราม และวิหารวัดพระมงคลบพิตร รวมถึงวัดไชยวัฒนาราม เป็นต้น

“วธ. ขอชื่นชมทางผู้สร้าง ผู้จัดละครและทีมงานทุกคน ที่สร้างสรรค์ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ให้เป็นละครที่สร้างสรรค์ มีเนื้อหาละครที่ดี อีกทั้งยังช่วยปลุกกระแสและส่งเสริมให้คนไทยได้มีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชาติ และหันมาสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลประวัติศาสตร์เพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ทั้งหนังสือ ตำรา สื่อโซเชียล ตลอดจนเดินทางตามรอยละครไปสัมผัสกับสถานที่จริงด้วย” นายวีระกล่าว

“ผมได้ติดตามละครเรื่องบุพเพสันนิวาสมาหลายตอน ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่า มีการสร้างสรรค์เรื่องราวได้ดี มีการให้ความรู้ ควบคู่ไปกับการสอดแทรกความสนุกสนานของตัวละคร ทำให้มีความเข้าใจประวัติศาสตร์ได้ง่าย ไม่น่าเบื่อ อีกทั้งยังเพิ่มอรรถรสการรับชมละครได้อย่างดี ซึ่งต้องชื่นชมทั้งผู้ประพันธ์บทละคร ผู้จัดสร้าง ทีมงาน และนักแสดงทุกคนทุกฝ่าย ขณะเดียวกัน วธ.ยินดีที่จะสนับสนุนให้มีการสร้างสรรค์สื่อต่างๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับวัฒนธรรม ความเป็นไทยทุกด้าน ไปเผยแพร่สู่สาธารณชน ซึ่งจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยด้วย” นายวีระ กล่าว

และว่า ที่ประชุมยังได้เห็นร่วมกันที่จะสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการและต่อยอดในการถ่ายทอดความรู้ทางประวัติศาสตร์ให้แก่เด็ก เยาวชน คนรุ่นใหม่ โดยวันที่ 15 มีนาคมนี้ เวลา 10.00 น. ที่หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย วธ. ร่วมกับนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้จัดและทีมสร้างละคร บุพเพสันนิวาส รวมถึงผู้สร้างละครส่งเสริมการเรียนประวัติศาสตร์ จัดสัมมนาวิชาการ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ในด้านต่างๆ ที่สำคัญต่อการส่งเสริมให้คนเข้าใจประวัติศาสตร์มากยิ่งขึ้น รวมถึงจะมีการถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องอาหารไทย มรดกภูมิปัญญา เรื่องผ้าไทย การแต่งกายของคนไทยด้วย

นายวีระกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ศก.จะจัดเส้นทางตามรอยละคร บุพเพสันนิวาส ในวันที่ 17-18 มีนาคมนี้ เพื่อนำมัคคุเทศก์หรือไกด์ที่สนใจไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในสถานที่จริง โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ มาบรรยายและถ่ายทอดความรู้ เพื่อนำไปในการอธิบายให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบและเข้าใจอย่างถูกต้อง

ทั้งนี้ เป็นสิ่งที่ดีที่จะส่งเสริมให้คนไทยเข้าพิพิธภัณฑ์และอุทยานประวัติศาสตร์เพิ่มมากขึ้น และจากกระแสที่คนรุ่นใหม่และคนไทยสนใจเรียนรู้ประวัติศาสตร์ จะเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นให้คนหันมาท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมมากยิ่งขึ้น จากนี้ วธ. จะร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเมืองรองและการเชื่อมโยงแหล่งทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และส่งเสริมการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์

