เกษตรตำบลคนเก่ง ปลูกผักปลอดสารหลากหลายชนิด

ใจกลางเมืองระนอง ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างที่กำลังก้าวเดิน พยายามเลือกสิ่งที่ดีที่สุดนำมาสู่ให้กับชีวิตตัวเองและพร้อมที่จะลงมือกระทำในทันที เริ่มเลยนะครับอย่าพยายามเสียเวลากับเวลาที่เหลือของชีวิตไปอีกเพราะชีวิตนี้สั้นเหลือเกิน อย่าพยายามเอาโชควาสนาหรืออำนาจฟ้าดินมากล่าวอ้างเป็นเหตุผลกับการดำเนินชีวิต ชีวิตของเรา เราต้องก้าวเดินไปด้วยตัวเราเอง หากต้องการเดินบนเส้นทางที่สามารถทำให้เรา เดินห่าง…จากความจน ให้ได้สมบูรณ์แบบ โชควาสนาจะเกิดขึ้นได้สำหรับคนที่ใช้ความขยันและความอดทนมาดำเนินชีวิตเท่านั้น

สวัสดีครับแฟนๆ ที่เคารพรักทุกท่าน ก่อนอื่นขอกราบขอบพระคุณแฟนๆ อย่างมากๆ จากเทคโนโลยีชาวบ้านและผู้เขียน ที่ได้ให้แรงใจตลอดมา เนื่องจากจะได้รับการส่งเสียงไปหาที่โทร. 081-846-0652 หรือในเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ สมยศ ศรีสุโร หรือ ID Line. Janyos ชนิดไม่ขาดหาย ที่ผู้เขียนชอบมากๆ คือบอกไปว่าชอบทุกเรื่องราวที่นำมาเสนอ ขอขอบคุณจริงๆ อีกสักครั้ง

สำหรับปักษ์นี้ผมมีความมั่นใจว่าแฟนๆ ที่กำลังสนใจต้องชอบอย่างแน่นอน เรื่องนี้ได้เกิดขึ้นจากแฟนๆ คอลัมน์นี้เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาได้สอบถามกันไปหลายราย “การปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์” และทุกเสียงบอกเหมือนกันไปว่าต้องการให้นำเสนอโดยขอให้เน้นจากผลงานผู้ปฏิบัติเองจริงและสามารถอธิบายรายละเอียดตามที่ผู้ต้องการทราบได้ชนิดทุกเรื่องได้ชนิดอย่างง่ายและเข้าใจ

หลังจากนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน ฉบับที่ 712 วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 ได้วางแผง ผลปรากฏว่าได้รับการตอบรับพร้อมมีแฟนๆ จำนวนหนึ่งได้ส่งเสียงไปหาเธอ วันนี้ทำให้ผมนำเรื่องราวของเธอมาเสนออีกครั้งในปักษ์นี้ เพราะเธอบอกอย่างชื่นอกชื่นใจกับผมว่าส่วนมากจะเป็นแฟนๆ ที่ได้รับทราบจากคอลัมน์นี้ที่ได้ส่งเสียงไปหาเธอ เยี่ยมจริงๆ

สำหรับเธอเกษตรตำบลคนเก่งคนนี้ “มะปราง” หรือ คุณภมรรัตน์ แย้มจรัส ปัจจุบันอายุ 37 ปี รับราชการตำแหน่งนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สังกัดสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองระนอง ก่อนอื่นขอย้อนเรื่องราวของเธอไปสักนิดนะครับแฟนๆ เนื่องจากเธอมีตำแหน่งงานในหน้าที่รับผิดชอบเป็นงานลงพื้นที่เพื่อส่งเสริมให้ความรู้แก่เกษตรกรเพื่อสร้างอาชีพสร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกร เธอจึงพยายามหาข้อมูลด้านการเกษตรกรยุคใหม่พร้อมที่มีงานที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่นำมาใช้ที่สำคัญต่อมาเพื่อนำมาให้ความรู้พร้อมจำเป็นต้องมีตัวอย่างจริงประกอบเพื่อสาธิตให้เกษตรกรได้เห็นจริงสัมผัสจริง

พร้อมกับออกพื้นที่บรรยายให้ความรู้กับเกษตรกรที่สนใจตามงานต่างๆ ที่สำนักงานเกษตรอำเภอไปจัดงานตามที่ต่างๆ และเกษตรกรเป้าหมายที่ต้องการจะสื่อให้ทราบส่วนใหญ่เป็นคนเมือง จึงจำเป็นต้องปรับการทำเกษตรแบบข้อสำคัญข้อแรกที่ต้องนำมาคิดคือนำมาใช้กับพื้นที่ที่มีจำกัด ต่อมาจึงมีความคิดว่าเหมาะสมที่สุดคือการปลูกผักไร้ดินแบบระบบไฮโดรโปนิกส์เนื่องจากจะสามารถใช้พื้นที่น้อยพร้อมสามารถดูแลได้ง่ายสะดวก

