โดยแม่คะนิ้งที่ จ.พิษณุโลก ถือว่าเป็นครั้งแรกของปี ทำให้นัก

ท่องเที่ยวต่างตื่นเต้นเมื่อได้พบเห็นโดยได้ถ่ายรูปและใช้มือกรีดเกล็ดน้ำแข็งจากกระจกรถยนต์ออกมาได้จำนวนมาก พร้อมทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวสัมผัสอากาศหนาวต้องก่อไฟผิงกันทุกบ้าน ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยวก็ยังคึกคัก นักท่องเที่ยวยังเดินทางมาชื่นชมความงามของธรรมชาติได้หลากหลาย อาทิ ที่โครงการป่าไม้ในพระราชดำริภูหินร่องกล้า โรงเรียนการเมืองการทหาร ผาชูธง ลานหินปุ่ม

สำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 กรมส่งเสริมสหกรณ์ จัดโครงการเสริมสร้างประสบการณ์สหกรณ์ให้แก่นักเรียนในโครงการส่งเสริมสหกรณ์ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นำนักเรียนระดับประถมศึกษาและครูผู้สอนวิชาสหกรณ์จากโรงเรียนในเขตกรุงเทพมหานคร กว่า 100 คน เดินทางไปศึกษาดูงานกิจกรรมสหกรณ์ในโรงเรียนวัดแจ้งเจริญ อำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรี เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านการเรียนการสอนและการจัดกิจกรรมสหกรณ์ในโรงเรียนร่วมกัน

โคราชอากาศหนาวต่อเนื่อง พ่อค้า แม่ค้า ขายอาหารร้อนตอนเช้าขายดีกำไรเพิ่มวันละ 500-700 บาท อุตุฯ เผยอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาฯ จนถึง 22 ธ.ค.นี้
นครราชสีมา วันนี้ (19 ธ.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา หนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยเฉพาะที่ อ.พิมาย วัดอุณหภูมิได้ 15 องศาเซลเซียส ทำให้ประชาชนที่ตื่นมาประกอบอาชีพในตอนเช้า ต้องสวมใส่เสื้อผ้ากันหนาวอย่างหนาแน่น ขณะเดียวกันที่ตลาดจอแจ ภายในเขตเทศบาลตำบลพิมาย บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ซึ่งขายอาหารร้อน เช่น น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ ข้าวจี่ มันเผา ข้าวต้ม และโจ๊ก ต่างขายดีกว่าทุกวัน

โดยนายจำรัส ชะโยลา อายุ 58 ปี พ่อค้าขายข้าวต้มและโจ๊ก เปิดเผยว่า โดยปกติแล้วในช่วงเช้าจะมีลูกค้าประจำมาซื้อข้าวต้มและโจ๊ก รับประทานกันบางตา มีกำไรประมาณวันละ 200-300 บาท แต่ในช่วง 3 วันมานี้ ซึ่งอากาศหนาวเย็นกว่าปกติ ทำให้มีลูกค้าขาจรแวะเวียนเข้ามาซื้อข้าวต้มของตนเพิ่มขึ้น ทำให้ขายได้มีกำไรเพิ่มเป็นวันละ 500-700 บาทเลยทีเดียว

ด้านนายเกียรติฉัตร พรายจันทร์ ผอ.สถานีอุตุนิยมวิทยา จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า วันนี้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป อุณหภูมิจะลดลงได้อีก 1-3 องศkเซลเซียส กับมีลมแรง และมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว อุณหภูมิต่ำสุด 9-12 องศาเซลเซียส สาเหตุเนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงยังคงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้มีอากาศหนาวเย็นได้จนถึงถึงวันที่ 22 ธันวาคมนี้ สำหรับแนวโน้มสภาวะอากาศในช่วง 7 วันข้างหน้า ในช่วงวันที่ 19-22 ธ.ค. อากาศหนาว อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ส่วนในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค.อุณหภูมิจะสูงขึ้นแต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนเริ่มอ่อนกำลังลง

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. นายธนศักดิ์ วิสาสะ นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการ กรมสรรพสามิต พร้อมด้วยนายละนอง แก้วศรีช่วง สรรพสามิตพื้นที่ชัยนาท นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหนองมะโมง นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร หมวดรักษาความสงบที่ 1 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอหนองมะโมง เข้าทำการจับกุมผู้ลักลอบผลิตและจำหน่ายสุราเถื่อน ในพื้นที่ต.หนองมะโมง อ.หนองมะโมง จ.ชัยนาท หลังจากสืบทราบพฤติกรรมของผู้กระทำผิดว่า มีการลักลอบจำหน่ายและผลิตสุราเถื่อนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายให้กับคนในพื้นที่ และใกล้เคียง จึงเข้าทำการตรวจค้นและจับกุม

การจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถบุกยึดสุรากลั่นแล้ว 285 ลิตร สุราแช่ 1,140 ลิตร หัวเชื้อการผลิต 7 กิโลกรัม พร้อมอุปกรณ์ต้มกลั่น 4 ชุด และเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งข้อหาขายหรือมีไว้เพื่อขายสุราที่ผลิตขึ้นโดยฝ่าผืนกฎหมายมาตรา 153 วรรคหนึ่ง หลังจากนั้น ได้นำของกลางและผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองมะโมง เพื่อดำเนินคดีและส่งฟ้องศาลต่อไป

