แหล่งซากดึกดำบรรพ์ภูน้ำหยด คือหลักฐานมหาสมุทรที่คั่นระหว่าง

แผ่นเปลือกโลก อินโด-ไชน่าและฉาน-ไทย ดร.สมบุญ โฆษิตานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์สารสนเทศทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรธรณีวิทยา กล่าวถึงการลงพื้นที่สำรวจแหล่งธรณีวิทยาภูน้ำหยด “ทุ่งโขดหินกรวดมนฟอสซิล 240 ล้านปี” ยุคปลายเพอร์เมียน ที่บริเวณ หมู่ที่ 12 บ้านยางจ่า ต.ภูน้ำหยด อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ว่า แหล่งซากดึกดำบรรพ์ภูน้ำหยดมีความสำคัญ เป็นหลักฐานทางธรณีวิทยาอีกแห่งที่พบได้ไม่มากในโลกนี้ ซึ่งอาจจะบ่งบอกถึงตำแหน่งภูมิศาสตร์ของโลกในอดีตได้ โดยเฉพาะเป็นหลักฐานของแอ่งสะสมตะกอนในมหาสมุทรหรือทะเลโบราณ ในปลายยุคตอนต้นมีทะเลใหญ่มาก เรียกว่า ทะเลเททิสคั่นกลางระหว่าง 2 แผ่นเปลือกโลก คือ อินโด-ไชน่าและฉาน-ไทย โดยแหล่งธรณีวิทยาภูน้ำหยดตรงนี้คือ หลักฐานทะเลเททิสที่ยังหลงเหลืออยู่

ดร.สมบุญ กล่าวอีกว่า สำหรับลักษณะของโขดหินที่พบ ซึ่งเรียกกันว่า หินกรวดมน แสดงถึงการตกตะกอนในช่วงสิ้นสุดของยุคเพอร์เมียนหรือยุคโลกตอนต้น ก่อนโลกจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และบริเวณตรงนี้ลักษณะภูมิประเทศเดิมเป็นแนวหินปะการังใหญ่ที่มีขนาดใหญ่เหมือนที่เกรตแบร์ริเออร์รีฟ (Great Barrier Reef) ของทวีปออสเตรียเลีย ที่มีชื่อเสียงของโลก หลังจากนั้น เกิดการยกตัวทำให้ในแอ่งหยุดการตกตะกอน และทำให้แนวหินปะการังดังกล่าวโผล่ขึ้นพ้นพื้นน้ำ จึงมีอิทธิพลของแสงแดดและการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิจึงเกิดการแตกหัก และมาสะสมตัวที่เป็นไหล่ทวีปก่อนเกิดการแข็งตัวกลายเป็นหินในที่สุด ซึ่งยุคนี้ถือเป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงของโลกครั้งใหญ่ และมีการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในช่วงนั้น

“ส่วนลักษณะภูมิประเทศบริเวณตรงนี้มีความเฉพาะตัว แบบที่เรียกว่า ป่าช้าหิน คือมีหินปูนโผล่บนพื้นดินแบบตะปุ่มตะป่ำ และกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้างมากเป็นตารางกิโลเมตร ทั้งนี้ ตามรายงานไม่เคยมีการพบแหล่งธรณีวิทยาแบบเดียวกันนี้ในสถานที่อื่นๆ ซึ่งมีหินมากมายหลายขนาดเป็นเนินภูเขาทั้งลูกแบบนี้ โดยหินปูนเหล่านี้ยังมีซากของฟอสซิลปะการังเยอะมากและมีหลายสายพันธุ์ นอกจากนี้ ยังมีซากสิ่งมีชีวิต อาทิ พลับพลึงทะเล สาหร่ายขนาดใหญ่ หอยตะเกียง หอยฝาเดียว หอยสองฝา หอยงวงช้าง และสัตว์เซลล์เดียวอื่นๆ ซึ่งบ่งชี้หรือแสดงให้เห็นว่ามีความหลากหลายในซากสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์” ดร.สมบุญ กล่าว

