แทรกเตอร์ยันม่าร์ รุ่น YM จะช่วยเกษตรกรประหยัดต้นทุนเพิ่มผล

เพิ่มความสะดวกและง่ายในการติดตามผลการทำงาน ผ่านระบบ SA-R ที่จะช่วยในการประเมินการทำงานของเกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเทคโนโลยีนี้เหมาะกับยุคดิจิทัลที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้ ซึ่งการเปิดตัวแทรกเตอร์ รุ่น YM สู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในครั้งนี้ ถือเป็นการก้าวเข้าสู่การเกษตรของยันม่าร์ในยุคศตวรรษที่ 21 อย่างแท้จริง ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเกษตร และพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ส่งผ่านคุณค่าทางการเกษตร สู่ภูมิภาคอย่างยั่งยืน” มร. ฮิโรอากิ คิตาโอกะ ประธานบริษัท ยันม่าร์ อะกรีบิสเนส คอร์เปอเรชั่น กล่าว

แทรกเตอร์ รุ่น YMแทรกเตอร์ยันม่าร์ รุ่น YM357A (กำลังเครื่องยนต์ : 57 แรงม้า) เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตรใหม่ล่าสุด ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระการทำงานของเกษตรกร และสร้างคุณค่าด้านการเกษตรให้กับเกษตรกรทั่วทุกภูมิภาค

เกษตรกรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มักทำการเกษตรในสภาพพื้นดินหลากหลายรูปแบบ อาทิ ปลูกข้าว ปลูกพืชไร่และพืชสวนในสภาพพื้นดินต่างๆ ทำไร่ข้าวโพด อ้อย และพืชผลอื่นๆ โดยพื้นที่การเกษตรเหล่านี้ต้องการแทรกเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ น้ำหนักเบา และมีกำลังเครื่องยนต์ที่เกษตรกรมั่นใจ ซึ่งเครื่องยนต์ต้องมีกำลังแรงม้าอยู่ระหว่าง 50-60 แรงม้า เพื่อช่วยประหยัดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ซึ่งแทรกเตอร์ รุ่น YM นี้ ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นการทำงานที่ตอบสนองความต้องการด้านการเกษตรอย่างแท้จริง พร้อมรูปลักษณ์ที่สวยงามดึงดูดใจ ซึ่งถูกออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดัง มร. เคน โอคุยะมะ ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการและกรรมการบริหาร บริษัท ยันม่าร์ โฮลดิ้ง อีกด้วย

แทรกเตอร์รุ่นใหม่ YM นี้ นับว่าเป็นทางเลือกของเกษตรกร เพราะสามารถตอบสนองทุกความต้องการด้านการเกษตร ทำงานได้คล่องแคล่ว ทั้งงานนา งานไร่ โดดเด่นด้วยกำลังฉุดลากอันทรงพลัง และเทคโนโลยีที่ช่วยระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี

ฟังก์ชั่นการทำงานเด่นของแทรกเตอร์ รุ่น YM

ระบบ SMARTASSIST Remote ระบบควบคุมทางไกลอัจฉริยะ SMARTASSIST Remote (SA-R) ช่วยให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงข้อมูลการปฏิบัติงานของแทรกเตอร์ในพื้นที่ผ่านสมาร์ทโฟน โดยระบบ SA-R จะสามารถบอกตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ในการทำงานของแทรกเตอร์ได้ รวมทั้งแจ้งเตือนการทำงานนอกเหนือพื้นที่ที่กำหนดไว้ เพื่อให้เกษตรกรวางแผนจัดการได้อย่างแม่นยำ ตรงจุด ช่วยแบ่งเบาภาระ โดยระบบ SA-R นี้ เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ติดตั้งในแทรกเตอร์ YM 357A

เครื่องยนต์อันทรงพลัง และประหยัดพลังงาน

แทรกเตอร์ยันม่าร์ รุ่น YM ติดตั้งเครื่องยนต์กำลังสูงทำงานได้เต็มพลัง เต็มแรง ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล TNV Direct Injection ประหยัดน้ำมัน ลดค่าใช้จ่าย ใช้น้ำมันทุกหยดได้อย่างคุ้มค่า ทนทานด้วยนวัตกรรมการผลิตที่ล้ำสมัย จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดการสึกหรอ

– ปั๊มหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ Mono-plunger ปั๊มจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้แรงดันสูงสม่ำเสมอ ระบบเกียร์ ที่เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย

เกียร์หลักแบบซินโครเมช 8 เกียร์เดินหน้า 8 เกียร์ถอยหลัง เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้ความเร็วให้เหมาะกับการใช้งาน การเปลี่ยนเกียร์ในทุกๆ จังหวะจะทำงานสัมพันธ์กันเพื่อให้ได้กำลังแรงบิดมากที่สุด ช่วยให้ปฏิบัติงานได้เร็ว ประหยัดน้ำมัน และเพิ่มผลกำไรให้กับเกษตรกร ใช้งานได้หลากหลาย

แทรกเตอร์ YM เหมาะสำหรับงานนา งานไร่ และการฉุดลากที่ต้องการกำลังสูง ความสูงของตัวรถที่เหมาะสม คือหัวใจหลักที่ทำให้สามารถทำงานได้ดีเยี่ยมในพื้นที่ดินหล่ม หรือเคลื่อนที่คร่อมต้นพืชได้โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย รัศมีวงเลี้ยวแคบหมุนเลี้ยวล้อได้แคบสุด เพียง 55 องศา คล่องตัวและควบคุมง่ายแม้ในพื้นที่ปลายแปลง นับว่าดีที่สุดในแทรกเตอร์ระดับเดียวกัน

แทรกเตอร์ รุ่น YM ยังใช้งานได้อเนกประสงค์ สามารถต่อพ่วงได้หลายรูปแบบการใช้งาน ทั้งยังสามารถต่อเข้ากับจอบหมุนที่ออกแบบใหม่ล่าสุด ทำงานได้ดีที่สุดในความเร็วรอบสูง ลดปัญหาดินติดใบจอบหมุนเพื่อประหยัดพลังงาน

เบาะนั่งสบาย รองรับการสั่นสะเทือน

ห้องโดยสารแบบพื้นเรียบ ที่วางเท้ากว้างขวาง เบาะนั่งถูกติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม ปรับได้หลายระดับ โอบกระชับเข้ากับสรีระของผู้ขับขี่ ช่วยให้ปฏิบัติงานได้สบายคลายความเมื่อยล้า และสามารถหยุดการทำงานหรือเข้าเกียร์ พีทีโอได้สะดวกเพียงกดปุ่มครั้งเดียวโดยไม่ต้องหยุดทำงาน

แทรกเตอร์ยันม่าร์ รุ่น YM มีแผนการวางจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในต้นปี 2562 และจะทยอยวางจำหน่ายทั่วโลกในปีถัดไป

มร. ทาเคฮิโตะ ซูซูกิ รองประธาน บริษัท ยันม่าร์ โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ในปี 2012 ยันมาร์ ได้ฉลองครบรอบ 100 ปี และถือโอกาสเปลี่ยนแนวคิด DNA มาเป็นแบรนด์สเตทเม้นใหม่สำหรับ 100 ปีข้างหน้า แบรนด์สเตทเม้นนี้ก็เพื่อจะทำให้สังคมดำรงชีวิตอย่างประหยัดพลังงาน สังคมดำรงชีวิตในการทำงานอย่างอุ่นใจ สังคมที่ได้ลิ้มรสอาหารอร่อยได้อย่างสบายใจ และสังคมที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่ทำให้หัวใจชุ่มชื่นเป็นจริงขึ้นมาได้

“ในอีก 100 ปีข้างหน้า เทคโนโลยีจะยิ่งก้าวกระโดดมากกว่า 100 ปีที่ผ่านมา การมอบสินค้าหรือบริการใหม่ที่ตอบสนองลูกค้าได้แบบเรียลไทมส์จึงมีความสำคัญ และองค์กรก็มีผลงานที่มีความภาคภูมิใจ เช่น การใช้เทคโนโลยีล่าสุดในเครื่องจักรทางการเกษตร อย่าง สมาร์ทแอซซิสรีโหมด และเทคโนโลยีใหม่อื่นๆ…สำหรับตลาดต่างประเทศที่สำคัญที่สุด ณ เวลานี้ คือ ตลาดในอาเซียน ซึ่งมีโอกาสที่เครื่องจักรทางการเกษตรจะแพร่หลาย รวมถึงการสนับสนุนเกษตรกรรมจากภาครัฐ หรือผู้ใช้แรงงานที่ต้องการปริมาณการทำงาน