สยามคูโบต้า จัดกิจกรรม “คูโบต้า เซอร์วิส เดย์” ประจำปี 2561 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มฤดูกาลเพาะปลูกให้แก่เกษตรกร ส่งทีมช่างผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ให้บริการตรวจเช็กสภาพทั่วไปเครื่องจักรกลการเกษตร ฟรี ทุกยี่ห้อ กว่า 2,000 จุดบริการทั่วประเทศ เพื่อตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรในภูมิภาคอาเซียนที่มีความพร้อมในการให้บริการหลังการขายและอะไหล่แท้ที่ครบครัน พร้อมรับส่วนลดค่าอะไหล่และน้ำมันสูงสุด 15% ตั้งแต่ วันที่ 11-17 มีนาคมนี้ ณ จุดบริการใกล้บ้านท่าน

นายสมศักดิ์ มาอุทธรณ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า กว่า 40 ปี ที่บริษัทมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการส่งเสริมให้ภาคการเกษตรของไทยเติบโตอย่างเข้มแข็ง ด้วยการคิดค้นและวิจัยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพให้แก่เกษตรกร พร้อมทั้งให้ความรู้ในการเลือกใช้เครื่องจักรกลการเกษตรและการดูแลรักษา เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานเครื่องจักรกลการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของเรามาโดยตลอด บริษัทจึงได้จัดกิจกรรมคูโบต้า เซอร์วิส เดย์ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 โดยจะจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมเครื่องจักรกลการเกษตรให้แก่เกษตรกร ก่อนถึงฤดูกาลเพาะปลูก

สำหรับกิจกรรม คูโบต้า เซอร์วิส เดย์ ประจำปี 2561 บริษัทได้ร่วมกับร้านค้าผู้แทนจำหน่ายจัดตั้งจุดให้บริการกว่า 2,000 จุด ทั่วประเทศ เพื่อตรวจเช็กสภาพทั่วไปเครื่องจักรกลการเกษตร ฟรี ทุกยี่ห้อ อาทิ แทรกเตอร์ รถเกี่ยวนวดข้าว รถดำนา เครื่องยนต์ และรถไถเดินตาม เป็นต้น โดยมีช่างผู้เชี่ยวชาญของสยามคูโบต้าคอยให้บริการและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด พร้อมรับส่วนลดค่าอะไหล่และน้ำมันสูงสุด 15% ระหว่าง วันที่ 11-17 มีนาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 08.00–17.00 น. และจัดขึ้นอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม 2561 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านค้าผู้แทนจำหน่ายสยามคูโบต้าใกล้บ้านท่าน หรือ สายด่วนบริการสยามคูโบต้า โทร.1747

Tholakhong สื่อข่าวสารและสังคมออนไลน์ในประเทศลาว รายงานข่าวสลดใจในแวดวงอนุรักษ์สัตว์หายาก โดยเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา มีประชาชนเมืองโขง แขวงจำปาสัก ตั้งอยู่ในริมแม่น้ำโขง บริเวณมหานทีสี่พันดอน ตอนใต้ประเทศลาว ติดกับตอนเหนือประเทศกัมพูชา โพสต์ภาพโลมาอิรวดี หรือโลมาหัวบาตรครีบหลัง หรือโลมาน้ำจืด หรือที่ชาวลาวเรียกว่า “ปาข่า” หรือ “ปลาข่า” สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ตายอยู่ที่บริเวณบ้านคอน ดอนเดด สี่พันดอน

จากการสอบถามเบื้องต้นคาดว่า สาเหตุการตายอาจเกิดจากโลมาว่ายไปติดมองของชาวบ้าน เป็นอุปกรณ์หาปลาชนิดหนึ่ง และเป็นที่น่าเสียดาย เนื่องจากโลมาอิรวดี หรือปาข่า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่บริเวณแม่น้ำโขงตอนใต้ ใกล้จะสูญพันธุ์ไปจากแม่น้ำโขงเต็มที่แล้ว

