วิธีการห่อผล หลังจากปลูกได้ 7 เดือน ฝรั่งจะเริ่มไว้ลูกได้

โดยจะเริ่มห่อผลฝรั่งเมื่อมีขนาดเท่าเหรียญ 5-10 หรือหลังดอกบานแล้ว 1 เดือน ถ้าช้ากว่านี้จะไม่ทันแมลงวันทอง โดยผลผลิตรุ่นแรกที่สวนจะไว้ผลผลิตต้นละไม่เกิน 20 ลูก การห่อผลในช่วงที่เริ่มต้นปลูกยังไม่มีประสบการณ์จะใช้วิธีการห่อ 2 ชั้น คือห่อด้วยถุงพลาสติกก่อน แล้วห่อทับด้วยกระดาษอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นวิธีที่ค่อนข้างใช้เวลานานกว่าจะห่อได้แต่ละลูก ใช้เวลาไปหลายนาที หลังจากนั้นมาจึงได้ทดลองห่อผลด้วยถุงพลาสติกกัน ยูวี เพียงชั้นเดียว แล้วผลลัพธ์ที่ได้ออกมาดี ช่วยประหยัดเวลาและคุณภาพของผลก็ไม่แตกต่างกันมากนัก จึงเลือกที่จะใช้วิธีการห่อผลด้วยถุงพลาสติกกัน ยูวี เพียงชั้นเดียว

วิธีการป้องกัน และกำจัดโรคแมลง

โรคที่สำคัญของฝรั่ง คือ

โรครากปมของฝรั่ง รักษาไม่หาย วิธีแก้ไข จำเป็นต้องตัดทิ้งแล้วปลูกทดแทนต้นเดิม
โรคราสนิม ใช้วิธีธรรมชาติป้องกัน
สูตรที่ 1 ใช้กำมะถัน 2 ช้อน ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ

สูตรที่ 2 ใช้น้ำปูนขาว 1 แก้ว ต่อน้ำ 20 ลิตร ใช้ฉีดพ่นทางใบ และ

เพลี้ยแป้ง วิธีป้องกันเบื้องต้นคือ ฉีดพ่นด้วยน้ำส้มควันไม้ แต่ถ้าหากเอาไม่อยู่ จำเป็นต้องใช้สารเคมี และจะหยุดพ่นสารเคมีอย่างน้อย 7 วัน ก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อให้ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
เทคนิคการตอนกิ่ง แนะให้ทำก่อนทำสาว… โดยใช้วิธีการตอนกิ่ง อาศัยการสังเกตบริเวณกิ่งแขนงของต้นฝรั่งกิมจูที่มีลักษณะ คือกิ่งที่ชี้ขึ้นฟ้าหรือกิ่งกระโดง เมื่อเลือกกิ่งที่มีความเหมาะสมได้แล้ว ให้เริ่มใช้มีดกรีดควั่นกิ่ง แล้วทำตุ้มตอนโดยใช้กากมะพร้าวที่แช่น้ำทิ้งไว้ 7 วัน ผสมน้ำยาเร่งราก และเครื่องดื่มชูกำลัง เอ็ม-150 เสร็จแล้วนำตุ้มตอนไปหุ้มให้รอบรอยควั่น แล้วมัดด้วยเชือกให้แน่น หลังจากตอนแล้ว ประมาณ 1 เดือน รากจะเริ่มงอก และอย่าเพิ่งรีบตัดถ้ารากยังขาวอยู่ ถือว่ารากยังอ่อน โอกาสรอดจะน้อย ควรปล่อยให้รากเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลก่อน

การตลาด ผลิตได้เท่าไร ก็ไม่พอขาย… อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า การตลาดที่สวนจะมีปัญหาแค่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น สาเหตุก็เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยทั้งความเป็นมือใหม่ ประกอบกับที่ต้องทำงานประจำ จึงไม่ค่อยมีเวลาทำตลาด แต่หลังจากเริ่มปรับตัวได้ เริ่มมีการจัดสรรเวลาแบ่งเวลาที่ดีขึ้น การตลาดก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ คนในครอบครัวช่วยกันกระจายสินค้า คือ