จึงเป็นอีกหนึ่งตลาดที่กำลังจะเติบโตได้ในอนาคต และภายใต้วิสัยทัศน์ขององค์กรที่หวังว่าจะเปลี่ยนเกษตรกรรมให้เติบโตเป็นอุตสหกรรมอาหารและการเกษตร เราจึงมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเกษตรกร โดยการมอบ Solution และเทคโนโลยีล่าสุด และโนฮาว กว่า 100 ปี ของเราแก่ลูกค้าในกลุ่มอาเซียน และในวันนี้ก็มีโอกาสที่ทางองค์กรได้นำเสนอ Solution ล่าสุด ของ ยันม่าร์ ซึ่ง Solution นี้ เกิดจากความร่วมมือของ บริษัท ไอทีแอล ซึ่งเป็นโกบอลพาตเนอร์ และมีกำหนดวางตลาดทั่วโลก โดยเริ่มจากตลาดของอาเซียนเป็นที่แรก” มร. ทาเคฮิโตะ ซูซูกิ กล่าว

เรียน คุณหมอเกษตร ทองกวาว ที่นับถือ

ผมสงสัยว่า มะพร้าวกะทิ กับมะพร้าวแกงเกิดขึ้นแตกต่างกันอย่างไร ผมเพียงแต่ทราบว่า ในต้นมะพร้าวต้นเดียวกัน จะมีมะพร้าวกะทิปะปนอยู่แต่ไม่มาก และหากนำผลมะพร้าวกะทิไปปลูกก็ไม่ได้ เมื่อไม่นานมานี้ทราบว่า มีการผลิตกล้าพันธุ์มะพร้าวกะทิได้แล้ว ผมจะต้องไปติดต่อซื้อพันธุ์ได้ที่ไหน กรุณาแนะนำด้วยครับ

ตอบ คุณสมชัย กาญจนศิริพงษ์

เมื่อเริ่มต้นการสร้างเนื้อมะพร้าว จะเหมือนกันทั้งมะพร้าวแกง และมะพร้าวกะทิ โดยการสร้างคาร์โบไฮเดรต ที่ชื่อว่า กาแลคโตแมนแนน ต่อมามะพร้าวแกงจะสร้างเอนไซม์ แอลฟ่า-ดี กาแลคโตซิเดส มาย่อย กาแลคโตแมนแนน ให้เป็นคาร์โบไฮเดรต เรียกว่า แมนแนน ที่เป็นเนื้อมะพร้าวธรรมดาหรือมะพร้าวแกง แต่มีบางผลที่ไม่สามารถผลิตเอนไซม์ แอลฟ่า-ดี กาแลคโตซิเดสได้เนื้อมะพร้าวก็ยังคงเป็นคาร์โบไฮเดรต กาแลคโตแมนแนน ที่มีลักษณะนุ่ม เหนียว คล้ายวุ้น รสชาติดี เป็นที่ชื่นชมของผู้บริโภค

มะพร้าวกะทิ แบ่งออกได้ 3 กลุ่ม กลุ่มแรก มีเนื้อมะพร้าวกะทิหนาไม่มาก และนุ่ม คล้ายข้าวสุก กลุ่มที่สอง เนื้อหนาปานกลาง และ กลุ่มที่สาม เนื้อหนามาก และฟูเต็มกะลา

มะพร้าวกะทิ พบได้ทั่วไปในแหล่งที่ปลูกมะพร้าวในเขตร้อน ไม่ว่าจะที่ ฟิลิปปินส์ อินเดีย ศรีลังกา เวียดนาม และอินโดนีเซีย ส่วนในบ้านเราพบตามแหล่งปลูกมะพร้าวที่ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี สมุทรสงคราม และนครศรีธรรมราช

ผลการวิจัยที่ฟิลิปปินส์ พบว่า ใช้ต้นมะพร้าวที่เคยเกิดมะพร้าวกะทิ ให้มีการผสมตัวเอง แล้วนำผลมะพร้าวที่ได้ไปปลูกจะได้มะพร้าวแกง 3 ส่วน และมะพร้าวกะทิ 1 ส่วน เป็นไปตามกฎของเมนเดล ให้เข้าใจง่ายคือ ถ้าต้นมะพร้าวให้ผล จำนวน 100 ลูก จะได้มะพร้าวแกง 75 ลูก และมะพร้าวกะทิ 25 ลูก