ดร.สมบูรณ์ กล่าวอีกว่า ฉะนั้นซากดึกดำบรรพ์เหล่านี้จึงเป็นตัวบ่งชี้ถึงความเก่าแก่และกำหนดอายุได้ ส่วนการพบแหล่งธรณีที่คล้ายคลึงกันก่อนหน้านี้ก็มีบ้าง แต่เป็นขนาดพื้นที่ที่เล็กกว่านี้มาก อย่างเช่น ที่เขาแผงม้า อ.ชัยบาดาล โดยบริเวณตรงเขาแผงม้าจะมีการแสดงอันดับชั้นหิน ที่แสดงถึงการสิ้นสุดของยุคโลกตอนต้นได้ชัดเจน และบริเวณนี้เคยมีการสำรวจไปแล้ว ส่วนแหล่งภูน้ำหยดก็สันนิษฐานว่า คงเป็นแนวเดียวกัน ที่สำคัญจะไปเสริมประวัติศาสตร์ของโลกในยุคนี้ที่มีความต่อเนื่องมาตั้งแต่ถ้ำใหญ่น้ำหนาว ตอนเหนือของเพชรบูรณ์ไล่ลงมาถึงภูน้ำหยด อ.วิเชียรบุรี และต่อเนื่องไปถึง อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นทะเลเดียวกันมาก่อน หลังจากข่าวนี้ออกไปทางนักวิชาการสนใจเข้ามาสอบถามรายละเอียดหลายท่าน คาดว่าจะมีผู้สนใจมาศึกษาค้นคว้ารายละเอียดอีกเป็นจำนวนมาก

นายอรุณ เมฆฉาย นายอำเภอวิเชียรบุรี กล่าวว่า สำหรับแหล่งธรณีบริเวณนี้ไม่ใช่เป็นที่ดิน ส.ป.ก. เพียงอย่างเดียว แต่พื้นที่ยังคาบเกี่ยวกับเขตพื้นที่ป่าอีกด้วย โดยเฉพาะบริเวณที่มีโขดหินค่อนข้างมาก ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ทางป่าไม้ นอกจากนี้ ยังต้องมีการเร่งทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ให้ช่วยกันอนุรักษ์แหล่งธรณีวิทยาแห่งนี้เอาไว้ ขณะเดียวกันหากจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ยังจะต้องพัฒนาถนน รวมทั้งสาธารณูปโภคต่างๆ และอาคารจัดแสดง โดยสิ่งเหล่านี้คงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกๆ ฝ่าย รวมทั้งการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย

กรมการค้าฯ เผย “น้ำส้มสายชู หมักจากน้ำกะทิไขมันต่ำอินทรีย์” ฝ่าด่านสินค้า 62 รายการ คว้าแชมป์โครงการประกวดนวัตกรรมอินทรีย์ กรมการค้าภายในเผย “น้ำส้มสายชู หมักจากน้ำกะทิไขมันต่ำอินทรีย์” ฝ่าด่านสินค้า 62 รายการ คว้าแชมป์ประกวดในโครงการประกวดนวัตกรรมอินทรีย์ที่จัดขึ้นครั้งแรกในไทย พร้อมช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ

น.ส.สุทัศนีย์ ราชเรืองระบิน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงผลการจัดโครงการประกวดนวัตกรรมอินทรีย์ หรือ Thailand Organic Innovation Award (TOIA) ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในไทยว่า มีผู้ประกอบการสินค้าเกษตรอินทรีย์จากทั่วประเทศ ได้ส่งสินค้าเข้าประกวด จำนวน 62 สินค้า ซึ่งกรม ได้คัดเลือกสินค้าที่ผ่านเกณฑ์จนเหลือ 13 รายการ และได้ตัดสินให้สินค้า น้ำส้มสายชู หมักจากน้ำกะทิไขมันต่ำอินทรีย์ ยี่ห้ออะกรีไลฟ์ ของ บริษัท เอิร์ทบอร์น จำกัด ได้รับรางวัลชนะเลิศ เพราะเป็นสินค้าที่มีนวัตกรรม โดยผลิตจากน้ำหางกะทิไขมันต่ำ ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจากการสกัดน้ำมันมะพร้าวธรรมชาติ และถ้าไม่ถูกนำมาพัฒนาเป็นสินค้า ก็ต้องผ่านการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง ก่อนที่จะปล่อยทิ้งได้ ถือเป็นสินค้าใหม่และมีส่วนช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อม

สำหรับสินค้าที่ได้ อันดับที่ 2 คือ ซอสปรุงรสจากมะพร้าวอินทรีย์ ยี่ห้อชีวาดี ของ บริษัท ชีวาดี โปรดักส์ จำกัด เป็นสินค้าที่มีนวัตกรรม เพราะใช้กรรมวิธีการหมักแบบ Raped Tray Cuture Netod โดยเป็นการเพิ่มพื้นที่สัมผัสของวัตถุดิบที่ถูกหมัก ทำให้สามารถหมักจนได้ค่ากรดอะซิติกที่ต้องการได้เร็วขึ้น โดยใช้เวลาในการหมักทั้งหมด 3 สัปดาห์ และยังเป็นสินค้าที่มีซอสโซเดียมต่ำ ไม่เติมโพแทสเซียม ลดความเสี่ยงต่อไตเสื่อม ไม่เติมผงชูรส เพื่อให้คนแพ้ถั่วเหลือง คนไม่รับประทานเนื้อสัตว์ มีทางเลือกเพื่อสุขภาพ