ตนจะใช้เวลาว่างนำฝรั่งไปขายที่ตลาดสด และโพสต์ขายผ่านช่องทางออนไลน์
เป็นวิธีการบอกกันปากต่อปาก จนได้พ่อค้าประจำมารับซื้อถึงสวน
คุณแม่มีแผงขายผลไม้ในโรงเรียน ท่านก็นำผลผลิตจากที่สวนไปขายด้วย และ
ภรรยาเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัย ค่อนข้างรู้จักคนมากหน้าหลายตา ก็สามารถกระจายสินค้าได้หลายช่องทาง ส่วนราคาขายหน้าสวน กิโลกรัมละ 25 บาท ขายปลีก กิโลกรัมละ 35-50 บาท ถือเป็นผลไม้ที่ขายได้ราคาดีมาก ผลผลิตที่ออกมาก็สามารถจัดการได้หมด จากตอนแรกที่เน่าต้องเอาทิ้งให้ปลากินหมด สามารถพลิกวิกฤตกลับมาได้

ฝากถึงมนุษย์เงินเดือนอยากทำเกษตร
“ถึงจะเป็นอาชีพเสริม ก็อยากจะแนะนำสำหรับเกษตรกรมือใหม่ว่า ไม่อยากให้ทำแบบเล่นๆ การหาความรู้ก่อนลงมือปฏิบัติสำคัญที่สุด ไม่อยากให้ทำเป็นแฟชั่น เพราะทุกอย่างมีต้นทุน อยากให้ทำแบบตั้งใจ งานเกษตรทุกคนสามารถทำได้ แต่ทำแล้วจะออกมายังไงก็อยู่ที่การเรียนรู้ด้วย สำคัญที่สุดคือ ต้องหาความรู้ก่อนลงมือทำ อย่าให้เหมือนผมที่ต้องมานั่งนับหนึ่งใหม่หมดเลย และอีกเรื่องคือการบริหารจัดการเวลาอย่างไร ในขณะที่ต้องทำงานประจำควบคู่ไปด้วย” คุณธีระธรรม กล่าวทิ้งท้าย

หากใครสนใจแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องการปลูกฝรั่งกิมจู หรือสนใจสั่งซื้อสินค้าของ คุณธีระธรรม แก้วเพ็ญศรี ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทร. 093-452-6556 หรือติดต่อทางเฟซบุ๊กและไลน์ FB : ธีระธรรม แก้วเพ็ญศรี LINE : 0934526556

จาก เป็นพืชจำพวกปาล์ม และเป็นปาล์มเพียงชนิดเดียวที่เป็นพืชในป่าชายเลน นับเป็นพืชเก่าแก่มากชนิดหนึ่ง จากพบได้ทั่วไปในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในบริเวณน้ำจืดและน้ำกร่อยที่มีน้ำเค็มขึ้นถึง มักจะขึ้นเป็นดงขนาดใหญ่ เรียกว่า ป่าจากหรือดงจาก จากสามารถเติบโตได้ดีในดินโคลน ตามป่าชายเลน หรือบริเวณริมคลองที่มีไม้ให้ร่มเงาปะปนอยู่ด้วย มักอยู่ในช่วงที่มีน้ำจืดและน้ำกร่อยปนกัน แต่บนบกที่น้ำท่วมถึงก็พบจากได้บ้างเช่นกัน หากดินไม่แห้งแล้งนานจนเกินไป

ในประเทศไทยพบปลูกมากในพื้นที่ตำบลขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ชาวบ้านยึดอาชีพปลูกจากเป็นหลักมากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ เนื่องด้วยลักษณะพื้นที่มีความเหมาะสมในการปลูก ปลูกดูแลง่าย ไม่ต้องดูแลรดน้ำใส่ปุ๋ยมากมาย รวมถึงการนำมาใช้ประโยชน์ได้รอบด้าน อาทิ ใช้ใบห่อขาม ใช้ใบทำหลังคา การใช้ใบจากมวนบุหรี่ การทำน้ำส้มจาก การทำน้ำตาลจาก การผลิตแอลกอฮอล์และทำสุรา รวมถึงผลจากและน้ำจากที่นิยมนำมากิน เนื่องจากลูกจากมีเนื้อนุ่ม หอมหวาน ส่วนน้ำจากให้รสหอมหวานเช่นกัน

คุณณรงค์ อินทานนท์ หรือ พี่หมี ผู้สืบทอดมรดกไร่จาก 100 ปี ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 ตำบลขนาบนาก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นไร่จากที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นเป็นอายุกว่า 100 ปี และเป็นอาชีพที่อยู่คู่กับคนขนาบนากมาช้านาน การทำไร่จากถือเป็นอาชีพที่สร้างรายได้แบบเงียบๆ มาตลอด จนขนาดที่ว่าสามารถส่งลูกเรียนได้ 7 คน ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