เธอเริ่มทดลองทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการปลูกโดยใช้กะละมังหรือจากกล่องโฟม การทดสอบปุ๋ย ตลอดจนการตรวจสอบสารตกค้างในผักก่อนเก็บผลผลิต เพื่อให้ชัดเจนมากขึ้น เริ่มแรกสาวมะปรางคนเก่งคนนี้ได้ใช้พื้นที่ประมาณ 18 ตารางวาข้างบ้านพักที่จังหวัดระนอง ปฏิบัติงานจริงปลูกจากกล่องโฟมและกะละมัง ต่อมาพัฒนามาเป็นแปลงการปลูกกับท่อ PVC หลังจากนั้นปรับปรุงเรื่อยมาจนได้ระดับหนึ่งที่คิดว่าเยี่ยมพอแล้ว

ในที่สุดจึงพร้อมเปิดให้เป็นที่เรียนรู้กับเกษตรกรและผู้ที่สนใจได้มาศึกษา เธอตั้งชื่อไว้ว่า “เดอะบีชฟาร์ม” ต่อมาได้มีร้านอาหาร โรงแรมในตัวเมืองระนองเมื่อทราบข่าวและเห็นผลผลิตของเธอที่ออกมาได้เยี่ยมมากจริงๆ จึงติดต่อซื้อ เธอสรุปความต้องการที่ลูกค้าส่วนใหญ่มากที่สุดได้ที่มี 5 ชนิด คือ กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค คอส เรดคอรัล และฟิลเลย์ไอซ์เบิร์ก แปลงของเธอจึงมีผัก 5 ชนิดนี้เท่านั้น

เมื่อมีความต้องการจากผู้สนใจกับผัก 5 ชนิดนี้มากขึ้น เธอจึงตัดสินใจขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้น ได้ไปปลูกที่บ้านตัวเองที่ตำบลพะโต๊ะ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร อยู่ห่างจากระนองที่ทำงานประมาณ 50 กิโลเมตร สร้างโรงเรือนเพิ่มขึ้นอีก 2 เรือนในเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา สามารถมีผักบริการกับผู้ต้องการได้ประมาณ 50-60 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ เธอบอกต่อไปอีกว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเยี่ยมเนื่องจากคนส่วนใหญ่ได้หันมารักสุขภาพกันมากขึ้น ทำให้ความต้องการผักปลอดสารเพิ่มมากขึ้น

ปัจจุบันนี้เธอกับครอบครัวได้ขยายฟาร์มผักไฮโดรโปนิกส์เพิ่มขึ้นอีก 1 โรงเรือนใหญ่ กลางเมืองระนอง (ใก้ลบิ๊กซีระนอง) ในเนื้อที่ 72 ตารางวา เพื่อให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 130-150 กิโลกรัมต่อสัปดาห์เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าคนเมือง พร้อมกับได้พัฒนาผลผลิตโดยปลูกให้มีความหลากหลายชนิดอีกด้วย เช่น มะเขือเทศโซลาริโน่ ต้นทานตะวันอ่อน ผักเคล และผักพื้นบ้านต่างๆ เพื่อเป็นทางเลือกมากเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ทางฟาร์มเดอะบีชได้ทำการขยายพันธุ์แค็กตัสหลากหลายสายพันธุ์ เช่น สกุลยิมโนคาไลเซียม โครีแฟนทา แอสโตรไฟตัม แมมมิลลาเรีย และอิชิโนฟอสซูโลแค็กตัส เป็นต้น เพื่อต้อนรับคนรักแค็กตัสจะได้สัมผัสได้ชนิดเต็มความรู้สึก

ผลผลิตและทุกเรื่องราวจากฟาร์มเดอะบีช ได้รับการดูแลอย่างดีจาก “คุณสายส้ม” คุณสุพัฒศร แก้วเรือง ผู้จัดการฟาร์มสาขาระนอง “คุณก้านส้ม” คุณภัทราพร ภูแล่นคู่ ผู้จัดการฟาร์มสาขาพะโต๊ะ และ “คุณโจ้” ส.ต.อ. เฉลิมพล ภูแล่นคู่ ผู้ช่วยผู้จัดการทั้ง 2 แห่ง ทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มหยอดเมล็ด เพาะกล้า เก็บเกี่ยวผลผลิต ตลอดจนส่งถึงมือลูกค้าล้วนได้รับการเอาใจใส่อย่างดีเยี่ยม จนได้รับป้ายรับรองสถานที่จำหน่ายสินค้า Q จากผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ในโครงการส่งเสริมการบริโภคและใช้วัตถุดิบสินค้า Q (ผักไฮโดรโปนิกส์ : GAP : ผักปลอดสารพิษ)

