อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวต่อว่าการเลี้ยงดูที่ทำให้เด็กมีพฤติกรรม

ก้าวร้าวมีได้แก่ 1. เลี้ยงแบบทอดทิ้งไม่เอาใจใส่ดูแล 2. ใช้วิธีลงโทษเด็กรุนแรง 3. เลี้ยงแบบตามใจเด็ก เพราะกลัวเด็กไม่รัก 4. ครอบครัวมีการทะเลาะวิวาท ด่าทอ ตบตีกันให้เด็กเห็นบ่อยๆ 5. ชอบแหย่เด็กหรือยั่วยุอารมณ์ให้เด็กโมโห 6. การเลี้ยงดูเด็กที่ขาดการจัดระเบียบวินัยความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน และ 7. การให้ท้ายเด็กเมื่อทำผิด ทำให้เด็กคิดว่าเรื่องผิดเป็นเรื่องถูกต้อง

พญ. กุสุมาวดี คำเกลี้ยง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่าพฤติกรรมก้าวร้าวเช่นการโต้เถียงผู้ใหญ่พบในเด็กทั่วไปได้ เมื่อโตขึ้นพฤติกรรมจะลดลงเรื่อยๆ แต่หากเด็กมีพฤติกรรมดังต่อไปนี้จะเข้าข่ายว่ามีพฤติกรรมเกเรก้าวร้าวรุนแรง ได้แก่ ทำร้ายคนอื่น ทำลายทรัพย์สิน ทำร้ายหรือทรมานสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ฉ้อโกงหรือขโมย ละเมิดกฎอย่างรุนแรง เช่น หนีออกจากบ้าน หนีโรงเรียน ซึ่งในเด็กผู้ชายมักเป็นในช่วงอายุ 10-12 ปี ผู้หญิงจะเป็นในช่วงอายุ 14-16 ปี การแก้ไขและป้องกันปัญหาเด็กก้าวร้าวจะต้องเริ่มตั้งแต่ในวัยเด็ก

มีข้อแนะนำ อาทิ ผู้ใหญ่ควรควบคุมให้เด็กหยุดความก้าวร้าวด้วยความสงบ เช่น ใช้การกอดหรือจับให้เด็กหยุด หลังจากที่เด็กอารมณ์สงบแล้ว ควรพูดคุยถึงสาเหตุที่ทำให้เด็กไม่พอใจจนแสดงความก้าวร้าวั้เพื่อให้เด็กได้ระบายออกเป็นคำพูด ต้องไม่ใช้ความรุนแรงเข้าไปเสริมั้การลงโทษอย่างรุนแรงในเด็กที่ก้าวร้าวไม่ช่วยให้ความก้าวร้าวดีขึ้น เด็กอาจหยุดพฤติกรรมชั่วครู่ แต่สุดท้ายก็จะกลับมาแสดงพฤติกรรมนั้นอีก อาจเรื้อรังไปจนโตเป็นผู้ใหญ่ได้ และไม่ควรมีข้อต่อรองกันขณะเด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าว

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ที่ลานอเนกประสงค์ ห้างวีเวียงไลฟ์สไตล์มอลล์ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ส่งมอบสับปะรดน้ำหนักกว่า 5 ตัน ที่ปลูกในพื้นที่ อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ให้กับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่ได้สั่งซื้อไว้กับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดหนองคายและหอการค้าจังหวัดหนองคาย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด ซึ่งช่วงนี้มีผลผลิตทั้งในจังหวัดและจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศออกมาสู่ท้องตลาดเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาสับปะรดตกต่ำ ซึ่งจังหวัดหนองคายถือเป็นแหล่งผลิตสับปะรดมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่ปลูกที่ลงทะเบียนไว้มากถึง 10,400 ไร่ สร้างรายได้ให้เกษตรกรมากกว่า 780 ครัวเรือน คิดเป็นมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท/ปี