พี่หมีเล่าถึงประวัติความเป็นมาของไร่จาก 100 ปี ของครอบครัวตนเองให้ฟังว่า ไร่จาก 100 ปีแห่งนี้ ถือเป็นมรดกตกทอดกันมารุ่นสู่รุ่นมานาน โดยอ้างอิงข้อมูลจากเอกสารครอบครองที่ดิน ได้ระบุไว้ชัดเจนว่าสภาพที่ดินเป็นไร่จากตั้งแต่ปี พ.ศ. 2458 ตกทอดมาถึงรุ่นพ่อแม่ของตนเอง และเดิมพ่อกับแม่ประกอบอาชีพทำนา ควบคู่กับการทำตาลจาก อาศัยตาลจากเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัว ส่งลูกเรียน และตนเองก็จะมาช่วยพ่อกับแม่ตอนวันหยุดหรือปิดเทอม เริ่มจากการหิ้วกระบอกไม้ไผ่ตามหลังพ่อ ทำให้ได้ซึมซับวิธีการทำมาตลอด และด้วยความที่อยู่ในช่วงวัยเด็กเมื่อถึงหน้าฝนในไร่จากจะมีน้ำ ปลากัดจะมาอาศัยอยู่ ตนเองก็จับปลากัดไปขายหาเงินค่าขนมอีกช่องทาง จนถึงปัจจุบันเรียนจบมีงานประจำทำ ก็ยังไม่ทิ้งไร่จาก ก็ใช้เวลาว่างหรือวันหยุดที่มีไปอยู่ในไร่จากทั้งหมด โดยมีพี่ชายและพี่สาวดูแลเป็นหลัก ตนเองคอยให้บริการในส่วนอื่นๆ และหากพอมีเวลาว่างก็จะเข้าไปตกแต่งใส่ปุ๋ยบ้าง

ปลูกจาก 14 ไร่ สร้างรายได้ไม่ขาดมือ
พี่หมี บอกว่า ปัจจุบันที่ไร่ปลูกจากบนพื้นที่ทั้งหมด 14 ไร่ และนับได้ว่าเป็นพืชเศรษฐกิจทำเงินของคนลุ่มน้ำปากพนัง มีการสืบทอดอาชีพกันรุ่นสู่รุ่น จากเมื่อก่อนทำเป็นน้ำตาลแบบใสๆ ต่อมาได้มีการพัฒนามาเรื่อยๆ จนเป็นน้ำตาลปึกหรือน้ำตาลปี๊บ ที่เห็นขายในท้องตลาดทั่วไป

เทคนิคการปลูกจาก
โดยทั่วไปแล้วจากเป็นพืชที่มีวิธีการปลูกและการดูแลไม่ยุ่งยาก พื้นที่ตรงไหนไม่มีหญ้า และเป็นพื้นที่น้ำท่วมถึงสามารถปลูกได้หมด แต่ถ้าจะเหมาะปลูกที่สุดคือในพื้นที่น้ำกร่อย

สภาพพื้นที่ปลูก ของที่ไร่จะตีคันล้อมรอบด้านข้างทั้งหมดเพื่อไม่ให้น้ำเค็มเข้าถึง และพื้นที่ตรงกลางเป็นที่ลุ่ม โดยพื้นที่ไร่จะมีน้ำบ้างเล็กน้อย รับน้ำฝนเป็นหลัก เนื่องจากเมื่อก่อนมีช่วงน้ำขึ้นน้ำลง แต่ปัจจุบันมีการทำระบบชลประทานใหม่ มีแต่น้ำเค็มท่วมถึงจึงต้องตีคันล้อมรอบ แล้วต่อท่อระบายน้ำออก ในยามที่ฝนตกลงมาเยอะ แล้วจึงค่อยขังน้ำให้เหลือไว้แค่ระดับหนึ่ง

การปลูก ในสมัยก่อนใช้แรงงานคนปลูกเป็นหลัก ด้วยการถางหญ้ากำจัดวัชพืชต้นเล็กๆ ออกให้หมด แล้วใช้หน่อจากที่มีความยาวไม่เกิน 1 ฟุต ปลูกลงดินได้เลย แต่ในช่วงหลังๆ มาจะมีการปรับพื้นที่ป่าจากปล่อยเลี้ยงกุ้งเป็นหลัก พอเลี้ยงกุ้งแล้วบ่อรกร้างก็จะมีการปรับพื้นที่มาปลูกไร่จากใหม่ ด้วยการขุดหลุมปลูกลึก 50 เซนติเมตร ปลูกในระยะห่าง 10×10 เมตร เพื่อมีพื้นที่ไว้สำหรับตอนต้นแตกกอ