ท่านใดสนใจไปเยี่ยมหาติดต่อ มะปราง เจ้าของฟาร์มเดอะบีช โทร./Line 098-126-3758 หรือคุณสายส้ม ผู้จัดการ โทร./Line 092-440-6394 หรือติดตามได้ทาง เฟซบุ๊ก : ผักไฮโดรโปนิกส์ เดอะบีชฟาร์มสาขาระนอง-สาขาพะโต๊ะ

สุดท้ายเธอบอกไว้ชนิดน่าประทับใจอย่างมากครับ “เดอะบีชฟาร์ม เป็นฟาร์มปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ที่ต้องการผลิตผักปลอดสารพิษ สำหรับผู้รักดูแลสุขภาพ เราปลูกผักด้วยใจ เพราะห่วงใยสุขภาพ เราจึงใส่ใจอย่างละเอียดทุกขั้นตอนค่ะ” สาวมะปรางหน้าหวานคนงามเมืองระนองบอกสุดท้าย สุดยอดมากครับ

คำถามในหลายๆ ครั้งที่ต้องการคำตอบมากที่สุดคือหนึ่งชีวิตที่เรามีอยู่นี้เราต้องการอะไร ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างที่เรากำลังก้าวเดินอยู่พร้อมลมหายใจในวันนี้ จึงมีเพียงคำตอบเดียวคือต้องพยายามเลือกสิ่งที่ดีที่สุดนำมาสู่ให้กับชีวิตตัวเองและพร้อมที่จะลงมือกระทำในทันที เพราะทุกเรื่องราวที่มีนั้นแน่นอนต้องมีการเริ่มต้นแล้วลงท้ายเกิดขึ้นเสมอ เป็นเรื่องธรรมดา ขอให้มีความเชื่อเบื้องต้นก่อนว่ากระทำอย่างไรย่อมจะได้สิ่งนั้นตอบแทนกลับมาเช่นกัน เรานั้นมีความเป็นอิสระที่จะจัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้กับชีวิตของเราได้เสมอ เพราะนี่คือชีวิตของเรา ขอบคุณ สวัสดี

หลายๆ คน เวลาพูดถึง “มะพร้าว”🥥 คงจะนึกถึงน้ำหอมหวาน เนื้อเนียนนุ่ม แสนอร่อย แถมมะพร้าวยังเป็นส่วนผสมที่ใส่ในขนมไทยหรือนำมาประกอบทำอาหาร🍲 สายเข้าครัววันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านจะพามาทำความรู้จักมะพร้าวในแต่ละประเภทว่าต่างกันยังไง และนำมาทำขนมหวานอะไรได้บ้าง ไปดูกันเลย✨

ลักษณะ : น้ำของมะพร้าวจะมีรสชาติหอมหวานละมุน เนื้อนุ่ม

เหมาะสำหรับ : วุ้นมะพร้าวน้ำหอม เค้กมะพร้าวน้ำหอม ไอศกรีมมะพร้าวอ่อน อาหารประเภทต้ม ผัด แกง ยำ เช่น ยำมะพร้าวอ่อน แกงคั่วหมูมะพร้าวอ่อน ห่อหมกมะพร้าวอ่อน เหมาะสำหรับ : ขูดเพื่อโรยหน้าหรือคลุกเคล้ากับขนม รวมทั้งทำเป็นไส้ขนมด้วย เช่น ขนมต้ม ขนมตาล ขนมเปียกปูน ขนมกล้วย ส่วนขนมที่มีไส้ทำจากมะพร้าว เช่น ขนมใส่ไส้

🧡 มะพร้าวกะทิ

ลักษณะ : เป็นมะพร้าวแก่ซึ่งมีน้ำหนักมาก เนื้อสัมผัสมีลักษณะหนานุ่ม เหนียว และมีสีขาวขุ่น มีน้ำข้นเหนียวเล็กน้อย

เหมาะสำหรับ : นิยมนำมาใส่ในขนมที่กินกับน้ำกะทิ เช่น ทับทิมกรอบ ลอดช่อง ซ่าหริ่ม ลักษณะ : เป็นมะพร้าวแก่จัด มีน้ำน้อย มีรสชาติหอมมัน นิยมนำมาขูดและคั้นเป็นกะทิเพื่อใช้ปรุงอาหารหรือขนม