ส่วนที่บริเวณหน้ากองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 29 ค่ายกฤษณ์สีวะรา อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร พล.ต. สุขพัฒน์สณฑ์ สุขสร้อย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 29 รับมอบสับปะรดจากเกษตรกร ในโครงการ “ไทยช่วยไทยเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาราคาสับปะรดตกต่ำ” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร พร้อมแจกจ่ายให้กับกำลังพล และหน่วยทหารในพื้นที่ 6 หน่วย ประกอบด้วย มณฑลทหารบกที่ 29, หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 29, โรงพยาบาลค่ายกฤษณ์สีวะรา, กรมทหารราบที่ 3, กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 3 และตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 23 จำนวน 3.5 ตัน

ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายวันชัย นิลวงศ์ เกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากทุกภาคส่วนระดมกำลังช่วยรับซื้อผลผลิตสับปะรดของเกษตรกร ซึ่งมีพื้นที่ปลูกมากที่สุดในประเทศ ทำให้ขณะนี้สามารถระบายผลผลิตส่วนเกินออกจากตลาดได้แล้วกว่า 3,000 ตัน จากทั้งหมด 22,000 ตัน พร้อมประสานขอความร่วมมือไปยังโรงงานแปรรูปสับปะรด ช่วยรับซื้อวัตถุดิบจากเกษตรกรในพื้นที่ แทนการสั่งซื้อจากจังหวัดอื่นเพื่อระบายผลผลิตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายนนี้ที่จะมีผลผลิตจำนวนมาก

One Earth, One Family โลกใบเดียวครอบครัวเดียวกัน

คำขวัญวันสิ่งแวดล้อมโลก พ.ศ. 2537 (1994)

Forests : Nature at your Service ป่าไม้มีคุณเกื้อหนุนสรรพชีวิต คิดถนอมรักษา คำขวัญวันสิ่งแวดล้อมโลก พ.ศ. 2554 (2011)

เป็นตัวอย่างคำขวัญวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งมีเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2528 ต่อเนื่องถึง พ.ศ. 2560 (2017) Connecting People To Nature : I’m With Nature ชีวิตฉันผูกพันกับธรรมชาติ

ในแต่ละปีความหมายของคำขวัญจะเกี่ยวข้องกับชีวิตทั้งผู้คนและธรรมชาติ สภาวะแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นกับโลกทั้งปัจจุบันและอนาคต จึงได้หยิบยกคำขวัญในส่วนที่กล่าวถึงต้นไม้ ป่าไม้ ซึ่งมีผลกับสิ่งมีชีวิตบนพื้นโลก รวมถึงระบบนิเวศ ดังเช่นคำขวัญวันสิ่งแวดล้อมโลก ปี พ.ศ. 2542 (1999) ที่กล่าวไว้ว่า

“Our Earth, Our Future Just Save it” รักโลก รักอนาคต รักษ์สิ่งแวดล้อม

วันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งสหประชาชาติร่วมกับรัฐบาลประเทศสวีเดน ได้จัดการประชุมที่เรียกว่า “การประชุมสหประชาชาติเรื่องสิ่งแวดล้อมของมนุษย์” วันที่ 5-16 มิถุนายน พ.ศ. 2515 ที่กรุงสต๊อกโฮม ประเทศสวีเดน จัดทำร่างข้อเสนอแผนดำเนินการว่าด้วยสิ่งแวดล้อมของมนุษย์ มีผู้เข้าร่วมครั้งแรกที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ได้หันหน้าเข้าหากันเพื่อร่วมขจัดภยันตรายด้านสิ่งแวดล้อมที่กำลังคุกคาม

สิ่งแวดล้อมหมายถึง ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวมนุษย์ ทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิต มีการเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และที่มนุษย์สร้างขึ้น ทั้งสิ่งที่ให้คุณและโทษ ซึ่งสิ่งแวดล้อมเป็นวงจรและวัฏจักรที่เกี่ยวข้องกันทุกระบบ

