สวนมะม่วงให้ระวัง “ด้วงงวงกัดใบมะม่วง” ช่วงนี้มีอากาศเย็น

อุณหภูมิลดต่ำลง มีหมอกในตอนเช้า และมีแดดแรงในตอนกลางวัน กรมวิชาการเกษตร เตือนเกษตรกรชาวสวนมะม่วงให้เฝ้าระวังสังเกตการเข้าทำลายของด้วงงวงกัดใบมะม่วง มักพบการระบาดในระยะที่มะม่วงแตกใบอ่อน

โดยจะพบตัวเต็มวัยเป็นด้วงงวงขนาดเล็ก ก่อนการวางไข่ ด้วงงวงตัวเต็มวัยเพศเมียจะใช้อวัยวะที่อยู่ปลายงวงเจาะที่ด้านข้างของเส้นกลางใบมะม่วง จากนั้นจะวางไข่ตามแกนกลางใบอ่อนประมาณ 2-14 ฟองต่อใบ เมื่อวางไข่เสร็จแล้ว ด้วงงวงกัดใบมะม่วงจะกัดใบอ่อนห่างจากขั้วใบประมาณ 1-2 เซนติเมตรจนเหลือแต่โคนใบไว้บนต้น ภายในระยะเวลา 2-3 วัน ทำให้ใบอ่อนส่วนที่มีไข่ติดอยู่ร่วงหล่นลงบนพื้นดิน

ลักษณะรอยกัดจะเป็นเส้นตรงเหมือนใช้กรรไกรตัด เมื่อไข่ฟักเป็นตัวหนอนจะเจาะเส้นกลางใบและแทรกตัวเข้าไปกัดกินเนื้อเยื่อใต้ผิวใบ หนอนจะเจริญเติบโตอยู่ภายในใบมะม่วงที่ร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน จากนั้นจะเข้าดักแด้ตามพื้นดินที่มีความชื้นโดยใช้ดินสร้างเป็นรังดักแด้

เกษตรกรควรเก็บใบอ่อนมะม่วงที่ถูกกัดร่วงตามโคนต้นนำไปเผาหรือฝังทำลายทิ้งทันที เพื่อทำลายไข่และหนอนด้วงงวงกัดใบมะม่วง จากนั้น ให้เกษตรกรไถพรวนดินเพื่อจะช่วยลดความเสียหายลงได้

สำหรับในระยะที่มะม่วงแตกใบอ่อน หากพบการเข้าทำลายของด้วงงวงกัดใบมะม่วง เกษตรกรควรพ่นด้วยสารคาร์บาริล 85% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 60 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร การใช้สารกำจัดแมลงควบคุมแมลงศัตรูมะม่วงชนิดอื่นๆ มีส่วนช่วยลดการเข้าทำลายด้วงงวงกัดใบมะม่วงด้วย

ปลูกกัญชา สัญชาติไทย – เมื่อวันที่ 11 ม.ค. นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปรามปรามยาเสพติด กล่าวถึงความคืบหน้า การนำกัญชาใช้ทางการแพทย์ ว่าขณะนี้รอตัวร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดฯที่มีการเปลี่ยนแปลงตามประมวลยาเสพติดในสาระสำคัญกัญชายังเป็นยาเสพติดที่ผิดกฎหมายส่วนการผ่อนปรนเพื่อให้นำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์หรือการศึกษาวิจัยได้ สำหรับประเด็นการนำเข้า ส่งออก จำหน่ายครอบครอง อยู่ในอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางการแพทย์เภสัชกรเป็นผู้ได้รับอนุญาต

แต่ในกรณีการขออนุญาตปลูกที่เป็นบุคคลจะต้องเป็นการรวมตัวกันเป็นลักษณะสหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชน หรือวิสาหกิจสังคมที่จดทะเบียนและต้องดำเนินการกับหน่วยงานของรัฐและที่สำคัญผู้ที่จะดำเนินการได้ จะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยเท่านั้น

หากดำเนินการในรูปแบบของสหกรณ์ ก็ต้องมีบุคคลที่ต้องมีสัญชาติไทยอย่างน้อย 2 ใน 3 ส่วนการดูแลและจัดการหน่วยงานรัฐจะต้องจัดวางระบบก่อนอนุญาตให้บุคคลและวิสาหกิจชุมชนเข้าไปดำเนินการ

เลขาธิการป.ป.ส.กล่าวอีกว่า ขณะนี้คณะกรรมการพิจารณาการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ยังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดตั้งแต่การคัดสายพันธ์การปลูก การสกัด โดยดูตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางรวมถึงการนำสารสกัดไปใช้ประโยชน์จะดำเนินการอย่างไรให้เป็นไปอย่างถูกต้องในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีการศึกษาอยู่

แต่ปปส.ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ดูในเรื่องการออกแบบโรงเรือน สำหรับการปลูกกัญชาทีเป็นแบบพื้นๆมากที่สุดเพื่อให้คนไทยที่รวมตัวกันในลักษณะวิสาหกิจชุมชนสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้ต้นทุนสูงและป้องกันไม่ให้หลุดลอดรั่วไหลออกไปไม่ว่าผลผลิตจะใช้ได้หรือไม่ได้ก็ตามจะถูกดูแลจัดการอย่างไรส่วนเอกชนไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ทั้งสิ้น