น้ำ-ปุ๋ย อาศัยน้ำฝนจากธรรมชาติเป็นหลัก ไม่ต้องมีระบบน้ำเหมือนพืชชนิดอื่นๆ ถือเป็นข้อดีอีกข้อของจาก “เมื่อก่อนคือปลูกแบบธรรมชาติ ไม่ต้องดูแล รดน้ำใส่ปุ๋ย แค่ถางหญ้าแล้วก็ตัดแต่งกิ่งก้านไปเรื่อยๆ ในแต่ละปี แต่ช่วงหลังๆ มาด้วยความที่ไร่จากของพี่มีอายุเยอะก็ต้องมีการบำรุงปุ๋ยบ้างปีละครั้ง แต่เป็นปุ๋ยหมักจากผลไม้ จากสับปะรดบ้าง จากผลไม้อย่างอื่นบ้าง แล้วแต่ความสะดวก เพื่อช่วยในการปรับปรุงดิน ทำให้ดินร่วนซุย”

ปลูกนานกี่ปีให้ผลผลิต ปกติแล้วจากที่ปลูกใหม่ใช้ระยะเวลาปลูก 7 ปี ถึงให้ผลผลิต หลังจากนั้นต้นจากจะแทงก้านดอกออกมา เรียกว่า นกจาก ออกมาสลับหมุนเวียนตลอดทั้งปี หรือพูดให้เข้าใจง่ายคือจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปี แต่ส่วนมากแล้วเมื่อปาดน้ำหวานจากต้นจนหมดแล้วจะพักต้นไว้ประมาณ 3-4 เดือน ให้ต้นฟื้นตัว แล้วจึงค่อยกลับมาเก็บใหม่ เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ

การดูแลทั่วไป ต้นจากต้องมีการตกแต่ง อย่างที่กล่าวไปเบื้องต้นว่าต้นจากจะเกิดติดกันเป็นกลุ่มเป็นกอ เจ้าของสวนก็ต้องตกแต่งให้มีระยะห่างระหว่างกออย่างเหมาะสม เพื่อให้พืชได้รับแสงแดดได้เต็มที่ มีผลต่อการเจริญเติบโต นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมต้องปลูกในระยะความห่างระหว่างต้นกว้าง 10×10 เมตร

ปริมาณผลผลิตต่อไร่ เก็บน้ำหวานของต้นจากได้ประมาณ 40 ลิตรต่อไร่ต่อวัน คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อปีต่อไร่ประมาณ 50,000 บาท โดยพื้นที่ 14 ไร่ แบ่งทำสลับหมุนเวียนกัน เพื่อให้ผลผลิตออกตลอดทั้งปี แบ่งทำครั้งละ 4 ไร่ จนเต็มพื้นที่เพื่อมีเวลาให้พืชได้ฟื้นตัว

รูปแบบผลิตภัณฑ์สร้างรายได้
โดยน้ำตาลจากจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 อย่าง ดังนี้

มีกระบวนการแรกคือการไปเก็บน้ำหวานจากงวงจากในช่วงเช้า แล้วนำมาต้ม 1 ชั่วโมงแรกจะได้เป็นน้ำหวานจาก ใช้ดื่มกินได้เหมือนน้ำอ้อยหรือน้ำมะพร้าวได้เลย หรือสามารถรองน้ำหวานจากต้นจากดื่มกินได้เลย แต่หากนำมาต้มจะทำให้มีรสชาติที่หอมอร่อยกว่า
หากใช้เวลาต้มนาน 2-3 ชั่วโมง จะเรียกว่าน้ำผึ้งจาก รสหอมหวาน นำไปใช้ทำขนมจาก ขนมลา หรือขนมหวานอื่นๆ ได้ทุกชนิด ขายในราคาขวดละ 100-120 บาท ปริมาณ 700 ซีซี
ขั้นตอนสุดท้ายน้ำตาลปึก ใช้เวลาต้มเคี่ยวไม่เกิน 4 ชั่วโมง เคี่ยวจนเดือดและน้ำงวดลง ยกลงจากเตา นำมาระบายความร้อนออกให้น้ำตาลแห้งและแข็งตัวเร็วขึ้นเป็นน้ำตาลปึก นำไปใช้ทำขนม หรือนำไปผลิตแอลกอฮอล์และทำสุรา และน้ำตาลจากตรงนี้สามารถเอาไปทำเป็นน้ำตาลเกล็ดได้ แต่ส่วนมากเกษตรกรทั่วไปจะจบที่ขั้นตอนการทำตาลปึก เนื่องจากการทำน้ำตาลเกล็ดมีกระบวนการทำเพิ่มขึ้นมา แต่จะขายได้ในราคาที่ดีกว่าน้ำตาลปึก ขายได้ราคากิโลกรัมละ 300 บาท