ประเทศไทยได้ตราพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมและได้ก่อตั้งสำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย อันทำให้เกิดคุณประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ เพราะเมื่อใดที่สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปย่อมส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของมนุษย์ รวมถึงการดำรงชีวิตของพืชและสัตว์ สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น ป่าไม้ ภูเขา ดิน น้ำ อากาศ ทรัพยากรต่างๆ ส่วนสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น ชุมชนเมือง สิ่งก่อสร้างโบราณสถาน ศิลปกรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรม ทุกอย่างแม้จะมีคุณสมบัติเฉพาะตัว มีเอกลักษณ์เฉพาะก็ไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว มีความสัมพันธ์ร่วมกันและเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา ซึ่งการอยู่รวมกลุ่มนี้เรียกว่า ระบบนิเวศ

นิเวศวิทยา เป็นการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่มีต่อกันระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม สำหรับระบบนิเวศเป็นความสลับซับซ้อนของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ร่วมกับกระทำต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นระหว่างสิ่งมีชีวิตด้วยกันหรือกับสิ่งไม่มีชีวิตในพื้นที่

ป่าไม้เป็นส่วนหนึ่งในสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นได้ทั้งธรรมชาติและปลูกสร้างขึ้นมาเพื่อการดำรงรักษาให้ระบบนิเวศเสริมส่งธรรมชาติให้สมบูรณ์ยั่งยืนได้ ป่าไม้คือของขวัญล้ำค่าที่ได้จากธรรมชาติ เป็นที่มาของปัจจัย 4 และเป็น 1 ในปัจจัย 4 สำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์โลก จึงเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญยิ่งต่อการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เป็นส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตเรา เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ตอบสนองต่อการดำรงชีวิตได้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่อดีตกาล มีการกล่าวว่า ป่าไม้เป็นเสมือนต้นทุนของสินทรัพย์ สามารถแปรสภาพเป็นเงินตรา สร้างความมั่นคงสำหรับสิ่งอื่นๆ ได้อย่างต่อเนื่อง สินค้าจากป่าไม้ ของป่า ไม้ซุง รวมถึงสัตว์ป่า เคยเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญในประวัติศาสตร์ไทย สร้างความมั่นคั่งในดินแดนแห่งนี้มาแล้ว

สินทรัพย์จากสิ่งแวดล้อม จากธรรมชาติ ในส่วนที่ได้จากผืนป่า จากป่าไม้ คือชีวิตของสิ่งมีชีวิตรวมทั้งชีวิตมนุษย์ ที่ได้รับซึ่งไม่อาจจะบรรยายได้ หากจะเปรียบความมหาศาลมากมายของคุณค่าหรือบทบาทความสำคัญของประโยชน์จากป่าไม้ น่าจะเป็นดั่งใบไม้ในป่ารวมกันก็มิปาน ดังบทกวีป่าไม้ของ คุณสืบ นาคะเสถียร เขียนไว้ตอนหนึ่งว่า

ความตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมโดยการจัดงานในวันสิ่งแวดล้อม อาจจะสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนเยาวชนเกิดความคิด และเห็นคุณค่าของสิ่งแวดล้อม รวมทั้งทำความเข้าใจ และร่วมมือทำกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่มีคุณค่าของประเทศเราไว้ให้ยั่งยืน อย่างน้อยที่สุดหากทุกคนจะตระหนักถึงคำว่า “โลกสวยด้วยมือเรา” และปฏิบัติดังคำกล่าวก็คงจะได้ช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมโลกได้

กิจกรรมการปลูกต้นไม้ เป็นการลดอัตราการเกิดคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีอยู่อย่างหนาแน่นในบรรยากาศ นำสู่การทำลายสภาพโอโซน และก่อให้เกิดการสะสมความร้อนเกิดภาวะโลกร้อน ป่าไม้ช่วยลดได้รวมทั้งกิจกรรมการแยกขยะ การแยกทิ้งเศษกระดาษ เศษแก้ว โลหะ อะลูมิเนียม ให้สามารถนำไปผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ง่ายและรวดเร็ว ลดการใช้พลังงานที่ก่อให้เกิดความร้อนในบรรยากาศ ปลูกป่าคลุมพื้นที่ว่างดูดซับอากาศเสีย