อันดับ 3 คือ เวชสำอางออร์แกนิกจากสะเดา เพื่อรักษาอาการจากโรคผิวหนัง ยี่ห้อ Znya ของ บริษัท เบลสท์ โพรดักส์ ออฟ เอเซีย จำกัด มีจุดเด่นใช้คัดแยกกรดอะมิโนและเกลือแร่ออกจากน้ำตาลมะพร้าวทางกายภาพ มีโซเดียมต่ำกว่าซอสปรุงรสทั่วไป 45% โดยไม่มีการเติมแร่โพแทสเซียมลงไป สีอ่อน ไม่คาว ไม่มีกลิ่นมะพร้าว ให้รสเค็มจากเกลือแร่และหวานแบบดัชนีน้ำตาลต่ำ จึงช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือด เหมาะกับผู้รักสุขภาพ และเบาหวาน เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่สุดในโลก และยังเป็นการนำเอาขยะในการเกษตรมาใช้ ทำให้ปราศจากผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม อีกยังทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องได้รับสารเคมีจากยาสเตียรอยด์และสารเคมีอื่นที่ใช้ในการรักษา

ส่วนสินค้าที่ได้รับรางวัลชมเชย 10 รางวัล ได้แก่ คริสป์มีแก่นตะวัน, ออร์แกนิกไรซ์แครกเกอร์, สุราข้าวหอมออร์แกนิก Moon Master, กาแฟ ม่อนดอยหลวง, นมข้าวผงออร์แกนิก Naturals CF, น้ำนมข้าวยาคูออร์แกนิก Daimond Fresh, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมายุคินุโกะ, เครื่องดื่มลำไยอินทรีย์ สวนในเวียง, เห็ดเข็มทองอบกรอบ ครัวมารยาท และปุ๋ยอินทรีย์ Green Cal

“กรมจะนำสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ชนะการประกวดไปแข่งขันในเวทีการประกวดสินค้านวัตกรรมอื่นๆ ที่จัดขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศต่อไป และยังจะช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับสินค้า ทั้งการนำเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่จัดขึ้นในประเทศ การผลักดันเข้าไปจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า และการพาเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ เพื่อเปิดตัวออกสู่ตลาดโลก” น.ส. สุทัศนีย์ กล่าว

นายธวัชชัย ฟุ้งขจร ทีมงานท่อสูบน้ำซิ่ง นครปฐม -บ้านแพ้ว สมุทรสาคร หนึ่งในจิตอาสาที่สมัครใจนำเครื่องสูบน้ำประสิทธิภาพสูงของตัวเองมาช่วยสูบน้ำออกจากถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อช่วยลดระดับน้ำให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปค้นหาและช่วยชีวิต 13 นักเตะ ทีมหมูป่าอะคาเดมีที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง เผยว่า นำทีมท่อสูบน้ำซิ่ง หรือเครื่องสูบน้ำพญานาค จากจังหวัดนครปฐม ช่วยสูบน้ำออกจากถ้ำหลวง 4 เครื่อง ตั้งแต่ วันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา วันนี้เตรียมตัวเดินทางกลับแล้ว

นายธวัชชัย เล่าว่า นำเครื่องสูบน้ำขนาดความยาว 18 เมตร 1 เครื่อง และ 12 เมตร 3 เครื่อง มาติดตั้งสูบน้ำจากท้ายถ้ำหลวง หรือบริเวณถ้ำทรายทอง 3 เครื่อง และสูบน้ำออกจากหาดนางนอนอีก 1 เครื่อง โดยตั้งแต่เริ่มติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา เดินเครื่องแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง มีหยุดพักเครื่องบางตอนเติมน้ำมันเท่านั้น กระทั่งเมื่อคืน วันที่ 10 กรกฎาคม เวลาประมาณ 21.00 น. ได้รับการประสานจากศูนย์อำนวยการร่วมฯ ว่าให้หยุดสูบน้ำออกจากหาดนางนอน แต่อีก 3 ตัว ที่ติดตั้งสูบน้ำจากถ้ำทรายทอง ยังคงเดินเครื่องสูบอยู่ เพื่อสูบน้ำออก ให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปเก็บอุปกรณ์ต่างๆได้ แต่เดี๋ยวช่วงกลางวัน วันนี้ก็จะหยุดเครื่องแล้ว นำกลับไปจังหวัดนครปฐม ไปรับงานต่อ ในส่วนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการผันน้ำออกจากถ้ำหลวงนั้น หากขอให้ตนไปช่วยก็ยินดี แต่เครื่องสูบน้ำท่อซิ่งใหญ่เกินไปสำหรับการสูบน้ำจากที่นา