ในอัตราน้ำหวานจากต้นจาก 140 ลิตร ผ่านการเคี่ยว 2-3 ชั่วโมง ก่อนจะได้น้ำหวานประมาณ 6 ปี๊บ และกลายเป็นน้ำตาลปี๊บเพียง 1 ปี๊บ นำไปขายได้ในราคาปี๊บละ 800-1,500 บาท ตามกลไกราคาตลาดในช่วงนั้น

ซึ่งนอกจากการแปรรูปทำน้ำตาลแล้วในส่วนอื่นๆ ของจาก ไม่ว่าจะเป็น ใบ ต้น ลูกจาก ก็ยังสามารถขายสร้างมูลค่าได้อีก เช่น ใบ นำมาเย็บทำหลังคา, ลูกจาก นำมาทำขนมหวานลูกจากลอยแก้ว, ต้น ทางใบ หรือพอนจากที่เป็นส่วนของโคนกาบ เปลือกจากที่แห้งแล้ว สามารถนำมาผลิตทำเชื้อเพลิงได้ทั้งหมด, ก้านจาก นำมาทำภาชนะจักสาน และด้วยข้อดีเหล่านี้เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เรายังคงสืบสานมรดกการทำสวนจาก จากพ่อแม่มาถึงทุกวันนี้

ผลผลิตขายที่ไหน โดยปกติผลผลิตของที่ไร่จะมีพ่อค้าประจำมารับซื้อถึงบ้าน มาจากนราธิวาสบ้าง จากพัทลุงบ้าง มีการซื้อขายกันมานานตั้งแต่สมัยที่รุ่นพ่อแม่ หรือในบางครั้งจะมีแม่ค้าแถวบ้านเป็นคนรวบรวมผลผลิตแล้วนำไปส่งให้พ่อค้ารับซื้ออีกที เรื่องของการตลาดถือเป็นเรื่องที่ไม่หนักใจการตลาดไปได้เรื่อยๆ

สืบทอดมรดกไร่จากของพ่อแม่
คือความภูมิใจและสร้างความสุข
“ผมมีความภูมิใจกับการเข้ามาสานต่อมรดกที่พ่อแม่ทำไว้ให้เป็นอย่างมาก ทุกวันนี้เวลาที่เหลือของผมหลังว่างจากงานประจำคือยกให้ไร่จากทั้งหมด ว่างๆ ก็จะเข้ามาถ่ายรูปในไร่จาก แล้วลงรูปให้คนรุ่นหลังๆ คนต่างถิ่นให้ได้เห็นวิถีชีวิตของคนทำจาก ที่ถือเป็นพืชโบราณ ถือเป็นพืชที่อยู่คู่กับคนลุ่มน้ำปากพนังมานาน รวมถึงการทำให้รู้สึกมีอิสระทุกครั้งที่ได้ทำ และมีอาชีพแฝงในไร่อยู่เยอะแยะ เช่น การหาปลากัดสวยงาม ที่สามารถจับขายได้ปีละ 10,000-20,000 บาท แล้วก็มีปู มีปลา ให้จับนำมาประกอบอาหาร หรือถ้าหากมีเวลาว่างก็ไปตัดใบจากมาเย็บขาย ตับหนึ่งยาวประมาณ 1.20 เมตร ขายได้ตับละ 4 บาท ถือเป็นอาชีพที่มั่นคงอีกอาชีพหนึ่ง เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ดีแบบเงียบๆ เพราะดูจากพ่อกับแม่ที่ทำมาตั้งแต่พี่ยังเด็กแล้วสามารถส่งลูกเรียนหนังสือได้ครบ 7 คน จากการทำไร่จาก” พี่หมี กล่าวทิ้งท้าย

ผมคาใจทุกครั้งกับการแอบตั้งชื่อสวนให้น้องโจ – ณฐภัทร แสงโรจน์ศิริกุล เพราะเป็นการนำเรื่องราวจากชีวิตจริงมาตั้งชื่อสวนแบบบอกให้คนอื่นรู้โดยไม่ต้องถามกันเลยเชียว ผู้คนทั่วไปจะรู้จักชื่อประเทศ ฝรั่งเศส เมื่อมาเจอสวนน้องโจ ผมเลยเสนอชื่อไปว่า “สวนฝรั่งโสด” ก็เกิดคำถามตามมาอีกว่า คนจะเข้าใจผิดไหมว่าเจ้าของสวนเป็นชาวฝรั่ง ก็ตอบน้องไปว่า “นั่นแหละดี เราจะได้มีเรื่องให้เขาถามและเราคอยอธิบาย”