ทุกชีวิตต้องอาศัยสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยในการดำเนินชีวิตทั้งมนุษย์ พืช สัตว์ การสร้างความตื่นตัวในการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งทุกชีวิตจำเป็นต้องพึ่งพา ด้วยการให้เผยแพร่ข้อมูลแก่เยาวชนและประชาชนทั่วไปให้ทราบถึงปัญหาและผลกระทบของสิ่งที่มนุษย์ทำกับสิ่งแวดล้อม คิดค้นสร้างขึ้นเพื่อความสะดวกสบาย โลกจึงเกิดภาวะสะสมความร้อน เกิดภัยพิบัติมากมาย ดังนั้น จึงควรจะถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะร่วมด้วยช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมอย่างจริงจัง เพื่อเก็บรักษาทรัพยากรธรรมชาติในสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ยั่งยืน หน่วยงานเกี่ยวข้องควรเผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนทางวิชาการเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี รวมถึงสร้างเสริมให้สถาบันด้านสิ่งแวดล้อมตระหนักถึงปัญหาที่จะให้เกิดความร่วมมือกันแก้ปัญหาอันเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ที่ทำให้เกิดผลเสียนำสู่การทำลายสิ่งแวดล้อม

จิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของทุกคนที่พึงปฏิบัติ การสร้างทัศนคติในการอนุรักษ์ทรัพยากร รวมถึงการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ควรจะนำมาร่วมรณรงค์ให้เกิดการเรียนรู้ และรักที่จะประหยัดทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดร่วมมือกัน ร่วมใจอย่างจริงจังที่จะรักษาสภาพแวดล้อมให้ดีต่อไปในอนาคต สามารถพัฒนาคุณภาพประชาชนซึ่งสามารถทำได้ทุกเพศทุกวัยทุกระดับอายุ ทั้งในระบบการศึกษาในโรงเรียน และสถาบันการศึกษาทุกระดับ ทั้งในและนอกระบบ โดยการสื่อสารด้วยช่องทางต่างๆ ตามความเหมาะสม ซึ่งก็ได้เห็นจากการจัดตั้งกลุ่มต่างๆ ชมรม ชมนุม สมาคมเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การร่วมกันรวมพลังการพลังความคิดของกลุ่มนักเรียน นักศึกษา มูลนิธิต่างๆ ถือเป็นความโชคดีของสภาวะ การคงอยู่และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของประเทศไทยเราที่จะเห็นโลกสีเขียว ดังคำขวัญวันสิ่งแวดล้อมโลก ปี พ.ศ. 2548 (2008) GREEN CITIES PLAN FOR THE PLANET เมืองเขียวสดใสร่วมใจวางแผนเพื่อโลก

ประเทศไทยได้ก่อตั้งสำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 อันเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการดำเนินการด้านรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีที่มาจากผลการประชุมรัฐบาลในประเทศต่างๆ ได้รับข้อตกลงจากการประชุมมาดำเนินการจัดตั้ง โดยให้มีหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นในประเทศของตน สำหรับประเทศไทยรัฐบาลก็ได้ตราพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม ดังที่กล่าวมาโดยในปี พ.ศ. 2535 ได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของสำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมออกเป็น 3 หน่วยงาน ได้แก่

กองควบคุมมลพิษกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบัน ในส่วนของสถาบันการศึกษาระดับต่างๆ ได้มีการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรด้านสิ่งแวดล้อมในหลายๆ มหาวิทยาลัย ซึ่งถือเป็นความตระหนักและเป็นก้าวสำคัญของการตื่นตัวในด้านสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีสื่อมวลชนที่ได้ส่งเสริมให้เกิดการตื่นตัวในการดูแลระวังรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดย “นักข่าวชาวบ้าน” นี่แหละที่เป็นหูตาร่วม “สื่อและส่ง” ข่าวทางออนไลน์ เป็นการ “ป้องปราม” ผู้ที่จะกระทำการอันเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมได้อย่างดี