นายนิยม กล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะให้ปลูกในพื้นที่ใดได้บ้าง แต่ถ้าการปลูกภายใต้การควบคุมดูก็จะมีปัญหาน้อยเพราะการปลูกในพื้นที่ปิดจะมีการควบคุมอากาศน้ำดิน ซึ่งมีผลต่อการให้สารTHCเพราะสารตัวนี้จะมีผลต่อการนำไปใช้ทางการแพทย์หากค่าของสารTHCเปลี่ยนแปลงก็ใช้ไม่ได้ และอาจส่งให้ผู้ปลูกกัญชาขาดทุนทั้งนี้ยังไม่ได้มีการสรุปสายพันธ์ที่จะนำมาปลูก แต่ก็มีการศึกษาอยู่บ้าง

นอกจากนี้การใช้ประโยชน์จากพืชกัญชาเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานทั้งตัวโทษที่ยังพืชเสพติดและการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์หากยึดโยงไปถึงขั้นใช้ในอุตสาหกรรมได้ต้องเกี่ยวข้องกับกฎหมายต่างประเทศและทรัพย์สินทางปัญหาซึ่งค่อนข้างมีปัญหาซับซ้อนดังนั้นจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพราะหากมีผลเสียกว่าผลดีประชาชนก็จะได้รับผลกระทบมากกว่าโดยระหว่างนี้คณะทำงานฯกำลังร่างกฎกระทรวงคู่ขนานกับการแก้กฎหมายยาเสพติดคาดว่าจะสามารถบังคับใช้ได้เร็วๆนี้

นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า ขณะนี้ทาง กยท. อยู่ระหว่างหารือกับกลุ่ม บริษัท อาลีบาบา ผู้ประกอบการตลาดสินค้าออนไลน์รายใหญ่ของจีน เกี่ยวกับการจัดทำแพลตฟอร์มซื้อขายยางทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยหารือแล้ว 2 ครั้ง โดยทางอาลีบาบา รับหน้าที่ออกแบบแพลตฟอร์มการซื้อขายยางในระบบออนไลน์ให้กับไทยเพื่อไว้ใช้ซื้อขายร่วมกัน อย่างไรก็ตาม คาดว่า ไม่เกิน 1-2 เดือน จากนี้ แพลตฟอร์มขายยางร่วมกันน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น

นายเยี่ยม กล่าวว่า เบื้องต้น กยท. กำหนดประเภทยางที่จะส่งขายไปยังแพลตฟอร์มออนไลน์กับอาลีบาบา ทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ 1.น้ำยางข้น 2.ยางแท่ง (เอสทีอาร์ 20) และ 3. ยางแผ่นรมควัน ชั้น 3 (อาร์เอส 3) โดยยางเหล่านี้จะมาจากสถาบันเกษตร หรือ สหกรณ์ที่สามารถผลิตยางและแปรรูปยางพาราได้ นอกจากนี้ การซื้อ-ขาย ยางออนไลน์ จะส่งผลทำให้ราคายางในประเทศปรับตัวสูงขึ้น เพราะราคายางจะถูกกำหนดโดยผู้ขายโดยตรง

“ปัจจุบัน ราคายางพาราอยู่ในเกณฑ์ดี และเชื่อมั่นว่าราคายางพาราจะเพิ่มขึ้นถึงไตรมาสที่ 2 (เดือนมีนาคม-พฤษภาคม) เป็นอย่างน้อย เพราะต้นยางจะอยู่ในช่วงผลัดใบ โดยปัจจุบันราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 (เอฟโอบี) เฉลี่ยอยู่ที่ 50 บาท ต่อกิโลกกรัม และราคาตลาดกลางอยู่ที่ 45 บาท ต่อกิโลกรัม ส่วนราคาน้ำยางสดปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 39-40 บาท ต่อกิโลกรัม ซึ่งสาเหตุที่ราคาน้ำยางสดเพิ่มขึ้น เกิดจากโครงการต่างๆ ของรัฐบาลที่มีการหนุนการใช้ยางในประเทศ โดยเฉพาะการใช้ยางสร้างถนนพาราซอยด์ซีเมนต์ทั่วประเทศ ของโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร เป็นต้น” นายเยี่ยม กล่าว

นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ด้านอุตสาหกรรมยางและการผลิตยาง กล่าวว่า ช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ จะเดินทางไปยังประเทศจีน เพื่อหารือกับอาลีบาบา เกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ ในระบบซื้อขายยางออนไลน์ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น สำหรับแพลตฟอร์มซื้อขายยางอิเล็กทรอนิกส์นี้ กยท. ตั้งใจให้เป็นตลาดล่วงหน้าที่มีการส่งมอบจริง แตกต่างกับตลาดโตคอม ในประเทศญี่ปุ่น และตลาดไซคอม ในประเทศสิงคโปร์ ที่มีการซื้อขายล่วงหน้า แต่ไม่มีการส่งมอบจริง