จากรายงานล่าสุดเมื่อปลายปี พ.ศ. 2560 สถานภาพของโลมาอิรวดี หรือโลมาน้ำจืดบริเวณแม่น้ำโขงชายแดนลาว-กัมพูชา เหลือเพียงแค่ 3 ตัวเท่านั้น นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ด้วยจำนวนเท่านี้นับว่ายากมากที่จะสืบพันธุ์แพร่ขยายพันธุ์ได้ต่อไป มีแต่รอวันใกล้สูญพันธุ์ไปจากแม่น้ำโขง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 มีนาคม 2561) ที่ชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง ตัวแทนเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ รวมประมาณ 10 คน นำโดยนายประทบ สุขสนาน รองประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย นายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน ที่ปรึกษาประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย นายไพรัช เจ้มชุม ประธานเครือข่ายฯ จ.พัทลุง นายสมปอง นวลสมศรี ประธานชุมนุมสหกรณ์การยาง กระบี่ และแกนนำเครือข่ายฯ จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี สงขลา และนครศรีธรรมราช ประมาณ 15 คน ร่วมแถลงข่าวเคลื่อนไหวคัดค้านมติบอร์ด กยท. และผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ที่จะให้เอกชนเข้ามาจัดเก็บเงินค่าธรรมเนียมการส่งออกยางพารานอกราชอาณาจักร (Cess) ในวันที่ 14 มีนาคมนี้ ที่การยางแห่งประเทศไทยจังหวัดตรัง

โดยมีสมาชิกเครือข่ายสถาบันเกษตรกรขาวสวนยางจังหวัดตราด นำโดย นายสงวน สัพโส ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางพาราภาคกลางและตะวันออก ที่เดินทางมาศึกษาดูงานพื้นที่ จ.ตรัง ประมาณ 90 คน ร่วมรับฟังการแถลงข่าวด้วย

นายสงวน สัพโส ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางพาราภาคกลางและภาคตะวันออก กล่าวว่า วันนี้สมาชิกเครือข่ายสถาบันเกษตรขาวสาวยางพาราภาคกลางและตะวันออก เดินทางมาศึกษาดูงานการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา โดยเฉพาะการทำรองเท้าบู๊ท เพื่อจะได้นำไปพัฒนาเรื่องยางในภาคกลางและตะวันออก เนื่องจากเน้นเรื่องขายอย่างเดียว ทำให้มีปัญหาเนื่องด้วยปัจจัยราคายางที่ตกต่ำ จึงต้องมุ่งสู่ผลิตภัณฑ์ของการแปรรูป ที่ผ่านมาทางภาคกลางได้ผลิตหมอนยางพารา ถุงมือผ้าเคลือบยางพารา ต่อไปจะทำยางรัดของ และหัวจุกนมสำหรับเด็กแรกเกิด

“วันนี้เป็นโอกาสที่ทางเกษตรกรชาวสวนยางพาราภาคใต้ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านเงินเซส ตนเองในฐานะประธานเครือข่ายฯ ซึ่งมีมติในระดับประเทศว่า ไม่เห็นด้วยกับการที่ให้เอกชนมาเก็บเงินเซส มีการทำหนังสือไปแล้ว แต่ทางภาคตะวันออกจะเน้นไปในเรื่องของการแปรรูป เครือข่ายฯ ภาคตะวันออกพร้อมที่จะสนับสนุน เรื่องอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรชาวสวนยางสนับสนุนเต็มที่ เราค้านแล้ว หนังสือที่ยื่นไปไม่เคยได้รับการตอบรับมา”

นายประทบ สุขสนาน รองประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย และ นายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน ที่ปรึกษาประธานเครือข่ายสถาบันฯ แถลงข่าวยืนยันว่า ในวันที่ 14 มีนาคมนี้ จะเดินหน้าเปิดเวทีการประชุมร่วมกันของเครือข่ายสถาบันเกษตรกรในภาคใต้อย่างแน่นอน เพื่อกดดันให้ กยท. ยกเลิกประกาศประกวดราคาจัดหาเอกชนรับจ้างบริหารการจัดเก็บเงินเซส ที่กำหนดจะให้มีเอกชนยื่นซองเอกสารข้อเสนอ ในระหว่าง วันที่ 2-4 เมษายน 2561 นี้ และให้ยกเลิก TOR (ขอบเขตของงาน โครงการบริหารการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการส่งออกยางพารานอกราชอาณาจักร (CESS)