ปัจจุบัน สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตรประสบความสำเร็จในการผลิตพันธุ์มะพร้าวกะทิได้แล้ว ที่สามารถให้ผลกะทิสูงถึง 25 เปอร์เซ็นต์ นำโดย ดร. สมชาย วัฒนโยธิน อดีตนักวิชาการเกษตร สถาบันวิจัยพืชสวน สถานที่ทำการวิจัยอยู่ที่ ศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร จังหวัดชุมพร และศูนย์วิจัยพืชสวนสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ต้องการต้นพันธุ์ ติดต่อสอบถามได้ที่ สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร บริเวณติดต่อกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน ในวัน และเวลาราชการ

ลักษณะเด่น สามารถให้ผลเมื่อมีอายุ 2 ปี กับ 5 เดือน และเป็นผลกะทิ 18-25 เปอร์เซ็นต์ แหล่งปลูกได้ดีควรมีระดับน้ำใต้ดินลึกไม่เกิน 1 เมตร พื้นที่ฝนทิ้งช่วง 3 เดือน ต้องมีระบบการให้น้ำอย่างพอเพียง แปลงปลูกควรปลูกพืชคั่นรอบแปลง ป้องกันละอองเกสรจากมะพร้าวแกงปลิวมากับอากาศ หรือแมลงนำมา หากปลูกในที่โล่งต้องปลูกให้ห่างไกลจากสวนมะพร้าวแกง เป็นระยะทางอย่างน้อย 5 กิโลเมตร

ช่วงฤดูร้อนของทุกปี มักเกิดปัญหามะนาวขาดตลาด ทำให้ราคามะนาวช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายนของทุกๆ ปี มีราคาซื้อขายอยู่ในเกณฑ์สูง ทำให้หลายคนสนใจปลูกมะนาวเพื่อใช้บริโภคในครัวเรือน หรือปลูกมะนาวเชิงการค้า เพื่อให้มีผลผลิตสำหรับจำหน่ายในช่วงที่มะนาวมีราคาแพง

“คุณธวัช เกตุรัตน์” เกษตรกรในพื้นที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำเกษตรผสมผสานบนเนื้อที่ 50 ไร่ พืชหลักที่สร้างรายได้ดีคือ การปลูกมะนาวพันธุ์แป้นพวง เพราะเป็นสายพันธุ์มะนาวที่ให้ผลตอบแทนสูง คุ้มค่ากับการลงทุน เนื่องจากมะนาวพันธุ์แป้นพวงให้ผลดกและออกลูกง่าย หากต้นมะนาวแป้นพวงมีสภาพต้นสมบูรณ์ สามารถออกลูกได้ตลอดทั้งปี แม้กระทั่งช่วงฤดูแล้ง ก็ยังให้ผลดกเต็มตัน สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำในแต่ละปี

จุดเด่นสำคัญของมะนาวพันธุ์แป้นพวง คือ เปลือกผิวบาง น้ำเยอะ มีกลิ่นหอม หนามสั้น ดูแลจัดการง่าย มีผลสวย ขนาดผลใหญ่กว่ามะนาวแป้น เปรียบเทียบกับมะนาวแป้นโดยทั่วไป หากดูแลจัดการไม่ดี อาจได้ผลมะนาวตกเกรดได้ง่าย

การปลูกช่วงเตรียมดิน แนะนำให้ปลูกปุ๋ยพืชสดประเภทถั่วพร้า ถั่วพุ่ม เพื่อบำรุงดินก่อน จึงค่อยไถกลบ หลังจากนั้น ขุดหลุมลึก 50×50 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก คลุกเคล้าให้เข้ากันดีให้ดินพูนสูงกว่าปากหลุมเล็กน้อย เวลารดน้ำดินจะยุบตัวลงเล็กน้อย หลังจากนั้นปลูกต้นมะนาว ในระยะห่าง 4 วา 6 ศอก

เนื่องจากรากต้นมะนาวมักหากินบนผิวดิน เวลานำกิ่งพันธุ์มะนาวลงปลูก ระวังอย่าขุดหลุมลึกเกินไป เพราะจะทำให้ต้นมะนาวไม่โต หลังจากนั้นใช้ไม้ไผ่ลำเล็กๆ ผูกติดกับต้นมะนาว ป้องกันไม่ให้ต้นมะนาวล้มเมื่อถูกลมพายุ อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้ใช้ไม้ผ่าซีก เพราะเวลาต้นมะนาวโดนลม ไม้ไผ่จะบาดลำต้นเป็นรอยแผล ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ต้นมะนาวได้ง่ายการดูแลรักษา