“ตลาดล่วงหน้า เป็นตลาดที่มีไว้เพื่อเก็งกำไรเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้เกิดการกดราคาในตลาดยางทั่วโลก ดังนั้น ถ้าไทยสามารถเปิดตลาดซื้อขายยางพาราได้เองจะสามารถแก้ปัญหาเรื่องการกดราคาของตลาดโลกได้ นอกจากนี้ การซื้อขายยางผ่านแพลตฟอร์มของอาลีบาบา จะทำให้ไทยได้กลุ่มลูกค้าจากจีนโดยตรง รวมถึงลูกค้าจากทั่วโลกสามารถซื้อยางจากประเทศไทยโดยตรงผ่านแพลตฟอร์มนี้ได้” นายณกรณ์ กล่าว

รมช.เกษตรฯ เปิดงาน “ตามรอยตำนานกาแฟ แลดอกนางพญาเสือโคร่ง” โชว์แหล่งพัฒนาพันธุ์และเทคโนโลยีการผลิตกาแฟอะราบิก้า ดันกาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจส่งออกตลาดโลก เตรียมทบทวนแนวทางอย่างจริงจัง

นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีเปิดงาน “ตามรอยตำนานกาแฟ แลดอกนางพญาเสือโคร่ง” จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 13 – 14 มกราคม 2562 ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมวิชาการเกษตร จัดงาน “ตามรอยตำนานกาแฟ แลดอกนางพญาเสือโคร่ง” ขึ้น เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งระบบการผลิต การแปรรูป และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกาแฟ พร้อมต่อยอดพัฒนางานวิจัยที่มีคุณภาพ ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถลดต้นทุนการผลิต และนำไปสู่ความยั่งยืนในอาชีพ อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งพัฒนาพันธุ์และเทคโนโลยีการผลิตกาแฟอะราบิกาของกรมวิชาการเกษตร

และประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ด้านการเกษตร (Agro tourism) ขุนวางให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ตลอดจนเป็นการส่งเสริม สนับสนุน และกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตร อนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีแนวพระราชดำริในการแก้ไขปัญหาป่า ซึ่งในพื้นที่สูงบางแห่งป่ามีความเสียหาย จึงต้องฟื้นฟูสภาพให้กลับมาสมบูรณ์ สามารถนำผลผลิตจากพื้นที่ป่ามาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้

ขณะเดียวกันยังดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อีกด้วย เช่น ดอยช้าง จ.เชียงราย เดิมเป็นป่าเสื่อมโทรม ต่อมาได้ฟื้นฟู โดยกระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนให้ปลูกไม้ยืนต้น ได้แก่ กาแฟ และมะคาเดเมีย ทำให้พื้นที่ดังกล่าวกลับมาเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ โดยนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์จำหน่ายและใช้หลักการตลาดนำการผลิต ทำให้ปัจจุบันผลผลิตกาแฟได้กระจายไปสู่พื้นที่อื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ

“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ส่งเสริมการปลูกกาแฟทั้งในพื้นที่สูงและตอนล่างให้มีศักยภาพ สร้างความหลากหลายทางชีวภาพ ลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยวที่ได้รายได้น้อย เพื่อให้กาแฟได้กลับมาเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญของประเทศ โดยมีคณะอนุกรรมการพืชสวน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการส่งเสริมในเขตภาคเหนือตอนบน มีการเชื่อมโยงการแปรรูป การตลาด วิจัย ลดต้นทุน และพัฒนาพันธุ์ ให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ และนำไปขยายผลในพื้นที่อื่นๆ ดังนั้นจึงต้องทบทวนแนวทางนี้อย่างจริงจัง” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว

นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานในครั้งนี้ กรมวิชาการเกษตรได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายหน่วยงาน ซึ่งภายในงานจะประกอบด้วย 1. นิทรรศการวิชาการ “จากพระราชดำริแรกปี 2525 ถึงปี 2562…ก้าวสู่ปีที่ 35 แห่งการวิจัยและพัฒนากาแฟอะราบิกากรมวิชาการเกษตร” อาทิ แหล่งรวมพันธุ์และแหล่งสร้างนวัตกรรมกาแฟอะราบิกาพันธุ์ใหม่ เทคโนโลยีการพัฒนายกระดับมาตรฐานคุณภาพกาแฟอะราบิกา การเชื่อมโยงการผลิตกาแฟอะราบิกาไทยสู่มาตรฐานกาแฟอะราบิกาโลก และทิศทางการพัฒนากาแฟอะราบิกาในอนาคต