นายธวัชชัย กล่าวว่า ปกติแล้วเครื่องสูบพญานาคจะรับงานสูบน้ำจากบ่อกุ้ง บ่อปลา วันหนึ่งๆ รับประมาณ 4 งาน มีรายได้ชั่วโมงละประมาณ 1,000 บาท แต่การมาทำจิตอาสาตลอด 12 วัน ที่ถ้ำหลวงตนไม่ได้คิดถึงรายได้ที่หายไปเลย

“รายได้ที่หายไปพวกผมเริ่มต้นใหม่ แต่ชีวิตเด็กๆ และโค้ชทั้ง 13 คน สำคัญกว่า ถ้าหายไปเริ่มต้นใหม่ไม่ได้ หลังจากทุกคนออกมาปลอดภัย ผมรู้สึกดีใจมาก ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง มาทำงานที่นี่มาช่วยที่ถ้ำหลวง ผมไม่สบายนิดหน่อย มีอาการภูมิแพ้กำเริบ เนื่องจากอากาศเย็น แต่ก็ไม่เป็นไร การที่เด็กๆ ปลอดภัยได้ช่วยกันก็ดีใจมากๆ” ตัวแทนทีมงานท่อสูบน้ำพญานาคหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยให้ภารกิจกู้ 13 ชีวิตจากถ้ำหลวงสำเร็จ กล่าว

กรมอุตุฯ เตือน ทั่วไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น ตั้งแต่ วันที่ 11-15 ก.ค.นี้ พยากรณ์อากาศวันนี้ ฝนถล่ม อีสาน ร้อยละ 80 ทั่วไทยตกหนัก ร้อยละ 70 กทม. ไม่รอด เตือนภาคใต้ ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่เข้าหาฝั่ง เผยเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ระบุ พายุไต้ฝุ่น “มาเรีย” ไม่ส่งผลต่อประเทศไทย

ฝนถล่ม / เมื่อวันที่ 11 ก.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่งจนถึง วันที่ 15 กรกฎาคม 2561

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “มาเรีย” มีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ในวันนี้ (วันที่ 11 ก.ค. 61) พายุนี้ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย ขอให้ประชาชนที่จะเดินทางไปมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาว และประเทศเวียดนามเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนยังคงมีกำลังแรง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ตั้งแต่ เวลา 06.00 น. ของวันนี้ ถึงเวลา 06.00 น. ของวันที่ 12 ก.ค.นี้ ภาคเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ลำปาง และพิษณุโลก อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดอุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อุทัยธานี ชัยนาท และนครสวรรค์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส

ตั้งแต่ภูเก็ตขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ตั้งแต่กระบี่ลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรณีศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้สูบออกจากถ้ำหลวงอย่างต่อเนื่องติดต่อกันมานานกว่า 1 สัปดาห์เพื่อผันน้ำให้ลดลง กระทั่งปัจจุบันน้ำปากถ้ำลึกเพียงประมาณ 18 ซ.ม.

ปรากฏว่า ปัจจุบันที่ทุ่งนาของชาวบ้านใน ต.โป่งผา ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย และพื้นที่ข้างเคียงมีน้ำท่วมขังนาที่อยู่ในที่ลุ่มจนข้าวไม่สามารถเติบโตได้ ด้าน นางลัดดา นันทะลา ผู้ใหญ่บ้านสันปูเลยได้ออกสำรวจความเสียหายของไร่นาพื้นที่หมู่บ้านที่รับผิดชอบ พบว่า มีถูกน้ำท่วมขัง ประมาณ 480 ไร่

นายอินจันทร์ จันทาพูน อายุ 58 ปี ชาวบ้านสันปูเลย กล่าวว่า ตนทำนาปรังปลูกข้าวหอมมะลิ ประมาณ 16 ไร่ ปรากฏว่าถูกผันน้ำจากลำน้ำจ้องแล้ว 2 รอบ ซึ่งหว่านครั้งแรกก่อนวันที่ 23 มิ.ย. วันที่เด็กๆ ติดถ้ำ ต่อมามีการสูบน้ำออกจากถ้ำ ทำให้ท่วมทุ่งนาของตนและชาวบ้านข้างเคียงจนมิดข้าวตายหมด