พฤกษาป่าไม้ ต้นไม้ หลายหลากคือ สิ่งแวดล้อมที่หลากหลายทางชีวภาพ สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เช่น ป่าไม้ สัตว์ป่า น้ำ ดิน หิน แร่ธาตุ อากาศ มนุษย์ และสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น เหล่านี้เมื่อมีความสัมพันธ์ สัมผัสความร่วมสร้างและทำลายต่อกันได้โดยธรรมชาติ สิ่งเหล่านี้คือทรัพยากรที่มีลักษณะทั้งทางกายภาพ ชีวภาพ และสังคมที่รอบตัวมนุษย์ ทั้งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติและมนุษย์สร้างขึ้น จัดได้ว่าเป็นสิ่งที่เป็นทั้งรูปธรรมและนามธรรม เกิดได้ทั้งคุณและโทษ

กลุ่มสิ่งแวดล้อมทางชีวภาพ (Biotic environment) หมายถึงสิ่งแวดล้อมที่มีชีวิต เช่น ต้นไม้ ป่าไม้ และสัตว์ สิ่งเหล่านี้มีกลไกควบคุมการเกิด อาจจะเป็นหรือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ก็ไม่อยู่โดดเดี่ยวในธรรมชาติ เช่น ต้นไม้กับดิน ปลากับน้ำ หากขาดการพึ่งพาสมดุลซึ่งกันและกันก็อาจสูญสลายได้ และสิ่งแวดล้อมที่จะอยู่กันเป็นกลุ่มสรรพชีวิตสิ่งแวดล้อมนี้ เรียกว่า ระบบนิเวศ หรือระบบสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีองค์ประกอบอยู่ร่วมกันหลายชนิด เกี่ยวเนื่องและสัมพันธ์กันเป็น “ห่วงโซ่” ที่เราเคยได้ยินคำว่าห่วงโซ่อาหาร ดังนั้น เมื่อทำลายสิ่งหนึ่งก็ย่อมกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การตัดไม้ทำลายป่า จะส่งผลกระทบเกิดการพังทลายของดิน เกิดอุทกภัย การสูญเสียความอุดมสมบูรณ์ของดิน กระทบถึงความเป็นอยู่ของสัตว์ป่าและกลไกควบคุมระบบสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นผลเสียถึงมนุษย์โลกได้

การศึกษาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม จำเป็นต้องตีความสิ่งแวดล้อมเป็น “จำนวน” ให้ได้ดังข้อเขียนในหนังสือ “สิ่งแวดล้อมเทคโนโลยีและชีวิต” พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2543 เรียบเรียงโดยคณะกรรมการวิชาสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีและชีวิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จำเป็นต้องพิจารณาสิ่งแวดล้อมให้เป็นมิติ (Dimension) ครอบคลุมทั้ง 4 มิติ คือ มิติทรัพยากร มิติเทคโนโลยี มิติของเสียและมลพิษสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมิติเศรษฐ-สังคม/มิติมนุษย์ ซึ่งแต่ละอย่างมีคุณสมบัติเฉพาะตัวและอยู่ร่วมกันเป็นระบบนิเวศ มีสภาพสมดุลธรรมชาติ โดยเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ธรรมชาติ ถ้าหากมนุษย์ไปรบกวนเปลี่ยนสภาพ ระบบนิเวศก็เปลี่ยนไป

5 มิถุนายน ของทุกปี วันสิ่งแวดล้อมโลก น้ำใจที่จะร่วมมือกันของแต่ละคน หากรวมกันอย่างสมดุล สอดคล้องสัมพันธ์ดังระบบนิเวศแล้ว อนุรักษ์จิตสำนึกที่ดี ก็จะกลายเป็นสิ่งแวดล้อมที่หลากหลายทั้งแผ่นดิน เราก็จะมีสินทรัพย์ของชาติยั่งยืนตลอดไป