สวนแห่งนี้ ให้น้ำต้นมะนาว โดยใช้หัวจ่ายน้ำมินิสปริงเกลอร์ ในช่วงเช้า เพื่อชำระล้างน้ำค้างเปิดน้ำนาน 2 ชั่วโมง ใส่ปุ๋ยหมักที่ผลิตจากเศษวัตถุดิบที่หาง่ายในท้องถิ่น เช่น ขี้แพะ ขี้วัว ฯลฯ โรยรอบโคนต้น วิธีนี้ช่วยประหยัดต้นทุน แถมบำรุงสภาพดินได้อย่างดี หลังปลูกประมาณ 18-20 เดือน ต้นมะนาวจะแทงช่อดอกรุ่นแรกออกมาให้เห็นแล้ว รอไปอีก 5-6 เดือน จะเริ่มเก็บผลมะนาวออกขายได้

ผลผลิตมะนาวรุ่นแรกจะมากหรือน้อยก็ขึ้นกับสภาพความสมบูรณ์ของต้นมะนาวเป็นหลัก และขึ้นกับความต้องการของเกษตรกรว่า ต้องการเก็บผลผลิตไว้มากแค่ไหน หากเป็นไปได้ ควรเลือกปลูกกิ่งตอนสภาพสมบูรณ์ เพราะจะช่วยให้ติดผลบริเวณกิ่งแก่ เริ่มจากปลายโคนต้นขึ้นไป ทำให้ได้ผลผลิตคุณภาพดี หากปลูกโดยใช้กิ่งอ่อน มักเกิดปัญหาติดผลที่ปลายยอด ทำให้ผลมะนาวไม่ค่อยเติบโต ควรปลิดผลทิ้งไป

เมื่อต้นมะนาวติดผลเต็มต้น ควรใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 ช่วยบ้าง โรยปุ๋ยประมาณครึ่งกิโลกรัมรอบโคนต้น หากใช้แต่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยอินทรีย์อย่างเดียวโดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมี จะทำให้ผลมะนาวโตได้ไม่เต็มที่ ผลแคระแกร็น เป็นมะนาวขนาดกลางเสียเป็นส่วนใหญ่ หลังฤดูเก็บเกี่ยว ควรใส่ปุ๋ยเคมีบำรุงต้นในช่วงเดือนกรกฎาคม พร้อมดูแลตัดแต่งกิ่งอ่อนไม่ให้ทึบจนเกินไป

เพราะพื้นที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ มักมีฝนตกชุก มีสภาวะอากาศชื้น หากดูแลจัดแต่งทรงต้นมะนาวไม่ดี เสี่ยงทำให้ต้นมะนาวเกิดโรคได้ง่ายมาก ต้องคอยดูแลตัดแต่งกิ่ง เพื่อให้ต้นมะนาวได้รับแสงมากที่สุด หลังจากนั้นจะเริ่มบำรุงให้ต้นมะนาวแตกยอดใหม่ ให้มีสภาพสมบูรณ์ประมาณช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม จึงเริ่มทำดอก รอไปอีก 5 เดือน ก็จะเก็บมะนาวนอกฤดู ออกขายได้ราคาสูงตามที่ต้องการ

มะนาวพันธุ์แป้นพวง เป็นมะนาวเพื่อการบริโภคสดเป็นส่วนใหญ่ ขายได้ราคาดี เป็นที่ต้องการของแม่ค้าในตลาดท่ายาง เพชรบุรี เนื่องจากเป็นพันธุ์มะนาวที่มีคุณสมบัติด้านรูปร่าง ขนาด สี กลิ่น และรสตรงตามความนิยมของผู้บริโภค ในช่วงฤดูแล้ง ประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน มะนาวแป้นพวง ขายได้ราคาสูง หากเป็นช่วงมะนาวปี ผลผลิตเข้าตลาดเยอะ ราคามะนาวก็ถูกลง