2. เสวนาทางวิชาการ องค์ความรู้ของกรมวิชาการเกษตรต่อการพัฒนากาแฟอะราบิกาของไทย การสร้างอัตลักษณ์กาแฟไทยจากยอดดอยสู่สากล และการปรับโฉมการผลิตและเพิ่มมูลค่ากาแฟอะราบิกายุค 4.0 3. การแข่งขันเก็บผลกาแฟอะราบิกาคุณภาพ การแข่งรถสามล้อดอยวิถีชาวดอย และการแข่งขันถ่ายภาพภายใต้แนวคิด “ตามรอยตำนานกาแฟ แลดอกนางพญาเสือโคร่ง” และ 4. การสาธิตเทคนิคการชิมกาแฟและชิมกาแฟพิเศษ Best ASEAN Top 5 Coffee สาธิตการทำ Latte Art และสาธิตการชงกาแฟในรูปแบบต่างๆ ซึ่งงานดังกล่าวเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย

กรมส่งเสริมการเกษตร เดินหน้าสร้างความเข้าใจวิธีและเทคโนโลยีกำจัดแมลงวันผลไม้ที่มีประสิทธิภาพ

นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า แมลงวันผลไม้ หรือแมลงวันทอง เป็นศัตรูพืชที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในไม้ผลหลายชนิด เช่น พุทรา มะม่วง ฝรั่ง ชมพู่ กระท้อน ลองกอง เป็นต้น นอกจากนั้น ประเทศคู่ค้าส่งออกของไทยยังถือว่าแมลงวันผลไม้เป็นศัตรูพืชกักกันในการส่งออกด้วย แมลงวันผลไม้จึงเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญในการส่งออกไม้ผลของประเทศไทย

โดยแมลงวันผลไม้มีวงจรตลอดชีวิตนานกว่า 3 เดือน ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งอาหารในธรรมชาติ แมลงวันผลไม้เพศเมีย 1 ตัว สามารถวางไข่ได้ประมาณ 1,200-1,500 ฟอง โดยจะวางไข่ภายใต้ผิวเปลือกของผลไม้ เมื่อไข่ฟักพัฒนาเป็นตัวหนอนก็จะกัดกินเนื้อผลภายใน ระยะหนอนนี้จะเป็นระยะที่ทำลายพืชผลทางการเกษตรได้อย่างมาก ส่งผลกระทบต่อผลผลิตและรายได้ของเกษตรกร

วิธีการป้องกันกำจัดแมลงวันผลไม้ สามารถทำได้หลายวิธี เช่น เก็บผลไม้เน่าเสียหรือร่วงหล่นไปฝังกลบให้มิดชิด หรือนำไปทำน้ำหมัก ทำความสะอาดสวนและตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง ตัดพืชอาศัยที่เป็นแหล่งอาหารของแมลงวันผลไม้ แขวนกับดักกาวเหนียว ใช้เหยื่อโปรตีนและสารล่อแมลงวันผลไม้เพศผู้ ใช้เทคโนโลยีแมลงเป็นหมันเพื่อควบคุมแมลงวันผลไม้ในธรรมชาติ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่กรมส่งเสริมการเกษตร โดยศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช (ศทอ.) ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศไทยสนับสนุนและสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรเกิดความเข้าใจในวงกว้าง

เนื่องจากเกษตรกรส่วนหนึ่งมีความกังวลว่า การปล่อยแมลงเป็นหมันเข้าไปในสวนผลไม้จะเป็นการเพิ่ม ความเสียหายจากแมลงวันผลไม้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะการปล่อยแมลงวันผลไม้ที่เป็นหมันเข้าไปในสวน เมื่อไปผสมพันธุ์กับแมลงวันผลไม้ที่ไม่เป็นหมันจะทำให้แมลงวันที่ไม่เป็นหมันไม่สามารถขยายพันธุ์ได้ เป็นการลดจำนวนประชากรของแมลงวันผลไม้ สำหรับรอยเจาะของแมลงวันผลไม้ที่เป็นหมันไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับผลไม้ได้ เนื่องจากไข่ไม่สามารถฟักพัฒนาเป็นตัวหนอนได้ และร่องรอยจะจางหายไปเองเมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว

ทั้งนี้ หากเกษตรกรสนใจรายละเอียดเรื่องเทคโนโลยีแมลงเป็นหมัน สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศทอ. หรือศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน หรือสำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน เพื่อร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มเกษตรกรและนำเทคโนโลยีการเกษตรต่างๆ ไปใช้ในการป้องกันกำจัดศัตรูพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ปราสาทรวงข้าว วังพิกุล สืบสานประเพณีสู่ขวัญข้าว – บริเวณบึงปากอ่าว บ้านดงจันทร์ หมู่ 10 ตำบลวังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ปรากฏเค้าโครงปราสาทรวงข้าว เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านและนักเรียนโรงเรียนวังพิกุล นำโดย นายเสน่ห์ จิตรจรัส กำนันตำบลวังพิกุล

ทีมงานร่วมกันก่อสร้างคนละไม้คนละมือ ทั้งคัดแยกตัดแต่งต้นข้าว ให้เหลือเพียงรวงข้าว ก่อนจะมัดตกแต่งตามโครงปราสาทที่ทำจากไม้ไผ่ให้เกิดความสวยงาม