มีคำประกอบบทเพลงกำกับไว้ว่า “คุณค่าของสิ่งแวดล้อมขึ้นอยู่กับปริมาณของความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้อง” เนื้อเพลงสั้นๆ แต่ให้ความหมายตรงตัวสมบูรณ์ยั่งยืน เพื่อจะให้ชีวิตสัมพันธ์กับธรรมชาติที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดี

บทเพลงรณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมีมากมาย ทุกระดับทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป รวมทั้งบันเทิงประกอบละครก็น่าสนใจ หากจะเริ่มต้นร่วมกิจกรรมวันสิ่งแวดล้อมโลก เพียงแต่สร้างพฤกษารอบกาย ปลูกต้นไม้คนละต้น คุณภาพชีวิตเราก็จะมีมิตรไมตรี คือมีสิ่งแวดล้อมที่ดีนั่นเอง

“ชาเขียว” เปรียบเสมือนเครื่องดื่มที่สื่อถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น ยิ่ง “ชาเขียวญี่ปุ่นพร้อมดื่ม” คุณภาพระดับพรีเมี่ยมด้วยแล้ว ยิ่งต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์ของการปลูกชาและการคิดค้นสูตรที่เหมาะสมที่สุด

คุณโอตะ มาซาตากะ ปราชญ์ชาวบ้าน วัย 75 ปี เจ้าของไร่ชา Kaneda Otaen ในจังหวัดชิซึโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ผู้อยู่เบื้องหลังความลุ่มลึกของ “ชา” ที่มีต่อวิถีชีวิตของคนในจังหวัดนี้ และชาจากที่นี่ ยังเคยได้รับเลือกให้ถวายต่อสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ รวมถึงกลุ่มผู้นำประเทศในการประชุม G 7 ที่ประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว

“ลุงอยากแสดงให้เห็นว่าใบชาคุณภาพดีสามารถทำเครื่องดื่มคุณภาพดีได้ไม่แพ้ไวน์ราคาแพง เพราะในแต่ละปีทางไร่จะผลิตใบชาสดได้ทั้งหมด 30 กิโลกรัม เมื่อนำไปผ่านกระบวนการทำให้แห้งแล้วจะเหลือเพียง 3 กิโลกรัมเท่านั้น หลังจากนั้นใบชาทั้งหมดจะส่งเข้าการประมูล เพื่อนำไปผลิตเป็นชาเขียวชั้นเลิศ ซึ่งมีราคาสูงถึงขวดละ 300,000 เยน หรือประมาณ 100,000 บาท คุณลุงโอตะ เล่าว่า “การทำชาที่ดีจะต้องมีดินที่อุดมสมบูรณ์ แหล่งน้ำในการทำเกษตรกรรมที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ ภูมิอากาศที่เอื้ออำนวย และการดูแลต้นชาที่ดี ด้วยความที่ชิซึโอกะเป็นพื้นที่ที่มีสิ่งเหล่านี้ครบ จึงทำให้ชาชิซึโอกะมีกลิ่นหอม รสชาติดี และคุณภาพสูงกว่าที่อื่น”

สิ่งสำคัญที่ทำให้ชาจากไร่ Kaneda Otaen ในจังหวัดชิซึโอกะ มีราคาแพงกว่าใคร เป็นเพราะคุณลุงโอตะ ใส่ใจเลี้ยงดูต้นชาเหมือนลูก โดยคุณลุงโอตะ เผยว่า “เวลาอากาศหนาว ต้นชาก็ต้องการพักผ่อนอยู่นิ่งๆ เหมือนคน ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกหนาว ต้องห่มผ้าให้ลูกอยู่เสมอ ลุงก็ห่มผ้าให้ต้นชาเหมือนกัน” วิธีการห่มผ้าในไร่ชาของคุณโอตะ คือ การนำตาข่ายเนื้อหนาไปคลุมต้นชาก่อนเก็บ 1 สัปดาห์ ตาข่ายเนื้อหนานี้นอกจากจะปกป้องต้นชาจากความหนาวแล้ว ยังช่วยยับยั้งปฏิกิริยายามที่ใบชาต้องแสงแดดเพื่อให้ชาที่ได้จากการเก็บเกี่ยวคงรสชาติที่ดีที่สุดไว้