เหมาะสำหรับ : ขนมถ้วย วุ้นกะทิ ขนมเปียกปูน หรือใช้ราดหน้าขนม เช่น เต้าส่วน สาคูเปียก กล้วยไข่เชื่อม ในช่วงที่มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ระยะนี้ กรมวิชาการเกษตร แนะเกษตรกรชาวไร่สับปะรดเฝ้าระวังโรคยอดเน่ารากเน่า ที่สามารถพบได้ในทุกระยะการเจริญเติบโตของสับปะรด อาการที่ต้น ใบยอดมีสีซีด โคนใบ หรือฐานใบเน่าช้ำมีสีขาวอมเหลือง ขอบแผลสีน้ำตาล และส่งกลิ่นเหม็นเฉพาะตัว เมื่อดึงส่วนยอดจะหลุดได้โดยง่าย ถ้าอาการรุนแรงกลุ่มใบตรงกลางต้นจะหักล้มพับลงมา อาการที่ราก เริ่มแรกมีอาการใบสีซีดคล้ายอาการที่ต้น ใบด้านล่างจะนิ่มกว่าปกติ และแห้งตายลามเข้ามาจากปลายใบ ต้นชะงักการเจริญเติบโต รากมีแผลสีน้ำตาล เปื่อย และเน่า หากดึงจะหลุดออกมาจากดินได้โดยง่าย อาการที่ผล ผลมีขนาดเล็ก ผลจะเน่าเป็นจุดสีเขียวเข้ม เมื่อผ่าดูภายในเนื้อเยื่อจะเน่าเป็นสีน้ำตาล

เกษตรกรควรหมั่นตรวจและกำจัดวัชพืชในแปลงและรอบแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ หากพบต้นที่เริ่มแสดงอาการของโรคยอดเน่ารากเน่า ให้พ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืชเมทาแลกซิล 25% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 20-40 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม 80% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 50-100 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารฟอสโฟนิก แอซิด 40% เอสแอล อัตรา 50-60 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 1 เดือน จำนวน 2 ครั้ง

หรือให้ขุดต้นที่เป็นโรคนำไปเผาทำลายนอกแปลงปลูกทันที เพื่อลดแหล่งสะสมเชื้อสาเหตุโรค จากนั้นให้โรยปูนขาวบริเวณหลุมที่ขุด เพื่อป้องกันการระบาดของโรค และควรทำความสะอาดอุปกรณ์การเกษตรที่ใช้กับต้นที่เป็นโรคก่อนนำกลับมาใช้ใหม่ทุกครั้ง

หลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ให้นำส่วนต่างๆ ของพืชที่เป็นโรคไปเผาทำลายทันที หากเกษตรกรจะปลูกสับปะรดในฤดูถัดไป ควรเลือกพื้นที่ปลูกที่ไม่เคยมีการระบาดของโรคนี้มาก่อน และควรทำแปลงปลูกให้มีการระบายน้ำที่ดี ไม่ควรมีน้ำท่วมขัง กรณีเกิดน้ำท่วมขังควรรีบระบายน้ำออกจากแปลงโดยเร็ว และให้เลือกใช้ส่วนขยายพันธุ์ที่มีคุณภาพดีจากแหล่งปลอดโรค

ก่อนปลูก เกษตรกรควรแช่จุกหน่อพันธุ์ด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืชเมทาแลกซิล 25% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 20-40 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม 80% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 50-100 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารฟอสโฟนิก แอซิด 40% เอสแอล อัตรา 50-60 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร นาน 15-20 นาที ที่สวนสุวรรณีปรางทอง ของปราชญ์พื้นบ้าน ชื่อ อาจารย์วิเชียร บุญเกิด ตำบลอ่างทอง หรือหลังตลาดกล้วยไข่ ถนนสายเอเชีย จังหวัดกำแพงเพชร เห็นชายรูปร่างสันทัดเดินคล่องแคล่ว ในบริเวณสวนร่มรื่น ถึงแม้จะเข้าสู่ภาวะแล้งและหน้าร้อน ด้วยอากาศที่ร้อนจัดจากภายนอก แตกต่างจากที่ภายในสวนสุวรรณีปรางทองมาก รู้สึกได้ถึงความปลอดโปร่งและร่มเย็น และเห็นชายผู้นี้วุ่นอยู่กับการเตรียมของและต้นไม้มากมายที่เตรียมส่งลูกค้า ในวัยเจ็ดสิบกว่าๆ แต่อายุไม่ได้ทำลายความอ่อนล้าลงแม้แต่น้อย ยังคงมีแต่คำว่า ขยันและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เป็นตัวอย่างของเกษตรกรที่สร้างรายได้โดยอายุเป็นเพียงตัวเลข

“ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป ถ้าอยู่นิ่งไม่มีกิจกรรมปล่อยให้ความแก่มาเยือน ก็จะเฉาไปเปล่าๆ ผมไม่มีเวลาเหงาครับ มีแต่งานและเงินเข้ามาทุกวัน ผมส่งต้นไม้ทั่วประเทศ และต้องเตรียมส่งเกือบทุกวัน คำว่า เกษตรกรไม่มีวันหยุด แต่ไม่ได้เครียด อิสระในเวลาและความคิด” อาจารย์วิเชียร กล่าว