พอน้ำแห้งลง ในวันที่ 8 ก.ค. จึงคิดว่าอยู่ในระดับจะทรงตัว แล้วจึงนำข้าวไปหว่านอีก แต่ไม่กี่ชั่วโมงน้ำขึ้นเข้าท่วมหนักกว่าเดิม ผ่านมา 3 วัน ข้าวตายหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนและเพื่อนๆ ชาวบ้านมีความเข้าใจในการช่วยเหลือทีมหมูป่า เพราะคิดว่าความสูญเสียที่พวกเราได้รับถือว่าคุ้มค่าหากแลกกับชีวิตของลูกหลาน 13 คน ที่ต้องไปติดอยู่ในถ้ำนานหลายวัน

นายอินจีนทร์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันทราบว่ามีชาวบ้านอยู่ 2-3 ราย ในหมู่บ้าน ที่แจ้งเจตจำนงจะไม่ขอรับการช่วยเหลือค่าชดเชยจากทางราชการด้วย เพราะคิดว่าสามารถนำไปช่วยเหลือส่วนรวมด้านอื่นมากกว่า นอกจากนี้ สิ่งที่ทุกคนคิดเหมือนกันคือ เพื่อช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิต ให้พ้นจากทุกข์ภัยดังกล่าวนั่นเอง

ทั้งนี้ ตนมีต้นทุนค่าพันธุ์ข้าวที่หว่านครั้งละประมาณ 10,000 กว่าบาท น้ำท่วม 2 รอบ ก็เสียหายไป 20,000-30,000 บาท กระนั้นความสูญเสียนี้ก็เทียบไม่ได้กับสิ่งที่เด็กๆ ต้องไปติดอยู่ในถ้ำ และหากรอดพ้นออกมาได้ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วกับสิ่งที่พวกเราได้รับ และดีใจกับพ่อแม่ของพวกเขาด้วยเป็นอย่างยิ่ง

รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ ว่า สภาพเรือประมงพื้นบ้านของชาวประมงในชุมชนเก้าเส้ง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา หลายสิบลำ ที่ต้องจอดลอยลำอยู่ริมชายฝั่ง หลังออกทำการประมงเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา แต่ต้องประสบปัญหาคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยมีกำลังแรง จึงต้องกลับเข้าฝั่ง เพื่อป้องกันเรือประมงอับปางกลางทะเล โดยชาวประมงบอกว่า จะต้องรอให้มั่นใจเสียก่อนว่า ไม่มีปัญหาคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง จึงจะออกทำการประมงอีกครั้ง ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

น.ส.พะเยาว์ เมืองงาม ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกจังหวัดสงขลา รายงานสภาพอากาศวันนี้ว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนหรือฝนฟ้าคะนองชุก และมีฝนหนักบางแห่ง ตั้งแต่จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ โดยภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนหนักบางแห่ง ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน คนใกล้ชิดของ นายกองโท พเยาว์ เนียะแก้ว อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม หรือนายกยัพ อดีตนายก อบจ. ขวัญใจประชาชนชาวจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า

นายกองโท พเยาว์ เนียะแก้ว ได้โพสต์ส่งข้อความให้กำลังใจทีมท่อสูบน้ำซิ่งมาตลอดตั้งแต่วันแรก และคอยให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังมาตลอด และล่าสุดหลังจากทีมท่อสูบน้ำซิ่งพญานาค ของพี่น้องชาวนครปฐม ที่ไปสร้างชื่อเสียง สร้างคุณงามความดีที่ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จนสำเร็จภารกิจช่วยน้องๆออกมาได้แล้ว และเตรียมตัวกลับนครปฐมนั้น ทางนายกองโท พเยาว์ เนียะแก้ว ได้โพสต์ข้อความส่งมาในไลน์ว่า “ขอให้เดินทางปลอดภัย”, “ค่าใช้จ่ายระหว่างเดินทาง บอกทุกคนเบิกได้จากพเยาว์”, “กลับมาถึงแล้วอีกสองสามวันจะจัดงานเลี้ยงให้สมเกียรติคนดี ทำดี แทนคุณแผ่นดิน”
ขณะที่ นายชยาทิต หสตังไทรแก้ว หรือนายกทอม นิลเพชร กล่าวว่า นายกองโท พเยาว์ เนียะแก้ว ให้การสนับสนุน และให้คำปรึกษากับตน และทีมงานตลอดตั้งแต่แรก โทร.มาให้กำลังใจตลอด และหรือขาดเหลืออะไรให้บอกนาย พวกเราไม่เคยลืมคำสอนของนายที่บอกเราเสมอว่า “ทำความดีไป ไม่ต้องหวังผลตอบแทน วันหนึ่งความดีที่ทำจะหนุนเราเอง”