เอสซีจี นำเสนอนวัตกรรมระบบหลังคาระบายอากาศ “SCG Roof Ventilation Solution” ช่วยระบายความร้อนออกจากใต้โถงหลังคาด้วยลมธรรมชาติ ไม่ใช้พลังงานไฟฟ้า ประหยัดพลังงานตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) หรือการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด สร้างคุณค่าร่วมกับคนรักบ้านให้ได้อยู่อาศัยในบ้านที่ร้อนช้า เย็นนาน อยู่สบายมากยิ่งขึ้น และมีส่วนช่วยประหยัดพลังงานเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม

นายฎายิน เกียรติกวานกุล Marketing Director-Roof Business ในธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี เปิดเผยว่า “สภาพอากาศในปัจจุบันที่ทวีความร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านรู้สึกร้อน อบอ้าว ไม่สบายตัว ต้องเปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา สาเหตุหนึ่งมาจากความร้อนที่สามารถเข้าสู่ตัวบ้านได้ทุกทิศทาง ทั้งจากหลังคา ผนัง โดยเฉพาะความร้อนที่สะสมอยู่ใต้โถงหลังคาแล้วแผ่รังสีความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน เอสซีจี จึงได้เปิดพัฒนานวัตกรรมระบายความร้อนใต้โถงหลังคาด้วยลมธรรมชาติ โดยไม่ใช้พลังงานไฟฟ้า “SCG Roof Ventilation Solution – ระบบหลังคาระบายอากาศ เอสซีจี” ตามหลักอากาศพลศาสตร์ และผสานด้วยแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) หรือการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสร้างคุณค่าร่วมกับคนรักบ้านให้ได้อยู่อาศัยในบ้านที่มีความสบาย และมีส่วนร่วมประหยัดพลังงานเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม

ระบบหลังคาระบายอากาศ เอสซีจี มี “ชุดกระเบื้องปล่องระบายอากาศ เอสซีจี” เป็นอุปกรณ์หลักที่มีประสิทธิภาพในการช่วยเพิ่มแรงดูดอากาศ และช่วยระบายความร้อนใต้โถงหลังคาออกสู่ภายนอกได้ดีขึ้น ด้วยการออกแบบนี้ทำให้กระเบื้องปล่องระบายอากาศนี้สามารถใช้คู่กับกระเบื้องหลังคาเซรามิกและคอนกรีต เอสซีจี ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และไม่รั่วซึม วิธีดังที่กล่าวข้างต้นนี้ เป็นอีกหนึ่งในหลายๆ วิธีที่ต้องทำควบคู่กับการป้องกัน และแก้ปัญหาบ้านร้อน อาทิ การทำโถงหลังคาสูง การติดแผ่นสะท้อนความร้อน หรือฉนวนกันร้อน การเลือกสีตัวบ้าน รวมถึงการปลูกต้นไม้รอบบริเวณบ้าน”

ผู้ที่สนใจสินค้าและบริการของหลังคา เอสซีจี อาทิ แผ่นสะท้อนความร้อน ฉนวนกันร้อน หรือระบบ Active Airflow สามารถขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้ที่ SCG Experience, SCG Home Solution และ SCG Roofing Center หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SCG Contact Center โทร. 02-586-2222 หรือ https://roofexpert.scgbuildingmaterials.com

จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ทุกปี สำหรับเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 39 ประจำปี 2562 ที่เนรมิตสวนลุมพินี ให้เป็นแหล่งช็อปปิ้งบรรยากาศสุดชิล ศูนย์รวมของดีของเด่นจากทุกภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นอาหาร หรือผลิตภัณฑ์หัตถกรรมต่างๆ ถูกยกมารวมไว้ให้คนเมืองได้ออกไปสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่าเที่ยวงานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั้งประเทศเลยก็ว่าได้

สัมผัสมหกรรมท่องเที่ยวสุดยิ่งใหญ่ จัดโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งฝรั่งยิ้มกว้าง “แดเนียล เฟรเซอร์” ขอพาไปสัมผัสบรรยากาศเท่ๆ ภายใต้แนวคิด “เที่ยวเมืองไทย สวยทุกที่ เท่ทุกเวลา” เยี่ยมชมเอกลักษณ์ไทย แวะถ่ายรูปเช็คอินแลนด์มาร์คเด็ดจากทุกภูมิภาค ตระการตากับมรดกแห่งสยาม อย่าง “ถ้วยชามเบญจรงค์ และ เศียรโขนโบราณ” เป็นต้น พร้อมเปิดโลกทัศน์กับศิลปะ-วัฒนธรรมร่วมสมัยอย่าง มโนราห์เรืองแสง ผีตาโขนประยุกต์ จากนั้นไประเบิดความแซ่บ ณ ภาคอีสานแซ่บนัว

สืบสานหัตถกรรมพื้นบ้าน เรียนรู้การทำตุ้มหูตุง ทำดอกเทียนเข้าพรรษา รวมถึงอาหารฟิวชั่นไทย-อิตาลี อย่าง “พิชซ่ารสลาบ” จากนั้นแอ่วเมืองเหนือสัมผัสเรื่องราววิถีชีวิตอย่างเรียบง่ายผ่านวิถีผ้า “ผ้าไหม ผ้าฝ้าย มัดย้อม และผ้าทอมือ” ปิดท้ายด้วยล่องทะเลใต้ ลิ้มรสอาหารทะเลขั้นเทพ ไม่ว่าจะเป็น ปูนิ่มทอดกระเทียม กุ้งผัดสะตอ และหมู่ฮ้อง เมนูพื้นถิ่นจากจังหวัดพังงา

เที่ยวไทยสไตล์เท่ๆ ในงานเทศกาลท่องเที่ยวสุดยิ่งใหญ่ของเมืองไทย กับฝรั่งยิ้มกว้าง “แดเนียล เฟรเซอร์” ในรายการหลงรักยิ้ม วันเสาร์ ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 16.30 น. ทางช่อง 28 (3SD)

เบทาโกร จัดกิจกรรมแฟนมีท โป๊ป ธนวรรธน์ พรีเซ็นเตอร์ไส้กรอกรมควันเบทาโกร “Sport Day เฮลั่น มันส์กับโป๊ป” แฟนคลับเข้าร่วมมหกรรมเกมและการแข่งขันกีฬาอย่างคึกคัก สนุกสุด ฟินสุด พร้อมชวนติดตามแคมเปญใหม่เบทาโกรร่วมกับโป๊ปในปีนี้

วสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือเบทาโกร เปิดงาน BETAGRO Fan Meet “Sport Day เฮลั่น มันส์กับโป๊ป” กิจกรรมขอบคุณลูกค้าและแฟนคลับ โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ พรีเซ็นเตอร์ไส้กรอกรมควัน BETAGRO โดยมีแฟนคลับและชาวเบทาโกรเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ทั้งการแข่งขันเกม กีฬา ร่วมเชียร์ และร่วมสัมผัสความอร่อยกับไส้กรอกรมควัน BETAGRO ณ อาคารเฉลิมราชสุดากีฬาสถาน (CU Sports Complex) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

กิจกรรมเริ่มขึ้นอย่างคึกคัก เมื่อโป๊ปเดินเข้าสู่สนามพร้อมขบวนพาเหรด ทักทายแฟนคลับและพูดคุยอัพเดตผลงาน โดยมี ดีเจเชาเชา ชวลิต ศรีมั่นคงธรรม และ คิง–ก่อนบ่าย ณภัทร ชุ่มจิตตรี ร่วมเป็นพิธีกรสร้างสีสันความสนุกตลอดงาน ทั้งเกมการแข่งขันกีฬาสี ชักเย่อ 4 เส้นรวมใจให้โป๊ป ฮูลาฮูปรวมพลังคล้องใจพี่โป๊ป กระดึ๊บสามัคคี…เส้นทางนี้เพื่อพี่โป๊ป และวิ่งผลัดท้าชิมไส้กรอกลอยฟ้า จนถึงไฮไลต์ของงานคือการแข่งขันฟุตซอล “รวมพลซัลโว Let’ s go ยิงประตูโป๊ป” โดยมี วสิษฐนำทีมผู้บริหารร่วมเตะบอลกับโป๊ป ท่ามกลางเสียงเชียร์ของเหล่าแฟนคลับและชาวเบทาโกรที่ร่วมลุ้นกันอย่างสนุกสนาน ภายหลังประกาศผลและมอบรางวัลให้กับสีเหลืองทีมชนะเลิศ เป็นช่วงที่ทุกคนรอคอยกับกิจกรรมแฟนมีทสุดฟิน ใกล้ชิดโป๊ปแบบเอ็กซ์คลูซีฟ และปิดท้ายสุดประทับใจด้วยบทเพลงเซอร์ไพรซ์โป๊ป “เป็นทุกอย่างให้เธอ” พร้อมมอบภาพถ่ายที่ระลึก–ข้อความให้กำลังใจ