“ในปัจจุบันนี้ มีบริษัทขนส่งเกิดขึ้นมากมาย ทุกอย่างมีการแข่งขัน การทำงานของผมก็ง่ายขึ้น โดยที่ผมไม่ต้องส่งของเอง จะมีบริษัทโลจิสติกต่างๆ เข้ามารับของถึงที่สวน ทำให้การทำงานของผมง่ายขึ้น ผมอยากจะแนะวิธีให้ท่านที่ต้องการหางานทำ หรือมองหาธุรกิจใหม่ๆ ที่ทดแทน และสร้างรายได้ให้ท่านในภาวะที่มีโรคระบาด อย่างเช่นในปัจจุบันนี้ หันมาทำการเกษตรสร้างรายได้” อาจารย์วิเชียร บอก

คำว่าอาชีพทำการเกษตร ยังคงเป็นอาชีพที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นที่สนใจของคนทุกวัย เพียงแต่ว่าบางท่านไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ที่สวนสุวรรณีปรางทอง จึงเป็นแหล่งความรู้ด้านการเกษตรที่มีประสบการณ์ตรงจากการปลูกพืชและไม้ผลหลายชนิด หนึ่งในนั้นคือ ลำไยขาวพวงใบเตย

ภายในสวนสุวรรณีปรางทอง เต็มไปด้วยพันธุ์พืชไม้ผล ที่ทั้งมีไว้ขายผลผลิต และเพาะต้นพันธุ์ขาย เช่น การเพาะต้นลำไยขาวพวงใบเตย โดยเฉพาะในส่วนของการเพาะพันธุ์ต้นลำไยขาวพวงใบเตย สร้างรายได้ให้อาจารย์วิเชียร มีรายได้เข้าบ้านทุกวัน และยังต้องมีแรงงานพื้นบ้าน ที่อาจารย์วิเชียรได้ช่วยให้เกิดรายได้และมีงานทำโดยที่ไม่ต้องออกจากหมู่บ้านไปหางานทำในที่ไกลๆ

อาจารย์สร้างรายได้จากการขายต้นพันธุ์ลำไยขาวพวงใบเตยอย่างไร
ทุกวันนี้ต้นพันธุ์ไม่พอขาย

“ก่อนอื่นผมขอแนะนำว่า การที่เราจะทำอาชีพอะไรก็ตาม ความรับผิดชอบต่อลูกค้าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การเลือกและคัดสรรสิ่งที่ดีให้ลูกค้า สวนผมอยู่ได้ยั่งยืน เพราะผมมีความรับผิดชอบต่อลูกค้า ถ้าต้นไม้มีปัญหาผมพร้อมส่งให้ใหม่อีก เกิดความประทับใจ ปากต่อปาก ที่สวนผมราคาค่อนข้างสูงกว่าที่อื่น แต่ก็อยู่ได้ เพราะลูกค้าซื้อแล้วมีความมั่นใจ ผมขายต้นพันธุ์ลำไยขาวพวงใบเตย ต้นละ 350 บาท อาจจะแพงกว่าที่อื่น แต่ผมมั่นใจในคุณภาพของผม เฉพาะในส่วนของต้นพันธุ์ลำไยขาวพวงใบเตย ผมขาย 100-150 ต้น ต่อเดือน โดยเฉลี่ย ไม่รวมกับพันธุ์ไม้ชนิดอื่น ก็เท่ากับ 35,000-52,500 บาท ต่อเดือน ที่สวนผมมีพันธุ์ไม้ 10 กว่าชนิด บางอย่างขายผลผลิต แต่บางอย่างเพาะต้นพันธุ์ขาย” อาจารย์เล่า

ที่สวนแห่งนี้ สร้างรายได้โดยแบ่งพื้นที่บางส่วนทำเป็นสวนเพื่อที่เพาะพันธุ์ขายเป็นต้นพันธุ์หรือกิ่งพันธุ์ โดยแบ่งเนื้อที่บางส่วนของพื้นที่ ปลูก ประมาณ 25 ต้น เพื่อจะเสียบยอดขาย ทุกวันนี้ไม่พอขาย ลูกค้าต้องสั่งจอง เพราะใครมาเห็นก็ชอบและสั่งซื้อ ของที่นี่ต้องจองล่วงหน้า ทำไม่ทัน จึงอยากจะแนะนำให้เกษตรกรรายใหม่ หรือท่านที่มองหาอาชีพให้ ก็ไม่ควรพลาดที่จะศึกษาเรียนรู้ ด้านการเพาะต้นพันธุ์ลำไยขาวพวงใบเตย