จากอดีตเด็กหนุ่มผู้มีแรงใจและใฝ่ฝัน จะเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเองในยามที่สำเร็จการศึกษาใหม่ๆ จึงรวบรวมทุนและกำลังใจ จดทะเบียนเปิดบริษัทประกอบธุรกิจ เกี่ยวกับเครื่องจักรกลและโลหะที่กรุงเทพมหานครเมืองฟ้าอมรของใครๆ ในแต่ละวันก็ดำเนินธุรกิจไปได้อย่างราบรื่นพอสมควร รายรับ-รายจ่าย ยังพอเรียกว่า “พอมีกำไร”

แต่ลึกๆ ของหัวใจที่มิได้ถวิลหาแต่น้องนางที่จะมาเป็นคู่ร่วมชีวิตเท่านั้น ในทุกโมงยามยังแบ่งใจให้กับเรื่องราวทางด้านการเกษตรอีกด้วย เริ่มศึกษาเรื่องพันธุ์ไม้ สัตว์เศรษฐกิจต่าง ๆ รวมถึงการไปเดินตามงานเกษตรที่มีจัดอยู่ทั่วไป และประกอบกับทางบ้านพอมีที่ดินที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ ที่อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี อยู่พอสมควร จึงเริ่มลองฝึกวิชาการเกษตรทันที โดยเริ่มจากมัลเบอร์รี่ (หม่อน) หลากหลายสายพันธุ์ เรียกว่าใครมีสายพันธุ์ไหน โจก็ขอมีมาปลูกด้วยทันที จากมัลเบอร์รี่ก็ขยับไปเล่นฟิกส์ (มะเดื่อฝรั่ง) ก็เช่นกัน มีครบสายพันธุ์ที่คนอื่นๆ มี

“ช่วงนั้นเรียกว่าเป็นยุคแสวงหาได้ไหมครับ” “คงเป็นแบบที่พี่ว่านั่นแหละครับ ด้วยความที่ผมเป็นเกษตรมือใหม่ เห็นใครว่าพันธุ์ไหนดีก็ต้องหามาปลูกให้ได้”

“ตอนนั้นแต่ละสายพันธุ์ ราคาไม่เบาเลยนะครับ”

“ใช่เลยพี่ หมดไปเยอะพอสมควร แต่ก็ทำให้ผมได้เรียนรู้เรื่องการดูแลพืชผลไม้มากขึ้นนะครับ เรียนรู้วิธีเตรียมดินปลูก ระยะห่าง การให้น้ำ ให้ปุ๋ย แดดต้องแบบไหน เรียกว่าเรียนรู้ด้วยตัวเองนี่แหละ” “ตอนนี้พืชที่ว่าเป็นยังไงครับ”

“ก็ยังปลูกไว้ครับ ขยายกิ่งพันธุ์ออกมาขายบ้าง เก็บไว้กินผลบ้าง แต่หลักๆ ผมไปลงฝรั่งครับ” “อ้าว หักหัวเรือไปอีกทางเลยนะนั่น”

“ครับ เพราะน้าอ้วนนั่นแหละ ทำให้ชีวิตผมต้องเปลี่ยนอีกครั้ง”

ด้วยความที่ชอบสะสมสายพันธุ์พืช ทำให้วันหนึ่งโจขับรถไปหาน้าอ้วน บ้านเกษตรพอเพียง (มีเรื่องราว 2 ตอนในเทคโนโลยีชาวบ้านเล่มที่ผ่านไป) ตั้งใจจะไปพูดคุยและเผื่อว่าจะมีไม้อื่นๆ น่าสนใจ วันนั้นน้าอ้วนยื่นฝรั่งให้ 1 ชิ้น “รับฝรั่งมาแล้วโจทำยังไงครับ”

“ผมดมก่อนเลยพี่ กลิ่นหอมกำลังดี มองดูเมล็ดน้อย เนื้อฟูๆ ลองกัดคำแรกเท่านั้นแหละ ผมตัดสินใจตอนนั้นเลย”

“เป็นยังไง ไหนเล่าให้ฟังที ฝรั่งคำเดียวเปลี่ยนแนวทางชีวิตเลยหรือ”

“กรอบแบบไม่แข็งครับพี่ เนื้อจะฟูๆ หวาน กลิ่นหอมติดจมูก เมล็ดก็น้อยมาก ผมแทบไม่อยากกลืนเลยพี่ ถูกใจผมมาก ผมชอบกินฝรั่ง อยากได้ฝรั่งรสชาติแบบนี้มานานแล้ว”

“ขนาดนั้นเลย แล้วทำไงล่ะ ต้องปลูกอีกไหม”

“ผมจองกับน้าอ้วนในวันนั้นเลยครับ ขอเวลาผมไปเตรียมพื้นที่ก่อน สรุปผมเอาแน่ เจอของดีที่โดนใจแล้ว”

“รู้หรือยัง พันธุ์อะไร”

“สุ่ยมี่ครับพี่ สุ่ยมี่เป็นฝรั่งสายพันธุ์จากไต้หวันที่แปลว่าน้ำผึ้งน่ะแหละ”

“ตอนนั้นกิ่งแพงป่ะ”

“กิ่งละ 500 ครับพี่”

“อุ้ย!”