นายเสน่ห์ กล่าวว่า ชาวบ้านร่วมประชุมว่า จะฟื้นฟูขนบธรรมเนียม ประเพณีที่สำคัญของชุมชนขึ้น ส่วนใหญ่ชาวบ้านในพื้นที่มีพื้นเพเป็นชาวไทยทรงดำและชาวอีสานที่ย้ายถิ่นฐานมาทำกิน ในพื้นที่ ต.วังพิกุล มีถึง 7 หมู่บ้าน จึงมีมติที่จะสืบสานประเพณีสู่ขวัญข้าว เนื่องจากปัจจุบันไม่มีการขอขมาพระแม่โพสพ หลังเก็บเกี่ยวข้าวเหมือนในอดีต ปัจจุบันใช้รถเกี่ยวลงเกี่ยวแล้วก็เผานา ทำให้คนรุ่นใหม่ลืมที่จะขอขมาพระแม่โพสพตามความศรัทธาของคนไทยที่มีมาอย่างยาวนาน

เมื่อได้ความคิดว่าจะทำแล้ว จึงไปดูงานการก่อสร้างปราสาทรวงข้าวที่จังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดร้อยเอ็ด จากนั้นนำรูปแบบกลับมาทำให้มีขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 10 เมตร สูง 11 เมตร ชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจมาก่อสร้างปราสาทรวงข้าวเป็นครั้งแรกของชุมชน ทั้งมาออกแรง ออกกำลังทรัพย์ และบริจาครวงข้าว กข 57 มาสร้างปราสาทรวงข้าว

ประเมินไว้ ใช้เวลาทำประมาณ 25 วัน และต้องใช้รวงข้าวประมาณ 5-6 ตัน น่าจะแล้วเสร็จก่อน วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 ทันสำหรับจัดงาน “ประเพณีสืบสานวัฒนธรรมไทยทรงดำสู่ขวัญปราสาทรวงขวัญอีกครั้ง เพื่อสืบสานประเพณี และถือว่าเป็นครั้งแรกของจังหวัดพิษณุโลกที่มีการจัดงานเช่นนี้ พร้อมทั้งเพื่อเป็นการสร้างความเข้มแข็งของคนในชุมชน

รายได้จากการจัดงานจะนำไปพัฒนาพื้นที่บึง ปากอ่าวให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน ทั้งสร้างแพลอยน้ำ ตลาดนัดชุมชน บ้านบนต้นไม้ เป็นต้น จะได้สร้างความเข้มแข็ง ความสามัคคี และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนในชุมชน

สังเกตดูตามร้านขายปลาหลายร้าน มีการจัดชุดตู้ปลาเพื่อเป็นของขวัญ สำหรับให้ผู้สนใจเลือกซื้อไปเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลต่างๆ ให้กับเพื่อนฝูง หรือลูกหลาน หลายร้านเตรียมไว้พร้อมสรรพ แค่เลือกขนาดกับรูปแบบ และราคาที่ถูกใจ ก็พร้อมห่อให้เลยภายในเวลาไม่กี่นาที

ว่าไปแล้ว การให้ตู้ปลาสักใบเป็นของขวัญที่ไม่เลวเลย เพราะคุณค่าของการเลี้ยงปลาก็รู้ๆ กันอยู่ว่า มีอเนกอนันต์ ให้ทั้งความเพลิดเพลิน ความสบายใจ ให้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์น้ำเล็กๆ ที่ในชีวิตคนเมืองแทบไม่เคยได้สัมผัสรับรู้ว่ามันมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร เด็กๆ นั้นถ้าได้เลี้ยงปลา มีความผูกพันกับปลา ก็จะซึมซับความอ่อนโยนและความช่างสังเกตไปได้ไม่ยาก และถ้าเกี่ยวกับฮวงจุ้ย ตู้ปลาก็เป็นอะไรที่ขาดกันไม่ได้เลยสำหรับบ้านพักที่อยู่อาศัยหรือที่ทำงานของหลายๆ คน

การเลือกซื้อตู้ปลาเพื่อเป็นของขวัญ มีหลักอย่างไร?

แรกสุดเลยคือ ต้องรู้ก่อนว่า ผู้ที่เราจะซื้อไปให้นั้น เขาอยากเลี้ยงปลาหรือเปล่า ถ้าอยากเลี้ยงและกำลังมองหาอยู่ก็เข้าทาง เป็นไปได้ก็ให้รู้เพิ่มเติมอีกนิดว่า เขาอยากเลี้ยงปลาประเภทไหน จะได้ซื้อหาได้ถูกแบบ ถูกขนาด แต่ถ้าคนที่เรากำลังจะซื้อให้เขาไม่ได้อยากเลี้ยงปลาเลย เราซื้อไปก็เสียสตางค์เปล่า อีกทั้งยังเป็นภาระให้เขาต้องคอยดูแลวุ่นวาย

ทว่าเท่าที่สังเกต คนที่มองหาตู้ปลาสักชุดไปเป็นของขวัญให้ใครสักคนนั้น มักจะรู้อยู่ก่อนแล้วถึงความต้องการ จึงซื้อไปเป็นการเซอร์ไพรส์ ประมาณว่าเปิดห่อมาร้องกรี๊ดดีใจสุดชีวิต