“ไม่ยากครับ เพราะโดยการเสียบยอดเพื่อให้ลูกค้าที่ซื้อกิ่งพันธุ์จากผมไป ผมแนะนำเรื่องต่อยอดขายได้เลยครับ ผมจะแนะวิธีเสียบยอดจากลำไยพันธุ์พื้นเมือง ก่อนอื่นท่านต้องเพาะพันธุ์ลำไยพื้นเมืองจากเมล็ดเพื่อให้มีต้นตอที่มีรากแก้ว พันธุ์ที่ใช้ก็ทั่วไปที่เติบโตได้ดีในบ้านเรา เพาะเมล็ดให้สูงประมาณ 50 เซนติเมตร ใช้เวลาประมาณ 12-15 เดือน แล้วนำมาเสียบยอด จากกิ่งพันธุ์ขาวพวงใบเตย ถ้าวิธีการเสียบยอดอย่างไร มาหาผมที่สวนได้เลย ผมยินดีถ่ายทอดให้ดูโดยตรงได้เลย หลังจากนั้น ก็พันก้านให้สนิทด้วยเทปกาวเพื่อไม่ให้น้ำเข้า จะทำให้เชื้อโรคเข้า จะทำให้ตรงที่มีการเสียบยอดเน่าได้ จึงคลุมด้วยถุงพลาสติกใส เก็บไว้ในที่ร่มรำไร จนกว่าจะแตกยอดใหม่ ประมาณ 45 วัน ก็แกะออกจากถุง ให้ปรับตัวเข้ากับอากาศข้างนอก แต่ยังอยู่ในร่มที่มีแสงรำไร ประมาณ 2 อาทิตย์ จึงนำออกมาให้แสงแดด ประมาณ 70% ก็ประมาณเป็นที่โล่งที่มุงด้วยซาแรน พรางแสง 70% อันนี้ถามจากร้านที่ขายซาแรนได้เลย เขาจะจัดให้เลย” อาจารย์วิเชียร ให้คำตอบ

ทั้งหมดนี้คือ ขั้นตอนของการทำต้นพันธุ์ที่มีรากแก้วขาย ซึ่งจะทำให้ลูกค้าประทับใจ ที่เขาซื้อไปปลูกแล้วได้ต้นพันธุ์ที่สมบูรณ์ และลำต้นมั่นคงกว่ากิ่งตอน หมายความว่า ต้นจะไม่ล้มง่ายเหมือนกิ่งตอน ซึ่งไม่มีรากแก้วยึด

แนะนำให้มาเพาะพันธุ์ลำไยขาวพวงใบเตยขาย

อาจารย์วิเชียร บอกว่า ขาวพวงใบเตยเป็นลำไยที่น่าปลูก ตลาดน่าจะไปไกลอีกมากถึงแม้จะเป็นพืชที่เข้ามาแทรกส่วนแบ่งของตลาด แต่ก็สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรอย่างอาจารย์ไม่น้อย เมื่อเพาะพันธุ์ลำไยขาย ทุกวันนี้ไม่พอขาย และเป็นไม้ผลที่มีความกะทัดรัดในทรงพุ่ม อยากจะแนะนำผู้ที่จัดสวนให้เพิ่มไม้ผลชนิดนี้ไปด้วย เพราะใบไม่ค่อยจะร่วงหล่น ทรงพุ่มสวยงาม ตัดแต่งกิ่งได้ง่าย ให้ร่มเงา แถมยังได้รับประทานผลอีกด้วย

ทุกวันนี้ก็มีพ่อค้าแม่ค้าที่รับซื้อต้นพันธุ์จากสวนนำไปขายตามร้านขายต้นไม้มาติดต่อในราคาส่งหลายราย แต่ตนเองปฏิเสธไป เพราะกำลังผลิตไม่พอ เพราะผมมีที่ดินจำกัด ในการเพาะพันธุ์ แบ่งที่ได้เพียงเล็กน้อย คาดว่าตลาดยังมีอีกมาก โดยเฉพาะตลาดขายต้นไม้

คิดว่าในวัยของคนรุ่นใหม่น่าจะมีการตลาดหรือการติดต่อขายได้กว้างไกลกว่านี้ ถ้าเขาเหล่านั้นสนใจและทำความเข้าใจมากขึ้น คิดแบบง่ายๆ คร่าวๆ ถ้ามีลูกค้าซื้อไปปลูกบ้านละต้นสองต้น ปลูกใส่วงบ่อ คุณจะผลิตต้นพันธุ์ไปอีกเป็นสิบๆ ปีเลยก็ว่าได้ นั่นหมายถึง การสร้างรายได้จากการที่คุณผลิตกิ่งพันธุ์ขาย

อาจารย์ได้พันธุ์ลำไยนี้มาจากไหน

“ผมได้ไปดูงานเกษตรที่ประเทศเวียดนาม เมื่อปี 2550 ซึ่งงานเกษตรแฟร์ของเวียดนามจัดยิ่งใหญ่และอวดผลงานของนักพัฒนาสายพันธุ์ที่เก่งมากประเทศหนึ่ง จึงได้ไปสะดุดตากับลำไยพันธุ์นี้ ว่า ทั้งลูกและต้นพันธุ์มีลักษณะเฉพาะตัว ที่น่าจะนำมาปลูกในเมืองไทย ตลาดที่นั่นมีไม้ผลหลากหลายมาก และมีการพัฒนาสายพันธุ์ไม้ผล เช่น ลำไยพันธุ์ขาวพวงใบเตย เป็นต้น