จากฝรั่งสุ่ยมี่ 1 ชิ้นในวันนั้น โจกลับไปบ้านที่ดำเนินสะดวก ปรับพื้นที่ประมาณ 2 ไร่กว่าๆ เพื่อรองรับกิ่งพันธุ์ที่จองไว้ จำนวน 400 กิ่ง ทำแบบมือใหม่ ใช้จินตนาการและความรู้จากการแนะนำของน้าอ้วน เริ่มด้วยการนำดินจากสวนไปตรวจวิเคราะห์สภาพดิน ที่สำนักงานพัฒนาที่ดินราชบุรี ซึ่งต้องบอกว่าใช้เวลาประมาณ 30 วัน ก็รู้ผล ที่สำคัญ “ฟรี” ครับ

“ผลตรวจดินของเราออกมาเป็นอย่างไรบ้าง”

“มีความเค็มและเป็นด่างเล็กน้อยครับ รวมถึงธาตุอาหารในดินค่อนข้างต่ำมาก เรียกว่าต้องเตรียมดินก่อนปลูกกันอีกเยอะเลยพี่ ซึ่งตรงนี้ผมขอขอบคุณสำนักงานพัฒนาที่ดินราชบุรีไว้ด้วยนะครับ บริการดีมาก” “เจอแบบนี้โจทำยังไงครับ”

“ต้องปรุงดินก่อนครับพี่ เริ่มจากยกร่องแล้วโรยปุ๋ยคอกให้ทั่วแปลง ที่สวนผมจะใช้ขี้วัวเป็นหลักครับเพราะหาง่าย จากนั้นก็ใช้รถมาปั่นดินอีกรอบ เพื่อให้ปุ๋ยคอกที่เราหว่านผสมกับดินให้ทั่วแปลง พื้นที่ 2 ไร่กว่านี่ผมลงเป็นคันรถเลยพี่ เรียกว่าดินต้องพร้อมปลูกจริงๆ ค่อยลงต้น จะได้สมบูรณ์สุดๆ”

“ระยะห่างมากไหม” “ผมเอาสะดวกครับพี่ โดยประมาณก็ 3-4 เมตรต่อต้น พอดีผมปลูกช่วงกลางฤดูฝน เลยไม่ต้องขุดหลุมใหญ่ เอาแค่กว้างกว่าถุงชำนิดหน่อย ความลึกก็เอาแค่กลบถุงชำก็พอ ปลูกหลุมเล็กแบบนี้ทำให้น้ำไม่ขังในหลุมปลูก ไม่ต้องเสี่ยงกับรากเน่าได้อีกด้วย”

ในช่วงแรก โจดูแลเจ้าฝรั่งน้อยทุกวัน เห็นได้ชัดเลยว่าการเติบโตเป็นไปได้ด้วยดี ผ่านไป 30 วัน เริ่มทรงตัวได้ รากเดินหน้าไปหากิน เริ่มแตกตายอดให้ใบใหม่และมีดอกติดมาด้วย ตรงนี้ต้องเด็ดทิ้งไม่ปล่อยไว้เด็ดขาด เพราะต้นจะโทรม การให้ปุ๋ยจะให้ผสมกันไประหว่างปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก และเคมีสูตรเสมอ 16-16-16 หรือ 15-15-15 เดือนละครั้ง ส่วนการให้น้ำที่สวนจะทำระบบสปริงเกลอร์ จะรดให้ตามสภาพอากาศ จะตรวจดูไม่ให้หน้าดินแห้งจนเกินไป เพราะฝรั่งเป็นพืชที่รากจะหาอาหารหน้าดิน ไม่ลงลึกมากนัก

เมื่อดูแลผ่านไป 5 เดือน ก็เริ่มให้ฝรั่งติดผลได้บ้าง topgoo.net แต่อย่าไว้เยอะ ให้ดูขนาดทรงพุ่มเป็นหลัก ที่สวนก็จะปล่อยให้ติด ประมาณ 3-5 ผล เท่านั้น ฝรั่งสุ่ยมี่จะติดผลดกมาก ต้องคอยปลิดดอกทิ้งในช่วงแรกๆ เสมอ ไม่งั้นต้นจะแคระแกร็น ส่งผลต่อคุณภาพการผลิตในปีต่อๆ ไป “ทำไมจึงตัดสินใจปลูกฝรั่ง ทั้งที่พืชชนิดอื่นก็ได้ราคาดีไม่น้อย”