ซื้อตู้ปลาให้เหมาะสมกับขนาดของปลา หากผู้รับอยากได้ปลาอะโรวาน่ามาเลี้ยงประดับบารมีสักตัว แล้วเราดันซื้อตู้ ขนาด 24 นิ้ว ไปให้เป็นของขวัญ อย่างนี้เปล่าประโยชน์ เพราะปลาอะโรวาน่าเมื่อโตแล้วยาวเกือบเมตร ตู้ที่เหมาะกับมันต้องมีขนาด 48 นิ้ว เป็นอย่างต่ำ

เช่นเดียวกับปลาหมอสี ถ้ารู้ว่าเพื่อนอยากเลี้ยงปลาหมอสี ตู้ที่เราจะซื้อให้ก็ไม่ควรเล็กกว่า 30 นิ้ว เพราะเล็กกว่านี้มันจะคับแคบมาก เนื่องจากปลาหมอสีโตได้เกินฟุต (นี่หมายถึง ปลาหมอครอสบรีด ประเภทปลาเวอร์ฮอร์นนะครับ)

สำหรับคนไม่เคยเลี้ยงปลา (แต่กำลังจะซื้อตู้ปลาให้คนสำคัญสักคนหนึ่ง) ควรจะต้องรู้สักหน่อยครับ ว่าตู้ปลานั้นมีชุดอุปกรณ์ที่จำเป็นอะไรบ้าง ดังนี้ครับ
1. ตู้
2. ฝาตู้และชุดไฟส่องสว่าง
3. ขาตั้ง (อาจไม่มีก็ได้ ถ้าเป็นตู้ขนาดเล็ก)
4. ระบบกรองน้ำและวัสดุกรอง
5. วัสดุสำหรับตกแต่ง

มาว่ารายละเอียดกันครับจะเป็นตู้กระจก ตู้อะครีลิก หรือตู้พลาสติค ก็แล้วแต่ความชอบ เลือกดูที่โครงสร้างแข็งแรง กระจกเนื้อไม่บางเกินไป ไม่มีร่องรอยขีดข่วน ตามขอบไม่กะเทาะ ยิ่งถ้าเป็นตู้ขนาดใหญ่ต้องตรวจสอบละเอียดหน่อย เพราะถ้าน้ำรั่วซึมขึ้นมาก็เรื่องใหญ่ทีเดียว

สมัยนี้มีตู้กระจกหลากหลายรูปแบบ เช่น ตู้ที่มีขอบโค้งมนไร้รอยต่อ ดูสวยงาม มีชาติตระกูลกว่าตู้ที่ต่อโดยเอากระจกแผ่นๆ มาประกบกัน หลายปีก่อนหน้านี้ ตู้ลักษณะนี้ค่อนข้างมีราคาแพง เพราะต้องนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เดี๋ยวนี้เราสามารถหาซื้อตู้ประเภทนี้ได้ในราคาถูกลงมาก ด้วยความเมตตากรุณาจากประเทศจีน ที่อุตส่าห์ก๊อบปี้ญี่ปุ่นมาเสียเหมือนเปี๊ยบ สำหรับเด็กๆ ไม่ควรซื้อตู้ขนาดใหญ่ให้ครับ เพราะการเลี้ยงปลานั้นต้องฝึกให้เขาดูแลเองทั้งหมด ถ้าตู้มีขนาดใหญ่เกินไปจะเป็นภาระสำหรับเขา

2. ฝาตู้และชุดไฟส่องสว่าง

ตู้ปลามีทั้งแบบใช้ฝาปิดและไม่ต้องใช้ฝาปิด ขึ้นอยู่กับว่าชอบอย่างไหน และเลี้ยงปลาอะไร ถ้าปลาที่ต้องการเลี้ยงเป็นปลาที่อาจกระโดดเวลาตกใจ เช่น อะโรวาน่า ปลาช่อน ปลาตะเพียน ฯลฯ ก็ควรซื้อตู้ชนิดมีฝาปิดแน่นหนาสำหรับตู้ปลาที่ต้องการเน้นเลี้ยงต้นไม้น้ำ เลี้ยงปลาเล็กๆ ที่มีนิสัยไม่ขี้ตื่น ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อตู้ชนิดมีฝาปิด

แต่ไม่ว่าแบบไหนก็ต้องมีการให้แสงสว่างครับ ไม่เช่นนั้นปลาเองก็จะไม่สวย เราเองก็มองปลาไม่ชัด แถมสิ่งที่เลี้ยง เช่น ต้นไม้น้ำ ก็ขาดเรื่องแสงไม่ได้เลย ชุดไฟส่องสว่างจึงถือว่าจำเป็นเหมือนกัน
ตู้ที่มีฝาปิดจะมีชุดไฟในตัวพร้อมเสร็จสรรพ แต่ตู้ที่ไม่มีฝาก็อาจซื้อโคมไฟที่เขาทำไว้คู่กันมาติดตั้งได้ครับ ราคาก็ไม่แพงเช่นกัน เหตุผลก็เช่นเดียวกับ ข้อ 1