โลกวิทยาศาสตร์ปัจจุบันก้าวหน้าไม่หยุดยั้ง รวมถึงการพัฒนาพันธุ์ของพืชเพื่อให้ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมและเพื่อเชิงอุตสาหกรรม การเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งของประชากรและในขณะเดียวกันเพิ่มการแข็งแรงของเชื้อโรคให้ต้านยารักษามากขึ้น

” ลำไยขาวพวงใบเตย เป็นไม้ผลที่แทบไม่ต้องใช้สารเคมีเลย ด้วยการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความต้านทานโรค ซึ่งในปัจจุบันนี้โลกของเราเต็มไปด้วยเคมีและยาฆ่าแมลง จึงมีนักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับพันธุ์พืชพยายามที่จะสร้างสรรค์ผลงาน เพื่อเลียนแบบธรรมชาติและปรับตัวเข้ากับธรรมชาติ เป็นพืชที่อยู่ร่วมกับพืชพื้นเมืองอื่นๆ ได้ดี ซึ่งข้อนี้เป็นที่น่ายกย่องคนเหล่านั้น ทางด้านชาวสวนที่มีจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อมก็จะนำพืชเหล่านี้มาต่อยอดให้เป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่ง” อาจารย์วิเชียร บอก

นักพัฒนาพันธุ์พืชพยายามที่จะสรรค์สร้างพันธุ์พืชที่ให้ผลผลิตสูง เพื่อเหมาะแก่การรองรับประชากรที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันในโลกปัจจุบันนี้ การพัฒนาพันธุ์พืชที่ให้ผลผลิตทั้งปี ลำไยขาวพวงใบเตย ก็เป็นหนึ่งในพันธุ์พืชไม้ผลที่เป็นทะวาย คือให้ผลผลิตทั้งปี

ลำไยขาวพวงใบเตย เป็นไม้ผลที่เหมาะสำหรับการปลูกและเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากว่าเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กได้และเป็นไม้พุ่มขนาดกลางได้ ให้ผลผลิตเร็ว ปลูกได้ง่าย ใส่กระถางหรือวงบ่อก็ได้ ให้ผลผลิตเป็นลำไยทะวาย คือออกทั้งปี ให้ผลผลิตทั้งปี ใช้พื้นที่ในการปลูกสำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัดได้ดี

วิธีสร้างแรงจูงใจในการที่จะทำให้ขายดี มีต้นพันธุ์ไว้ขาย มีผลไว้ชิมฟรี

“ที่สวนผมปลูกลำไยขาวพวงใบเตยไว้ประมาณ 25 ต้น เพื่อโชว์ลูกค้า เวลามาแวะดูต้นลำไยเพื่อที่จะซื้อต้นพันธุ์ ก็จะได้ชิมลำไยกันสดๆเลย ก็จะเกิดความประทับใจในรสชาติ ลูกค้าก็จะเกิดความมั่นใจมากขึ้น ก็เป็นการปิดการขายที่รวดเร็ว ลูกค้าส่วนใหญ่ที่แวะมาชิมที่สวน เห็นความน่ารักของผลลำไยขาวพวงใบเตยและทรงต้น เป็นการตอกย้ำความมั่นใจให้มีมากขึ้น เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ที่จะทำอาชีพเพาะต้นพันธุ์ไม้ขาย ช่องทางการตลาด ก็ทางสื่อออนไลน์ทุกชนิด สื่อสิ่งพิมพ์ หรือการออกงานเกษตรตามสถานที่ต่างๆ แต่ที่ผมไม่ลืมคือ ถึงแม้ลูกค้าจะสั่งซื้อทางออนไลน์ ผมก็จะเลือกต้นพันธุ์ที่สมบูรณ์และแข็งแรงก่อนส่งถึงมือลูกค้า นอกจากสร้างรายได้แล้วยังทำให้สวนร่มรื่น เป็นสวนไม้ผลผสมผสานอีกด้วย” อาจารย์วิเชียร บอก

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อาจารย์วิเชียร บุญเกิด สวนสุวรรณีปรางทอง กำแพงเพชร เลขที่ 161/2 หมู่ที่ 1 ตำบลอ่างทอง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร 62000 เบอร์โทรศัพท์ 085-244-1699

ลักษณะผลของลำไยพันธุ์ขาวพวงใบเตย

ลำไยขาวพวงใบเตย ให้ผลผลิตทั้งปี hi-techitaly.com ลูกจะเล็กกว่าลำไยพันธุ์อีดอของไทย แต่มีเมล็ดลีบ เนื้อในมีความหอมแบบกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายใบเตยบวกกับกลิ่นหอมของลำไย และสีของเนื้อในมีสีเขียวอ่อน ลักษณะของผลลำไยก็น่ารัก มีลายเส้นคาดที่ผลเป็นเส้นสีน้ำตาลเข้ม ตัดกับสีของผลออกขาวครีม ดูเหมือนผลไม้การ์ตูนก็ว่าได้ ซึ่งเป็นที่มาของ คำว่า “ลำไยขาวพวงใบเตย”