“พร้อมยืนยัน ขณะนี้ทางเครือข่ายสถาบันฯ ไม่เคยมีแนวคิดที่จะขับไล่ พล.อ. ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ประธานคณะกรรมการ กยท. (ประธานบอร์ด) และ นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด แม้ทางเครือข่ายจะดำเนินการทุกวิถีทางในการแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ แต่ราคายางพารายังถูกเหมือนเดิมก็ตาม แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องรอมติในที่ประชุมอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 มีนาคมนี้ และทางเครือข่ายจะรอผลสรุปการประชุมระหว่าง นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการ กยท. ที่เรียกผู้อำนวยการเขตการยางแห่งประเทศไทย และผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทยจากทุกจังหวัดประชุมร่วมกันในวันนี้ด้วย” นายประทบ กล่าว

ด้าน นายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน ที่ปรึกษาประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การคัดค้านเรื่องดังกล่าว เหตุผลเพราะเกษตรกรสูญเสียเงินที่จะนํากลับมาใช้ตามพระราชบัญญัติการยาง ด้วยการนำเงินที่จัดเก็บได้มาจัดสรร ตาม พ.ร.บ. การยาง 2558 ที่จ่ายเงินจัดเก็บได้ตาม พ.ร.บ. ไม่เกินร้อยละ 10 ใช้ในด้านบริหาร ไม่เกินร้อยละ 40 ใช้ในการปลูกแทน ไม่เกินร้อยละ 35 ใช้เป็นเงินอุดหนุนให้กับเกษตรกร สถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบกิจการยาง ไม่เกินร้อยละ 5 ใช้ด้านวิจัย ไม่เกินร้อยละ 7 ใช้ด้านสวัสดิการแก่เกษตรกร ไม่เกินร้อยละ 3 ใช้พัฒนาสถาบัน เครือข่าย

แต่เมื่อคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทยมีเสียงส่วนใหญ่ ทําให้เกษตรกรชาวสวนยางเสียผลประโยชน์ปีละ 1 ล้าน เกษตรกรชาวสวนยางเสียผลประโยชน์มหาศาล และผลประโยชน์จะได้รับผู้รับจ้างมากเกินไป กลัวจะเป็นทุจริต เชิงนโยบายเลยมีหนังสือคัดค้านไปแล้ว 2 ครั้ง และทางกระทรวงก็มีหนังสือให้ทบทวนด้วยแล้ว แต่คณะกรรมการบริหารการยางแห่งประเทศไทยยังดึงดันที่จะดำเนินการต่อ ทั้งที่มีกระแสคัดค้าน มติก็ไม่เป็นเอกฉันท์ ทางเกษตรกรและตัวแทนชาวสวนยางประชุมร่วมกัน ในวันที่ 14 มีนาคม 2561 ณ ห้องใต้ร่มยางการยางแห่งประเทศไทยจังหวัดตรัง

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำโขง ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแห้งลงอย่างารวดเร็ว จนปรากฏให้เห็นหาดทรายและโขดหินไปทั่วบริเวณ ตั้งแต่ชายแดนทิศเหนือในประเทศจีน จนถึงประเทศเมียนมา-สปป.ลาว ระดับน้ำหลายจุดลึกไม่ถึง 2 เมตร โดยเฉพาะบริเวณมองป่าแหลวตั้งอยู่ชายแดนเมียนมา-สปป.ลาว ห่างจาก อ.เชียงแสน ไปทางทิศเหนือประมาณ 53 กิโลเมตร เพราะเป็นหาดทรายตื้นเขินที่กว้างขวาง ทำให้เรือสินค้าลุ่มน้ำโขงที่แล่นไปตามเมืองท่าต่างๆ ไปยังท่าเรือ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เกยตื้นและติดหาดทรายกันหลายครั้ง ส่วนพื้นที่อื่นๆ ก็มีสภาพปัญหาใกล้เคียงกันไปตลอดลำน้ำ