3. ขาตั้ง

ตู้ขนาดกลางและใหญ่จำเป็นต้องมีขาตั้ง เพราะมีน้ำหนักมาก จะไปวางบนชั้นหรือบนโต๊ะคงไม่เหมาะ ขาตั้งตู้ปลาเองเดี๋ยวนี้มีทั้งขาเหล็กเคลือบกันสนิม ขาตั้งไม้ ขาตั้งเฟอร์นิเจอร์ เลือกซื้อตามความชอบและกำลังเงินในกระเป๋าครับ ดูที่แข็งแรงๆ ใช้วัสดุดีหน่อยก็แล้วกัน

4. ระบบกรองน้ำและวัสดุกรอง

สำหรับตู้ขนาดเล็กก็มีกรองใต้กรวด กรองกระป๋อง กรองโฟม แต่ถ้าให้ดูหรูขึ้นมาก็น่าจะใช้กรองแขวน ซึ่งออกแบบเป็นรูปคล้ายกล่อง มีขอบด้านหนึ่งคล้องแขวนไว้กับขอบตู้ มีท่อยื่นลงไปถึงระดับพื้นเพื่อดึงน้ำขึ้นมาผ่านกระบวนการกรองก่อนปล่อยให้ไหลตกลงไปคล้ายน้ำตก ในตู้ปลาขนาดเล็กจะนิยมกรองชนิดนี้มากครับ แต่ก็มีข้อเสียคือไม่สามารถใช้กับตู้ที่มีฝาปิดเต็มได้

สำหรับตู้ขนาดใหญ่มักมีระบบกรองติดตั้งมาให้เสร็จในตัว สิ่งที่ต้องดูเพิ่มคือ ต้องมีวัสดุกรองให้ครบ วัสดุกรองที่จำเป็นๆ มี 3 อย่าง คือ ใยกรอง วัสดุเพาะเชื้อจุลินทรีย์ และปั๊มน้ำ

ขยายความอีกนิดว่า วัสดุเพาะเชื้อจุลินทรีย์คือ วัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษ เป็นที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์ หรือแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ต่อการบำบัดน้ำ การกรองน้ำในตู้ปลา หรือเรียกให้ถูกขึ้นคือระบบบำบัดน้ำในตู้ปลา จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีปริมาณจุลินทรีย์เหล่านี้ให้มากเพียงพอเพื่อเปลี่ยนน้ำเสียให้มีสภาพดีขึ้น และเพื่อให้มีจุลินทรีย์มาก ก็จำเป็นต้องใช้บ้านที่มีเนื้อที่อาศัยให้มาก

วัสดุเพาะเชื้อที่มีประสิทธิภาพจะมีรูพรุนเล็กละเอียด ทำให้เกิดพื้นผิวสำหรับการสร้างขยายพันธุ์ของจุลินทรีย์อย่างเพียงพอ ยิ่งตู้ที่มีช่องกรองเล็กก็ยิ่งมีความจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้วัสดุเพาะเชื้อที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น แน่นอนว่าราคาก็ต้องลอยตัวตามคุณภาพเช่นกัน วัสดุดังกล่าวที่ได้รับความนิยม ได้แก่ เซรามิคริงค์ ไบโอบอล (เกรดดี หรือที่เรียกกันว่า ซูเปอร์ไบโอบอล) หินภูเขาไฟ (หินพัมมิส) ปะการัง เป็นต้น

5. วัสดุสำหรับตกแต่ง

จะให้ตู้ปลาเขาทั้งที แต่ไม่มีของตกแต่งเลยก็จะกระไรอยู่ เหมือนบ้านโล่งๆ ไม่มีโต๊ะ เก้าอี้ เครื่องครัว อะไรสักอย่าง ไม่น่าอยู่เอาเสียเลย วัสดุสำหรับตกแต่งที่จำเป็นไม่มีอะไรมากนักครับ เอาแค่กรวดปูพื้นสักจำนวนหนึ่ง หินประดับสักเล็กน้อย หรือขอนไม้อาร์ตๆ สักขอนก็ไม่เลว ถ้าให้มีสีสันหน่อยก็เพิ่มต้นไม้พลาสติคเข้าไป แค่นี้ตู้ก็ออกมาพอดูสวยใช้ได้แล้ว

ข้อควรระวังคือ

ไม่ควรซื้อตู้พร้อมปลาหรือของมีชีวิตอื่นๆ เช่น ต้นไม้น้ำ ไปพร้อมๆ กัน นอกเสียจากมั่นใจแน่แล้วว่าคนที่เราจะซื้อตู้ให้นั้นเขาต้องการจริงๆ เพราะเมื่อเราให้ไปแล้วเขาอาจยังไม่มีเวลาทำ หรือมีเวลาแต่ยังไม่มีอารมณ์ ถ้าเราซื้อให้เฉพาะตัวตู้กับของอื่นๆ ที่ไม่มีชีวิต จะว่างจัดเมื่อไหร่ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามีของมีชีวิตไปจะกลายเป็นเอาเรื่องวุ่นไปให้เขาไม่รู้ตัว

ปกติการเลี้ยงปลานั้น ถ้าเซ็ตตู้ใหม่จะยังไม่ใส่ปลาทันทีอยู่แล้ว ควรรอให้ระบบกรองทำงานไปสักหลายๆ วันก่อนค่อยหาซื้อปลามาปล่อย ให้ตู้ปลาไปแล้วอาจจะเอาปลาไปให้วันหลังก็ได้ หรือจะให้ดีให้เขาไปเลือกซื้อปลาที่เขาชอบเองดีกว่า อบเชย เป็นสมุนไพรและเครื่องเทศที่คนไทยคุ้นเคยกันมานาน จนนำมาตั้งชื่อให้ลูกสาวก็มี ในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผนก็มีการกล่าวถึงไม้ชนิดนี้

“…อบเชยเผยกลิ่นกลั้วสุกรม วันนี้ได้เชยชมสมสุขพี่ สายหยุดกุหลาบอาบอวลดี ขอหยุดชมจูบทีเถิดสาวน้อย… ”

หลายคนจะคุ้นเคยกับกลิ่นอบเชยในพะโล้ แต่คนรุ่นใหม่ไม่น้อยที่ไม่รู้จัก แต่กลับคุ้นเคยกับคำว่า Cinnamon ที่เป็นส่วนประกอบหรือปรุงกลิ่นรสในเค้ก ซินนามอนโรลล์ ลูกอม ยาสีฟัน หรือในหมากฝรั่ง หลายคนที่สนใจเรื่องสุขภาพจะทราบสรรพคุณของอบเชยในการรักษาเบาหวาน ชนิดที่ไม่พึ่งอินซูลินซึ่งกำลังเป็นที่สนใจทั่วไป อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหน้าตาของต้นอบเชยเป็นอย่างไร อบเชยมาจากไหน มีปลูกหรือไม่ และการผลิตและตลาดอบเชยทำอย่างไรนั้น จะเป็นที่น่าสนใจเช่นกัน

อบเชย เป็นเปลือกต้นของพืชในสกุล Cinnamomum ในวงศ์ Lauraceae หลายชนิด สามารถแบ่งตามแหล่งผลิตและคุณภาพของอบเชยได้ คือ

– อบเชยศรีลังกา (Cinnamomum verum J. Presl) หรืออบเชยเทศ (True Cinnamon) ปลูกมากในประเทศศรีลังกา ตอนใต้ของอินเดีย หมู่เกาะซิซิลี และบราซิล อบเชยที่ได้จากศรีลังกามีคุณภาพดีกว่าอบเชยที่ได้จากแหล่งอื่น เป็นที่นิยมในตลาดโลก

– อบเชยชวา [Cinnamomum burmannii (Nees) Blume] หรืออบเชยอินโดนีเซีย (Indonesia Cassia) พบมากแถบเกาะสุมาตรา เกาะชวา และทางฝั่งตะวันตกของติมอร์ อบเชยชวาเป็นอบเชยที่จำหน่ายในท้องตลาดบ้านเรา เพราะมีการนำเข้าเพื่อใช้ในเครื่องแกง

– อบเชยจีน (Chinese Cassia) มีชื่อวิทยาศาสตร์ Cinnamomum aromaticum Nees พบในมณฑลกวางสี ประเทศจีน และพม่า อบเชยจีนมีเปลือกหนาและหยาบกว่า สีเข้มกว่าอบเชยศรีลังกา

– อบเชยญวน (Saigon Cassia) ได้จากเปลือกที่แห้งแล้วของ Cinnamomum loureirii Nees มีลักษณะคล้ายอบเชยจีนมาก หอมไม่มาก แต่มีรสหวาน

– อบเชยไทย เป็นไม้ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ พบตามป่าดงดิบทั่วไป มี 2 ชนิด คือ Cinnamomum bejolghotha (Buch.-Ham.) Sweet และ Cinnamomum iners Reinw. Ex Blume มีคุณภาพไม่ดีเท่าอบเชยเทศ

อบเชย ในสภาพธรรมชาติทรงพุ่มอาจสูงตั้งแต่ 10-15 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางลำต้นประมาณ 30-50 เซนติเมตร แต่อบเชยปลูกจะมีการดูแลรักษาโดยตัดแต่งกิ่งทรงพุ่ม ซึ่งมักจะสูงไม่เกิน 2-2.5 เมตร กิ่งอบเชยจะแตกขนานกับพื้นดินหรือโค้งลงหาดิน เปลือก ลำต้น และใบมีกลิ่นหอม ผลอบเชยมีขนาด 1.5-2 เซนติเมตร อบเชยชอบอากาศร้อนชื้น ดินร่วนซุยระบายน้ำดี มีอินทรียวัตถุสูง ไม่เป็นทรายจัด ดินเหนียวทำให้เปลือกลำต้นหยาบและหนาทำให้คุณภาพต่ำ