ธนาคารออมสิน ถือกำเนิดโดยพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่ทรงตระหนักถึงความสำคัญของการเก็บรักษาทรัพย์ให้ปลอดภัยจากโจรผู้ร้าย เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2456 ธนาคารออมสิน มากกว่าการธนาคาร ธนาคารเพื่อสังคม คือหนึ่งในพันธมิตรสำคัญที่สนับสนุนกิจกรรมและโครงการต่างๆ ของ ศูนย์ “หนึ่งใจ…ช่วยเหลือเกษตรกร” มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ ด้วยดีตลอดมา เพื่อร่วมกันสืบสานการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข น้อมนำตามแนวพระราชดำริหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ประชาชนชาวไทยได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

และการดำเนินกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสาธารณประโยชน์ ภายใต้ร่มพระบารมี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ด้วยทรงห่วงใยและทรงคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนเป็นสำคัญ ทรงมีพระเมตตา พระราชทานโครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เป็นต้นแบบแห่งการทำความดี ของหน่วยงาน ประชาชน ทุกหมู่เหล่าที่มีจิตอาสา บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้แก่พสกนิกรชาวไทยทุกภาคส่วน

ธนาคารออมสิน หนึ่งในสถาบันการเงินหลักของประเทศไทย ภายใต้การขับเคลื่อนแบบ “มากกว่าการธนาคาร ธนาคารเพื่อสังคม” ภายใต้การบริหารงานโดย คุณชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน นั้น ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย อาทิ รางวัลนักการธนาคารและนักการเงิน แห่งปี 2559 รางวัลนักธนาคารแห่งปี 2559 เป็นรางวัลยกย่องผู้บริหารสูงสุดของสถาบันการเงินที่มีงานหนักกว่าผู้บริหารสถาบันการเงินอื่นๆ และมีผลงานโดดเด่นเป็นรูปธรรมจับต้องได้ ทั้งผลงานด้านการเข้าไปกอบกู้ช่วยเหลือคนยากจน หรือประชาชนในระดับฐานราก สอดรับไปกับนโยบายของรัฐบาล ในภารกิจที่คุณชาติชาย พยุหนาวีชัย เป็นผู้ปรับโครงสร้างธนาคารและการบริการใหม่ๆ เพื่อให้แบรนด์ออมสิน มีความล้ำสมัย เป็นธนาคารที่ตอบโจทย์ ทุกความต้องการของช่วงอายุ ส่งเสริมการออมในรูปแบบผลิตภัณฑ์ การบริการนวัตกรรมใหม่ๆ แบบนำตลาด เพื่อก้าวให้ทันยุคดิจิตอลที่แข่งขันกันด้านเทคโนโลยีการบริการ

รางวัล “Thailand’s Most Admired Brand 2016” เป็นรางวัลที่ให้แก่แบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภคในกลุ่มธนาคารรัฐในปี 2015 โดยได้รับความนิยมและน่าเชื่อถือเป็นอันดับ 1 จากผลการวิจัย Thailand’s Most Admired Brand และ Why We Buy รางวัล “THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2016 ประเภท Customer Focus Award” เป็นรางวัลให้กับบริษัทที่ประสบความสำเร็จในระดับสูงสุดของประเทศ โดยมีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมและโดดเด่นในการดำเนินงานด้านต่างๆ