เมื่อก่อนจะเห็นว่าทุกบ้านจะปลูกมะม่วงไว้เป็นไม้ผลประดับบ้านและร่มเงา และเป็นที่จอดรถยนต์ได้ แต่ปัจจุบันนี้ต้นมะม่วงปลูกให้ร่มเงานั้น ก็จะแทนที่ด้วยไม้ผลอย่างอื่น เพราะว่ายางมะม่วงเป็นอันตรายต่อสีของรถยนต์และยังทำให้เหนียวเหนอะหนะเกาะติดบนหลังคารถอีกด้วย

ลำไย เป็นพันธุ์ไม้ที่น่าปลูกเพราะให้ทั้งร่มเงาและยังได้รับประทานผลไม้ด้วย แต่ลำไยที่นิยมปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจนั้น มีลำต้นสูงใหญ่เกินไป เกินเนื้อที่จะรับได้ เพราะบางพื้นที่นั้นต้องการปลูกพืชอย่างอื่นด้วย ถ้าทรงพุ่มลำไยพันธุ์อื่นนั้น ก็จะกินเนื้อที่ ลำไยขาวพวงใบเตยเป็นลำไยพุ่มเตี้ย ให้ผลดก และให้ผลทั้งปี จึงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

“ทำเกษตรแบบคนรุ่นใหม่ ไม่เครียดและไม่กดดัน เพราะมีหลักคิดง่ายๆ เริ่มทำอย่างไรก็ได้ให้มีความสุขก่อน อย่าเพียงมุ่งหาแต่รายได้ คิดแค่ว่าทำเพื่อลดรายจ่ายก่อน แล้วรายได้จะตามมาทีหลัง” หลักคิดการทำเกษตร ของ คุณเมธยา

คุณเมธยา ภูมิระวิ หรือ คุณเมย์ อยู่บ้านเลขที่ 343 หมู่ที่ 6 ตำบลวังตะกอ อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร เกษตรกรรุ่นใหม่สานต่องานเกษตรที่พ่อสอน บนเนื้อที่ 27 ไร่ คุณเมย์ เล่าว่า เธอเรียนจบคณะวิทยาการคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เมื่อเรียนจบเธอตัดสินใจกลับบ้านที่จังหวัดชุมพรทันที ไม่ได้อยู่ทำงานตามสายที่เรียนมา เนื่องจากเคยได้ฝึกงานก่อนที่จะเรียนจบ แต่รู้สึกว่าไม่ใช่วิถีชีวิตที่ชอบ ไม่ชอบทำงานในออฟฟิศที่ต้องตื่นเช้ามาตอกบัตรเข้า-ออก ต้องนั่งทำงานที่มีพาร์ติชั่นกั้นเป็นล็อกๆ รู้สึกอึดอัด จึงคิดว่าที่บ้านก็มีพื้นที่ให้ทำต่อยอด ทำไมไม่กลับไปดูแลพื้นที่ของตัวเอง

เริ่มทำเกษตร บนคำสบประมาท
ของชาวบ้าน หาว่า “บ้า”
ด้วยความที่ คุณเมย์ เรียนจบคณะวิทยาการคอมพิวเตอร์มา เธอเล่าว่า หากย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว บุคลากรที่มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ขาดแคลน ตลาดกำลังต้องการ แต่เธอเลือกที่จะทิ้งโอกาสแล้วกลับบ้าน แรกๆ คนแถวบ้านหาว่าเธอบ้า มีงานดีๆ ไม่ทำ ซึ่งตอนนั้นเธอคิดแค่ว่า เธอไม่ได้ทำอะไรผิด เธอแค่เลือกในสิ่งที่ตัวเองรัก เลือกที่จะกลับบ้านมาดูแลพ่อแม่ ดูแลแผ่นดินที่ตัวเองเกิด เธอจึงมุ่งมั่นที่จะทำเกษตรบนแนวคิดของเธอให้สำเร็จ และลบคำสบประมาทของชาวบ้านให้ได้

คุณเมย์ บอกว่า พื้นฐานครอบครัวพ่อกับแม่เป็นเกษตรกรปลูกปาล์มน้ำมันมาก่อน มีการเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้ ซึ่งการทำเกษตรของพ่อ พ่อจะเน้นเรื่องการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ และเรื่องของอารยะขัดขืนในสวนปาล์ม คือปลูกไม้ยืนต้นในสวนปาล์ม จะไม่เชื่อในหลักวิชาการ แต่เชื่อในหลักของการปฏิบัติและเชื่อตามศาสตร์พระราชา