“ฝรั่งเป็นผลไม้ที่คนรู้จักทั่วไปครับพี่ กินกันทั่วเมือง แปรรูปก็ได้ ที่สำคัญเป็นไม้ผลที่เหมาะกับเกษตรกรมือใหม่ ปลูกแค่ครึ่งปีก็เริ่มปล่อยให้ติดดอก นับไปอีก 4 เดือนก็ได้ลิ้มรสแล้ว เรียกว่าแค่ปีแรกก็ได้ชิมผลผลิตจากฝีมือตัวเองแน่นอน”

“เป็นกำลังใจให้มือใหม่ว่างั้นเถอะ”

“ใช่พี่ ลองนึกสิ หากให้ปลูกแล้วรอนานๆ แบบทุเรียน ผมคงไม่ไหวแน่ๆ ไม่รู้จะได้ชิมกับเขาไหม ที่สำคัญ ปลูกลงดินแล้วไม่รู้จะรอดไหม ผมก็เลยเลือกฝรั่ง”

“จากการลงมือมาปีที่สอง ตอนนี้ผลผลิตเป็นอย่างไรบ้างครับ”

“ดกมากพี่ ต้องปลิดทิ้ง ผมจัดแบ่งโซนให้ติดผล สลับกัน เพื่อที่จะได้มีผลผลิตจำหน่ายไม่ขาดระยะครับ”

“ถามอีกนิด เราจะห่อผลตอนไหนครับ”

“ขนาดเท่าเหรียญ 5 บาทครับพี่ ห่อเก็บไว้กิ่งละ 2 ผลก็พอ เพื่อความสมบูรณ์สุดๆ นับไปจากห่อก็แค่ 2 เดือนได้อร่อย” “ราคาจำหน่ายตอนนี้เป็นอย่างไรหนอ”

“กิโลละ 120 บาทครับพี่ ตอนนี้ผมขายเฉพาะในเฟซเป็นหลักเลยครับ”

“โห! ราคาดีมาก แล้วมีกิ่งขายด้วยไหมครับ”

“มีครับพี่ กิ่งตอนกิ่งละ 150 บาท ลงกระถางแล้วก็ 200-250 บาทครับ”

“ถามจริงๆ นะ ขายดีไหม”

“ตอนนี้เพื่อนๆ ก็จองกันมาเรื่อยๆ ครับพี่ ผมคนเดียวทำไม่ทันหรอกครับ ก็เอาเท่าที่ทำได้”

“อ้าว สรุปว่าไม่ได้อำพี่ใช่ไหม โจโสดจริงๆ หรือนี่”

“จริงครับพี่ ก็เป็นไปตามที่พี่ตั้งชื่อสวนให้นั่นแหละ สวนฝรั่งโสด”

“พี่ประกาศหาคู่ให้เอาไหม”

“โอ๊ยพี่ ใครเขาจะมาสนใจเกษตรกรอย่างผม วันๆ ตัดหญ้า รดน้ำ ใส่ปุ๋ย ตอนกิ่ง ห่อฝรั่ง เก็บผล ส่งขายทางไปรษณีย์ เท่านี้ก็ไม่มีเวลาทำอย่างอื่นแล้วพี่” “แปลว่าไม่สนสาวๆ ใช่ไหม”

“พี่ก็พูดไป หากมีวาสนาก็คงมาเองแหละ”

เอาเถิด ผมคงไม่แกล้งแหย่น้องโจหนุ่มโสดเจ้าของสวนฝรั่งสุ่ยมี่แล้วครับ ปล่อยให้กามเทพทำงานไปเองก็แล้วกัน แต่ในขณะนี้ผมกำลังรื่นรมย์กับความหอม กรอบ ฟู รสหวานของเจ้าฝรั่งสุ่ยมี่ผลโตไม่น้อยกว่า 7 ขีด ก็เลยขอบอกว่า ท่านใดสนใจอยากชมสวน อยากชิมผล หรือต้องการซื้อกิ่งไปปลูก ติดต่อน้องโจ เจ้าของสวนหนุ่มโสดได้เลยครับ ที่เบอร์ 081-858-1487 กระซิบว่าที่สวนนี้มีอะไรดีๆ มากกว่าฝรั่งเยอะเลยครับ สวัสดี