รางวัลนวัตกรรมการเงินยอดเยี่ยมในเอเชียแปซิฟิก ประจำปี 2559 จากบริการทางการเงิน “MyMo” ของธนาคารออมสิน เป็นรางวัลที่มอบให้กับสถาบันการเงินผู้สร้างมาตรฐานใหม่ในการให้บริการลูกค้ารายย่อยในเวทีการประชุม Retail Banker International Asia Summit & Awards 2016 รางวัลดาวเมขลา ประจำปี 2559 ประเภทองค์กรดีเด่นและประเภทบุคคลเพื่อเชิดชูเกียรติและมอบรางวัลให้กับสื่อมวลชน ศิลปิน นักแสดง องค์กร และบุคคลผู้บำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคมและประเทศชาติ รางวัล “เพชรกนก” และ “กนกนาคราช” ประจำปี พ.ศ. 2559 เป็นรางวัลเพื่อเชิดชูเกียรติแก่คนดีศรีแผ่นดิน ที่สร้างคุณงามความดี เสียสละ บำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคมและประเทศชาติ

รางวัล “ประชารัฐวิสาหกิจดีเด่น ประเภทเชิดชูเกียรติ” ประจำปี 2559 จาก สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง เป็นรางวัลที่ได้รับจากการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพองค์กรการเงินชุมชน เพื่อสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการทางการเงิน ซึ่งเป็นโครงการที่มีเป้าหมายการพัฒนาเพื่อยกระดับองค์กรการเงินชุมชนให้เข้มแข็ง สามารถให้บริการทางการเงินแก่ครัวเรือนสมาชิกในแต่ละท้องถิ่นได้อย่างทั่วถึง โล่เกียรติยศ “บุคคลตัวอย่างภาคธุรกิจแห่งปี 2016 ภาคธุรกิจการเงินและธนาคาร” ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รับโล่เกียรติยศ “บุคคลตัวอย่างภาคธุรกิจแห่งปี 2016 ภาคธุรกิจการเงินและธนาคาร” เพื่อประกาศเกียรติคุณและเป็นการยกย่องบุคคลที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิต ทั้งชีวิตส่วนตัว ชีวิตการทำงาน และการอุทิศตนแก่กิจกรรมเพื่อประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ

รางวัลนักการเงินแห่งปี 2559 เป็นรางวัลยกย่องผู้บริหารระดับสูงของธนาคาร สถาบันการเงินที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและทันสมัย เป็นนักการเงินมืออาชีพที่มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ เป็นนักการเงินที่สร้างความเจริญเติบโตให้กับองค์กร และเป็นนักการเงินที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม รางวัลนักธนาคารแห่งปี 2559 เป็นรางวัลยกย่องผู้บริหารสูงสุดของสถาบันการเงินที่มีงานหนักกว่าผู้บริหารสถาบันการเงินอื่นๆ และมีผลงานโดดเด่นเป็นรูปธรรมจับต้องได้ ทั้งผลงานด้านการเข้าไปกอบกู้ช่วยเหลือคนยากจน หรือประชาชนในระดับฐานราก สอดรับไปกับนโยบายของรัฐบาล

รางวัล Thailand’s Most Admired Brand 2017 เป็นรางวัลที่ให้กับสุดยอดแบรนด์ที่ได้รับความน่าเชื่อถือจากผู้บริโภคทั่วประเทศมากที่สุด “ประเภทธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ” รางวัล Highly Commended Excellence in Service Innovation 2017 เป็นรางวัลที่มอบให้กับสถาบันการเงินผู้มีนวัตกรรมการบริการที่เป็นเลิศและมีคุณภาพการให้บริการที่สูงกว่ามาตรฐานที่กำหนด จากนวัตกรรมบริการ “Digital Salak on MyMo” รางวัล “นักการเงินแห่ง ปี 2559 Financier of The Year 2016” เป็นรางวัลเกียรติยศที่มอบให้กับผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ด้วยผลงานที่โดดเด่นผ่านคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์การพิจารณาครบถ้วนทั้ง 4 ด้าน สะท้อนความเป็นผู้นำได้อย่างชัดเจน คือเป็นนักการเงินที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและทันสมัย เป็นนักการเงินมืออาชีพที่มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ เป็นนักการเงินที่สร้างความเจริญเติบโตให้กับองค์กรและเป็นนักการเงินที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม