‘หมอบรรจบ’ขอยุตินำเข้า2สารเคมีทันที หลังพบก่อโรคร้าย

ชี้ให้เวลาถึงสิ้นปีแพทย์เรียกร้องยุตินำเข้าสารเคมีกำจัดศัตรูพืชทันที หลังพบสารก่อโรคร้าย ชี้ให้เวลาถึงสิ้นปี เปิดช่องให้ผู้ประกอบการกักตุนสินค้า

นายแพทย์บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล คณบดีวิทยาลัยการแพทย์บูรณาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยุติการนำเข้าสารเคมีกำจัดศัตรูพืช 2 ชนิด ได้แก่ พาราควอต และคลอร์ไพริฟอส ทันที หลัง 5 หน่วยงานหลัก ประกอบไปด้วยกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม มีมติประกาศยกเลิกการใช้สารเคมีทั้ง 2 ชนิด แล้ว แต่กลับยุติการนำเข้าในวันที่ 1 ธันวาคม 2560 ซึ่งสามารถขายต่อไปได้ถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2562 อาจเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจกักตุนและกระจายสินค้า จึงขอให้ทบทวนการใช้มติดังกล่าว

นายแพทย์บรรจบ ระบุว่า สารเคมีทั้ง 2 ชนิด เป็นยาพิษอย่างแรง และมี 47 ประเทศยกเลิกการใช้ไปแล้ว เนื่องจากสารดังกล่าวส่วนใหญ่ถูกใช้ในการเกษตร โดยเฉพาะการปลูกข้าว มีอันตรายทั้งกับผู้ใช้ และทำให้เกิดสารเคมีตกค้างในพืชผลทางการเกษตรส่งผลต่อผู้บริโภค อาทิ สมาธิสั้น โรคมะเร็ง พาร์กินสัน ความจำเสื่อม ซึมเศร้า เกษตรกรควรทำเกษตรแบบอินทรีย์เพื่อความปลอดภัย และเห็นว่าควรผลักดันให้แผนความมั่นคงและปลอดภัยทางอาหารเป็นวาระแห่งชาติด้วย

ส่วนวิธีการล้างสารเคมีที่ตกค้างในพืชผลทางเกษตร พบว่า การใช้ ด่างทับทิม , น้ำเกลือ , ผงฟู, น้ำส้มสายชู , รวมไปถึงน้ำยาล้างผัก ก็ไม่สามารถล้างสามารเคมีทั้งสองชนิดนี้ได้ แต่ทำให้เจือจางได้ซึ่งจะต้องล้างด้วยน้ำสะอาดโดยเปิดน้ำไหลผ่านและใช้มือถูไม่ต่ำกว่า 5-10 นาที

วิพากษ์กัน ทำเอาเจ้าของโครงการเอามือปิดหูแทบไม่ทัน สำหรับโครงการซื้อเรือดำน้ำ ราคา 3.6 หมื่นล้านบาท ของรัฐบาล ชุดลุงตู่
เรื่องนี้ก็ไม่ธรรมดา เมื่อ “วงใน Wongnai.com ” โดย จานใหญ่จานโต เพจ แนะนำอาหารชื่อดัง ได้เปรียบเปรยให้บรรดา นักกิน นักชิม ได้ตกใจเล่นๆ ว่า เงิน 3.6 หมื่นล้านบาทนั้น คนเรา สามารถนำไปซื้ออะไรกินได้มากแค่ไหนบ้าง

3.6 หมื่นล้านบาท กินอะไรได้บ้าง ?

มีเงินซะอย่างจะเอาไปทำอะไรก็ได้ ลองดูสิว่าถ้าเราไม่ซื้อเรือดำน้ำ เรานำเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท มากินอะไรได้บ้าง ?

ล่าสุดรัฐบาลเพิ่งแถลงข่าวการอนุมัติงบซื้อเรือดำน้ำมูลค่าสูงถึง 3.6 หมื่นล้านบาท ทันทีที่สิ้นเสียงการแถลงข่าวก็ต่างมีความคิดเห็นหลากหลายจากคนในสังคมเป็นจำนวนมาก บ้างก็สนับสนุน บ้างก็บ่นว่าใช้ภาษีประชาชนแบบไม่จำเป็น แต่ไม่ว่าจะออกมาในทิศทางใดก็ตาม เรามาดูกันซิว่า ถ้าเรามีเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท จะสามารถกินอะไรในแบบฉบับของคน Wongnai.com กันบ้างกินคาเวียร์

ถ้า “ฮาวาย” คือสถานที่เราชอบไป ทำไม๊ เราจะไปแค่ครั้งเดียว ต้องมีการลงลึกเก็บรายละเอียดกันบ้าง…ถ้าเรามีเงินถึง 3.6 หมื่นล้านบาท แค่ไม่ซื้อเรือดำน้ำ เราก็ไปเที่ยวฮาวาย พร้อมจิบไวน์แกล้มคาเวียร์สไตล์ไทยๆ ได้ถึง 1,723 เที่ยวเลยทีเดียว บอกตรงๆ ไปบ่อยขนาดนี้ คงรู้จักถนนทุกเส้น ไฟแดงทุกไฟแดงเลยละ

รู้หรือไม่ ถ้าคุณนำเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท มาซื้อหมูกรอบมิสเตอร์โจ ร้านหมูกรอบชื่อดังย่านถนนจันทน์ คุณจะได้กินเยอะชนิดที่ว่า ถ้านำมาเรียงต่อกันจะได้ระยะทางมากกว่า 138,857 กิโลเมตร หรือวนรอบโลกได้เกือบ 3 รอบครึ่งเลยนะจะบอกให้ สาระนะเนี่ย!

กินชาบู

เพราะเรื่องกินเรื่องใหญ่ จบจากการดูบอลไทยเสร็จ อย่าเพิ่งให้กองเชียร์เต็มสนามราชมังฯ ลุกไปไหน สั่งบุฟเฟ่ต์ชาบูจากร้าน Mo-Mo-Paradise มานั่งกินให้หน่ำใจ จัดไปเต็มๆ มีงบไม่อั้นตั้ง 3.6 หมื่นล้านบาทแหนะ กินกันเปรมเลี้ยงคนเต็มสนามราชมังฯ ได้ถึง 1,208 สนามเลยละ
กินมาม่าโอ้โหหน้ารวม

ถ้าคุณคืออีกหนึ่งคนที่เคยรอคิวกินมาม่าโอโห หน้ารวมของร้าน เจ๊โอว ข้าวต้มเป็ด จนท้องกิ่ว ให้มายืนเกาะกลุ่มกับเราไว้ เพราะเราจะนำเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท จ้างเจ๊โอวให้ทำเมนูนั้นได้มากถึง 144,000,000 ชาม เลขศูนย์เยอะจนไม่อยากนับเลย เอาเป็นว่าตรงหน้าคุณคือ ทะเลสาบมาม่าเจ๊โอวเรียบร้อยแล้ว อิอิ

กินมาการองจิบชา

สมมุติถ้าเรานำงบประมาณจากภาษีประชาชนก้อนนั้น มาจัดทำเป็นงบให้คู่รักใหม่ปลามัน ไปสวีทกันแบบเต็มที่โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ คุณจะได้เห็นคู่รักมากถึง 300,000 คู่ไปนอนจิบชากินมาการอง พร้อมนอนห้องสวีทแพงที่สุดของโรงแรมเป็นเวลาสามวันสองคืน แค่คิดก็อยากให้เป็นจริงๆ เลยละ ว่าแต่ขอหาคู่ก่อนนะ ใครว่างยกมือขึ้นหน่อยสิ อิอิ

เห็นไหมว่าเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท ทำอะไรได้มากกว่าที่เราคิดไว้มาก แล้วถ้าคุณมีเงินเยอะขนาดนั้น คุณจะทำอะไรบ้าง ลองแชร์ให้ Wongnai.com อ่านกันหน่อยสิ แหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ (กสส.) นำเสนอโครงการขอการอุดหนุนงบประมาณให้สหกรณ์ เพื่อขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาล 5 โครงการ ภายใต้งบประมาณ 621 ล้านบาท เน้นเรื่องการสร้างรายได้และลดรายจ่ายเกษตรกร ประกอบด้วย 1.โครงการสนับสนุนเครื่องสับมันสำปะหลัง (แปลงใหญ่) เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับเกษตรกร 2.โครงการสนับสนุนการสร้างปัจจัยพื้นฐานรวบรวมและจัดเก็บข้าวเปลือกคุณภาพ (ธนาคารสินค้าเกษตร) 3.โครงการพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรในสหกรณ์

4.โครงการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ในสถาบันเกษตรกรในพื้นที่นิคมสหกรณ์ 5.โครงการส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพในสถาบันเกษตรกรในพื้นที่นิคมสหกรณ์ ซึ่งทั้ง 5 โครงการ น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯได้ตั้งข้อสังเกตเรื่องการส่งเสริมการใช้ปุ๋ยที่อยู่ภายใต้กรมส่งเสริมการเกษตร ที่มีหน่วยงานรับผิดชอบหลักอยู่แล้ว การเสนอขอรับงบประมาณอาจไม่ได้รับการพิจารณา ดังนั้นโครงการปุ๋ยต้องทำในรูปแบบการบริหารจัดการให้แก่สหกรณ์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ชาวเน็ตจีนผู้ใช้งานไมโครบล็อกเวยป๋อ เว็บไซต์เครือข่ายสังคมยอดนิยมของจีนต่างเสนอตัวขอเป็นอาสาสมัครช่วยแก้ปัญหาวิกฤตหอยนางรมในเดนมาร์ก

ข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา สถานทูตเดนมาร์กในจีนได้โพสต์ข้อความผ่านบัญชีเวยป๋ออย่างเป็นทางการของทางสถานทูต เล่าถึงปัญหาหอยนางรมแปซิฟิกจากเอเชียที่เป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์แปลกปลอมซึ่งถูกนำเข้ามายังเดนมาร์กเมื่อราว 1 ทศวรรษที่แล้วกำลังแพร่ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จนมีจำนวนมากกว่าสายพันธุ์ท้องถิ่นถึงขั้นเป็นภัยอันตรายต่อและสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ

โดยสถานทูตเดนมาร์กประจำกรุงปักกิ่งได้โพสต์ข้อความทีเล่นทีจริงขอคำแนะนำถึงวิธีแก้ปัญหาจากชาวเน็ตจีนด้วย

ข่าวระบุว่า คำแนะนำถึงวิธีการแก้ปัญหาหลากหลายรูปแบบของชาวเน็ตจีนสร้างความประหลาดใจให้สถานทูตเดนมาร์กเป็นอย่างมาก โดยล่าสุดมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากกว่า 14,000 ข้อความ บางรายแนะนำให้ขอความช่วยเหลือจากบริษัทจีนในการนำเข้าหอยนางรมเหล่านี้มาจากเดนมาร์ก ขณะที่บางส่วนระบุให้ออกวีซ่าชนิดพิเศษแบบเข้าประเทศได้หลายครั้ง ระยะเวลา 10 ปีและจัดทัวร์ให้ชาวจีนเดินทางไปนำหอยนางรมเหล่านี้กลับมา

รายงานข่าวระบุว่า สถานทูตได้ปฏิเสธคำขอของนักกินอาหารชาวจีนรายหนึ่งที่ขอให้เขาเดินทางไปยังเดนมาร์กโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยเขาให้สัญญาว่าจะจัดการกินหอยนางรมเหล่านี้ให้หมดเกลี้ยงในระหว่างที่เขาอยู่ในเดนมาร์ก

อย่างไรก็ตาม สถานทูตเดนมาร์กในจีนให้สัญญาว่าจะส่งต่อคำแนะนำต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาพร้อมยอมรับว่า ทางสถานทูตไม่คิดว่าการกินหอยนางรมเหล่านี้ให้หมดไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง “ธรรมชาติแวดล้อมของเรา ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดิน ป่าไม้ แม่น้ำ ทะเลและอากาศ ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งสวย ๆ งาม ๆ เท่านั้น หากแต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของเราและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของเราไว้ให้ดีนี้ ก็เท่ากับเป็นการปกปักรักษาอนาคตไว้ให้ลูกหลานของเราด้วย”

พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานในการเสด็จออกมหาสมาคมฯ ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2521 ประโยคที่ทำให้การเดินป่าศึกษาเส้นทางธรรมชาติที่อุทยานเขาใหญ่ในครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพียงการมาเดินเล่นๆ ชมธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังจุดประกายให้มองเห็นคุณค่า ความสำคัญและความยิ่งใหญ่ของผืนป่าตะวันออกอันกว้างใหญ่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วย อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทับลาน ปางสีดา ตาพระยา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ กินเนื้อที่ประมาณ 3.8 ล้านไร่ ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของจังหวัดสระบุรี, นครนายก, นครราชสีมา, ปราจีนบุรี, สระแก้วและบุรีรัมย์ ได้รับการประกาศให้เป็น “มรดกโลกทางธรรมชาติ” จากองค์การยูเนสโกเมื่อปี พ.ศ. 2548 ภายใต้ชื่อกลุ่ม “ดงพญาเย็น-เขาใหญ่”

ผืนป่ากลุ่ม “ดงพญาเย็น-เขาใหญ่” ได้รับการประกาศให้เป็น “มรดกโลกทางธรรมชาติ” เพราะมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง มีสภาพป่าแบบต่างๆ ตั้งแต่ ป่าดงดิบ ป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ และทุ่งหญ้า นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งกักเก็บน้ำ และเป็นต้นน้ำลำธารสำคัญๆ ทั้งแม่น้ำนครนายก, แม่น้ำปราจีนบุรี, ลำตะคอง, ห้วยมวกเหล็ก, และแม่น้ำมูลซึ่งไหลลงสู่แม่น้ำโขง รวมถึงเป็นแหล่งพบสัตว์ป่าหายาก เช่น เสือโคร่ง ซึ่งปัจจุบันเสือโคร่งในธรรมชาติทั่วโลกมีอยู่ไม่ถึง 4,000 ตัว

อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางสำนักอุทยานแห่งชาติเพิ่งมีการแถลงข่าวว่า ตรวจพบเสือโคร่งในธรรมชาติบริเวณป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ จากกล้องดักถ่ายภาพสัตว์เป็นจำนวนถึง 18 ตัว ถือเป็นข่าวดีในรอบ 15 ปีทีเดียว ส่วนหนึ่งเชื่อว่าเป็นเพราะการลาดตระเวนที่มีคุณภาพนั่นเอง และสำหรับที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก็ยังมีสัตว์ป่ามากมายทั้ง ช้างป่า ชะนี กวาง หมาใน จระเข้ ลิง นกเงือก เป็นต้น

ต้องขอบคุณ “ผู้พิทักษ์ป่า” ซึ่งภารกิจส่วนหนึ่งคือ การเดินป่าลาดตระเวนป่าเพื่อปกป้องผืนป่าและสัตว์ป่า โดยเดินลาดตระเวนครั้งละ 3-7 วัน แบกเป้ที่มีน้ำหนักหลายสิบกิโล ทั้งน้ำดื่ม ข้าวสารอาหารแห้งสำหรับยังชีพ เปลสนาม เสื้อผ้า1-2 ชุด ตลอดจนยารักษาโรค เดินกันไม่น้อยกว่าวันละ 10 กิโลเมตร

ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ทุกครั้งที่ก้าวขาเข้าไปในป่ามันคือความเสี่ยง บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด จึงขออาสาเป็นส่วนเล็กๆ ในการดูแลสุขภาพของคนที่ดูแลผืนป่าบ้าง ผ่านโครงการดีๆที่ไบโอฟาร์มสานต่อมาอย่างต่อเนื่องทุกปี นั่นคือ โครงการ “ตู้ยา BIOPHARM เพื่อชุมชน” ด้วยการเข้าไปเยี่ยมเยียนและมอบตู้ยาพร้อมเวชภัณฑ์เบื้องต้นที่จำเป็นให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ใช้ยาดีมีคุณภาพทัดเทียมยาต้นแบบจากต่างประเทศ จำนวน 100 ตู้ ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 แล้ว

ปีนี้มอบให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่ดูแลพื้นที่ป่าตะวันออก รวม 5 ผืนป่าด้วยกัน นั่นคือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จำนวน 29 ตู้ และมอบให้กับอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากลุ่ม “ดงพญาเย็น-เขาใหญ่”อีก 4 ผืนป่ารวมทั้งสิ้น 76 ตู้ พร้อมทั้งชุมชนอื่นๆรอบอุทยานจนครบ 100 ตู้ และลงพื้นที่เพื่อเติมเวชภัณฑ์ให้กับตู้ยาเดิมในสองปีที่ผ่านมาด้วย นั่นคือในปีแรกที่ชุมชนปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และในปีที่สองที่อุทยานและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าของผืนป่าตะวันตก เช่น เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าสลักพระ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี อุทยานแห่งชาติพุเตย จ.สุพรรณบุรี และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง นอกจากจะมียาและชุดปฐมพยาบาลเพิ่มขึ้นเพื่อไว้ประจำห้องพยาบาลที่ทำการอุทยานฯ ในการดูแลนักท่องเที่ยวที่ประสบอุบัติเหตุ เช่น ลื่นล้มจากการขึ้นลงน้ำตก ฯลฯ

ครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า “ปัจจุบันการทำงานของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เป็นการทำงานแบบ National Park 4.0 เพื่อให้สอดคล้องกับยุค Thailand 4.0 โดยมีการพัฒนาคุณภาพและจำนวนของกล้อง CCTV แบบเดียวกับที่ดักสุ่มดูผู้ก่อการร้าย ซึ่งจะช่วยเฝ้าระวังภัยคุกคามทั้งการตัดไม้ทำลายป่า การล่าสัตว์ป่าได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงการลาดตระเวนแบบมีคุณภาพที่เรียกว่า Smart Patrol โดยใช้ GPS นำทาง เราจะรู้เลยว่าเจ้าหน้าที่ลาดตะเวนไปยังจุดไหนบ้าง มีแบบฟอร์มให้จดบันทึกว่าพบเจออะไรบ้าง รอยเท้าสัตว์ขนาดเท่าไหร่เพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์อายุและประเภทของสัตว์ป่า นอกจากจะช่วยตรวจตราการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้แล้ว ยังถือเป็นการดูแลความปลอดภัยให้เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนอีกด้วย หากภัยคุกคามอยู่ตรงจุดใด ไม่ว่าจะเป็นคนร้ายหรือการรวมกลุ่มของสัตว์ป่า ก็สามารถแจ้งเตือนและขอความช่วยเหลือได้ทันท่วงที ซึ่งน่าจะช่วยให้การดูแลผืนป่าของพวกเราทุกคนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”

“การดูแลผืนป่าเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีวันหยุด จะเพิกเฉยหรือละทิ้งไม่ได้แม้สักวันเดียว การที่มีคนมองเห็นถึงความสำคัญของหน้าที่ตรงนี้ ถือเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ ทำให้เขารู้สึกว่ากำลังปฏิบัติภารกิจที่ยิ่งใหญ่ เกิดความภาคภูมิใจและมีกำลังใจในการทำงานมากยิ่งขึ้น แต่แท้จริงแล้วคนที่ดูแลผืนป่าได้ดีที่สุดไม่ใช่เจ้าหน้าที่ แต่คือพวกเราทุกคน เพราะป่าคือแหล่งกำเนิดชีวิต คือลมหายใจของทุกคน และเป็นแหล่งผลิตความสุขให้พวกเรา

“ป่าคือของพวกเราทุกคน เราจึงควรรักป่า หวงแหนป่าและที่สำคัญควรช่วยกันอนุรักษ์ป่าและธรรมชาติ ถ้าคนรักษ์ป่า ป่าก็จะรักทุกคน เพราะถ้าคนปกป้องป่า ป่าก็จะปกป้องทุกคนเช่นกัน” นี่ประโยคทิ้งท้ายจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่สำหรับพวกเราทุกคน

วันที่ 28 เมษายน2560 เกษตรกรในพื้นที่ หมู่ที่4 ต.ไร่พัฒนา อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ออกมาตรวจสอบสภาพดินกลางทุ่งนา หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมามีฝนตกประมาณ1ชั่วโมง เพื่อเตรียมนำรถไถนาลงไถดะเตรียมดินปลูกข้าวในฤดูนาปี แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะปริมาณน้ำฝนไม่เพียงพอที่จะทำให้ดินเปียกพอที่จะไถพลิกดินได้ โดยนายมานพ นกคุ่ม ชาวนาในพื้นที่บอกว่า พื้นที่หมู่ที่4 ต.ไร่พัฒนาและหมู่บ้านข้างเคียง ไม่มีฝนตกมานานกว่า 3 เดือน ทำให้ไม่สามารถทำการเพาะปลูกพือะไรได้ เพราะอ้อยหรือข้าวโพดที่เป็นพืชทนแล้ง จะเอาไปปลูกในนาข้าวก็ไม่ค่อยได้ผลผลิตเพราะดินไม่เหมาะสม ทำให้ชาวนาในพื้นที่ต้องรอความหวังจากน้ำฝน ที่จะใช้ในการทำนาซึ่งแถบนี้เป็นพื้นที่นาดอน จะทำนาได้เพียงปีละ1ครั้งจากน้ำฝนเท่านั้น ซึ่งหลังจากนี้ชาวบ้านก็ได้แต่ภาวนาให้มีฝนตกลงมาเร็วๆพอที่จะได้เริ่มทำนาตามฤดูได้

พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเปิดการสัมมนานำเสนอผลงานวิจัย ภายใต้แผนงานวิจัยที่มุ่งเป้าตอบสนองความต้องการในการพัฒนาประเทศ กลุ่มเรื่องข้าว พร้อมบรรยายพิเศษ เรื่อง แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวอย่างครบวงจร ว่า การจัดงานดังกล่าวได้เชิญผู้ที่รับผิดชอบด้านงานวิจัย ผู้มีความรู้ประสบการณ์ในด้านเกษตรโดยเฉพาะในเรื่องของข้าว มาพูดคุยกันให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นในการร่วมมือกันปลูกข้าว และผลิตข้าวออกมาเพื่อใช้ประโยชน์ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ยา สมุนไพร หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ ซึ่งถือว่าการใช้งานวิจัยและนวัตกรรมที่ส่งผลต่อคุณภาพของข้าว ซึ่งประเทศไทยมีปริมาณการปลูกในประเทศจำนวนมาก และในอนาคตจะมีการเชิญผู้ประกอบการในการนำผลวิจัยไปผลิต ทำให้ผลผลิตมีราคาสูงขึ้น เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น และจะมีการจำหน่ายออกไปทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องของงานวิจัยที่ผ่านมามีการปฏิรูปงานวิจัยครั้งใหญ่ โดยมีการรวมงานวิจัยและนวัตกรรมเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ยังปฏิรูปในเรื่องของบุคลากร โดยการพัฒนาคน การพัฒนาในเรื่องของโครงการให้มีความต่อเนื่อง รวมถึงการแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีแผนดำเนินการในเรื่องการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร โดยขณะนี้ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันผลิตในรูปแบบแปลงใหญ่ เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกร ทั้งในเรื่องการลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในขั้นตอนการผลิตตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับข้าวไทยในตลาดโลก ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯ โดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.) ได้บริหารจัดการทุนวิจัย จนมีผลงานวิจัยที่ประสบผลสำเร็จทั้งในเชิงพาณิชย์ เชิงสาธารณะ และเชิงนโยบาย ในกรอบแนวทางของการแก้ไขปัญหาข้าวครบวงจร ด้าน “นำงานวิจัยและนวัตกรรมช่วยต่อเติมห่วงโซ่คุณค่า” จึงได้ให้ทุนสนับสนุนแก่นักวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรม พัฒนาสินค้าข้าวเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง ทั้งในกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพ โภชนเภสัช เวชภัณฑ์และเวชสำอาง

การจัดงานสัมมนาดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้ร่วมมือกับหน่วยงานให้ทุนวิจัย ภายใต้ชื่อ “เครือข่ายองค์กรบริหารงานวิจัยแห่งชาติ” หรือ คอบช. บริหารจัดการทุนอุดหนุนการวิจัยที่มุ่งเป้าตอบสนองความต้องการพัฒนาประเทศกลุ่มเรื่องข้าวอย่างต่อเนื่อง โดยมี สวก. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบบริหารทุนวิจัย เพื่อจัดสรรให้แก่โครงการวิจัยที่สามารถแก้ปัญหาเรื่องการผลิตและคุณภาพข้าวอย่างครบวงจร โดยในปีงบประมาณ 2555-2557 ได้จัดสรรทุนวิจัยให้แก่นักวิจัย รวมทั้งสิ้น 608 ล้านบาท จำนวน 192 โครงการ

วันที่ 30 เมษายน นายรุ่ง หิรัญวงษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เช้านี้จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน อุณหภูมิต่ำสุด 9.0 องศาเซลเซียส สูงสุด 22.5 องศาเซลเซียส อากาศเปิด พระอาทิตย์ขึ้น เมื่อเวลา 06.09 น. ส่วนอุณหภูมิบริเวณยอดดอยเช้านี้วัดได้ 10 องศาเซลเซียส สภาพอากาศเปิด มีนักท่องเที่ยวขึ้นมาสัมผัสความหนาวเย็นบ้างเล็กน้อย ไม่หนาแน่น

“ช่วงนี้ถือเป็นช่วงเวลาของการดูทะเลหมอกที่สวยงามมากในฤดูฝนของดอยอินทนนท์ เรียกว่าเริ่มฤดูกาลแล้ว ดอยอินทนนท์ขอต้อนรับความสดชื่นของป่าเมฆในช่วงฤดูฝน ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นช่วงเวลาแห่งความประทับใจอีกครั้งของแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม”

อย่างไรก็ตามนายรุ่งกล่าวอีกว่า ในระหว่างการเดินทางขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวัง เพราะเริ่มมีฝนตกลงโปรยปรายเป็นระยะ ถนนอาจลื่น และเป็นอันตรายหากขับรถด้วยความประมาท ขอให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับ เพื่อชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวเอง

ทั้งนี้ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือคาดการณ์ไว้ว่าในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ภาคเหนือตอนบนจะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว และในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูจะมีสภาพอากาศแปรปรวน จึงขอเตือนให้ประชาชนเตรียมการรับมือไว้ด้วย

ข่าวน่าตกใจสำหรับคนรู้จัก เกรท แบริเออร์ รีฟ (Great Berrier Reef) แนวประการังใหญ่และยาวที่สุดในโลก กว่า 2,000 กิโลเมตร นอกชายฝั่งตอนเหนือประเทศออสเตรเลีย โครงสร้างที่มีชีวิตเพียงสิ่งเดียวบนโลก ที่สามารถมองเห็นได้จากห้วงอวกาศ ซึ่งใช้เวลาเจริญเติบโตเป็นแนวประการังมหึมานานหลายแสนปี และมีระบบนิเวศอันสลับซับซ้อนมากที่สุด

แนวประการังซึ่งกินพื้นที่กว่า 345,000 ตารางกิโลเมตร เป็นแนวประการังเหนือ แนวหมู่เกาะวิทซันเดย์ แนวประการังใต้ ซึ่งมีทั้งชนิดอ่อนและชนิดแข็ง มีสีสันงดงามกว่า 350 ประเภท กับสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลอีกกว่า 1,500 ชนิด เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านวิวัฒนาการดึกดำบรรพ์ ธรณีวิทยา ทั้งสัตว์และพันธุ์พืชหายากที่ยังสามารถดำรงชีวิตอยู่ ฯลฯ

ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นที่รับรู้แพร่หลายขึ้นจากสื่อยุคใหม่หลังสงครามโลกมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ

และเป็นแหล่งศึกษาทางชีววิทยาด้านต่างๆที่ยังไม่จบสิ้น แต่บัดนี้ – ตายอย่างแน่นอนเป็นทางการแล้ว

จากข่าวมติชน ออนไลน์ ฟาเบียง คอสติเยอร์ นักสำรวจใต้น้ำและนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผู้ก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้มหาสมุทร ยืนยันว่ามรดกโลกอันยิ่งใหญ่มหัศจรรย์แห่งนี้ อยู่ในระยะสุดท้ายของชีวิตแล้วอย่างแท้จริง หลังเกิดอาการฟอกขาว ขนานใหญ่ ตกในสภาพเกินเยียวยา

คอสติเยอร์คิดว่าแนวประการังยักษ์นี้จะมีอายุยืดไปได้อีกสัก 30 ปี แต่สภาวะโลกร้อนซึ่งทำให้อุณหภูมิน้ำในมหาสมุทรสูงเกินกว่าประการังจะอยู่รอดได้ ทำลายชีวิตเหล่านั้นลงรวดเร็วกว่า

ซูแซนเทลลี สิ่งมีชีวิตซึ่งอาศัยในเนื้อประการัง และเป็นตัวทำให้ประการังมีสีสันงามพิศดารนานา ใช้ประการังเป็นที่อยู่และเจริญเติบโต แต่เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น บรรดาสิ่งมีชีวิตเล็กละเอียดนั้นจึงต้องดีดตัวออกจากประการัง ส่งผลให้เหลือเพียงสีซีดขาวดังกล่าวแต่ต้น กลายเป็นอาการฟอกขาวสิ้นชีวิตลงในที่สุด

โดยปกติแล้ว ธรรมชาติก็คือปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ในตัวเอง การปรับตัวก็เป็นหลักการอยู่รอดของธรรมชาติที่สำคัญ เมื่อสิ่งหนึ่งขาดหายไป วันหน้าก็อาจมีสิ่งอื่นเข้ามาแทนที่ช่องว่างนั้นๆ ซึ่งแน่นอนว่าย่อมมิใช่สภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย และแน่นอนอีกว่า ย่อมหาความสลับซับซ้อนเช่นที่เคยมีในเบื้องแรกๆไม่ได้

แนวประการังล่มสลาย demconwatchblog.com จะมีสักกี่คนในประชากรโลก 7,000 ล้านคนกังวล ห่วงใยสภาวะแวดล้อมของโลกที่รุมกันอยู่อาศัยใบนี้ จนสามารถร่วมกันคิดชะลอความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อพลโลกที่เป็นลูกหลานรุ่นต่อๆไปได้ นอกจากปากกัดตีบถีบทำมาหากินกันสุดฤทธิ์ต่อไป ให้นายอุตสาหกรรมที่ทั้งผลิตขายทำกำไรและบริโภคทรัพยากรอย่างหนักไปพร้อมกัน เบียดเบียนโลกไปเรื่อยๆ

ในนามของบริกรผู้บริการความสะดวกสบายแก่คนทั้งหลาย

ก็ไม่ถึงกับคิดไปจุดเทียนไขดำเนินชีวิต แต่จะหยุดกับที่หรือชวนกันถอยหลังสักก้าวได้อย่างไร กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 30 เมษายน 2560 ดังนี้

ลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนองลดลง แต่ยังมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองได้ในระยะนี้ ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนองลดลง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย กำแพงเพชร และตาก

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์

ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี

นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา

ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่

ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี

นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่