นายละนอง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าในพื้นที่อ.หนองมะโมง มีการลักลอบทำเหล้ากลั่นจำหน่ายเป็นจำนวนมาก เพื่อเตรียมรับเทศกาลปีใหม่ สำนักงานสรรพสามิต จึงประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง อ.หนองมะโมง และเจ้าหน้าที่บูรณาการร่วมกัน ในการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหา 9 ราย ส่วนของกลางที่ได้วันนี้ มีทั้งเครื่องต้มกลั่น สุราแช่ สุรากลั่น จำนวนมาก บางรายพบว่ารับมาขาย บางรายกลั่นแล้วขายเอง

นายละนอง กล่าวต่อว่า สำหรับอัตราโทษแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีเครื่องต้มกลั่น อัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ส่วนกลุ่มที่ขาย ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท ขณะนี้พบว่ามีรายงานการจับกุมผู้ผลิตสุราเถื่อนเป็นเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นช่วงต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ประกอบกับมีการปรับอัตราภาษีเหล้าสูงขึ้น จึงทำให้เกิดการลักลอบผลิตสุราเถื่อนซึ่งไม่เสียภาษีจึงมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้บูรณาการร่วมกันในการจับกุมปราบปรามต่อไป

นายภูริธัช วัชรสินธุ์ นักวิชาการประมงชำนาญการ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2560 เวลา 23.00 น. ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าด่านตรวจสัตว์น้ำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้จับปลากะพงแม่น้ำไนล์จำนวน 40 ตัว ที่นำเข้าจากทวีปแอฟริกา ซึ่งได้สำแดงการนำเข้าเท็จ

ทั้งนี้ ปลาดังกล่าวจัดเป็นปลาที่คณะกรรมการระดับสถาบันด้านความปลอดภัยและความหลากหลายทางชีวภาพของกรมประมง (IBC) ไม่พิจารณาให้นำเข้า เนื่องจากมีประวัติการรุกรานในหลายประเทศ โดยปลาชุดนี้ได้กักกันไว้ในห้องกักกันของด่านฯ เพื่อรอการทำลายหรือเพื่อศึกษาวิจัยต่อไป

ทั้งนี้ ปลากะพงแม่น้ำไนล์ เป็นสัตว์น้ำต่างถิ่นที่มีความเสี่ยงสูงต่อการรุกรานสัตว์น้ำประจำถิ่นของไทยจัดเป็นปลานักล่า กินเนื้อเป็นอาหาร ดังนั้นหากหลุดรอดลงแหล่งน้ำสาธารณะ อาจจะรุกรานสัตว์น้ำพื้นถิ่น ตลอดจนระบบนิเวศของประเทศไทย เนื่องจากเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ เมื่อโตเต็มที่อาจมีน้ำหนักกว่าร้อยกิโลกรัม และเป็นปลาที่มีพฤติกรรมล่าเหยื่อมีชีวิตเป็นอาหาร หากหลุดรอดลงแหล่งน้ำสาธารณะ

หน้าหนาวทำไมต้องเที่ยวดอย นอนเต้นท์ ชมทะเลหมอก? ฝรั่งยิ้มกว้าง “แดเนียล เฟรเซอร์” เลยขอสวนกระแสยอดฮิต บินลัดฟ้าลงใต้ไปล่องทะเลเมืองตรัง เที่ยวสามเกาะสี่ถ้ำท้าลมหนาวปลายปีแบบส่วนตั๊วส่วนตัว คนไม่พลุกพล่าน ที่เกาะกระดาน เกาะแหวน และเกาะมุก

“แดเนียล เฟรเซอร์” พาเที่ยวเมืองตรังล่องทะเลสามเกาะสี่ถ้ำ เริ่มต้นที่เกาะกระดาน เป็นเกาะที่มีชายหาดสวยที่สุดในท้องทะเลตรัง เม็ดทรายละเอียด เหมาะแก่การพักผ่อน แถมเป็นเกาะที่นิยมจัดวิวาห์ใต้สมุทรอีกด้วย จากนั้นไปดำน้ำที่เกาะแหวน มีให้เลือกทั้งแบบลึก และแบบตื้น นักท่องเที่ยวนิยมมาเปิดโลกใต้ทะเล ชมปะการังหลากสี และฝูงปลาแหวกว่าย จากนั้นไปสัมผัสวิถีชีวิตพื้นบ้านที่เกาะมุก เกาะยอดฮิตในหมู่นักท่องเที่ยว มีซาเล้งให้บริการพาเที่ยวชมวิถีชีวิตรอบเกาะ แวะชิมโรตีเจ้าเด็ด พร้อมทานอาหารเย็นท่ามกลางวิวสวย พักค้างคืนกับห้องพักแสนสบาย แล้วตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่เกาะมุกศิวาลัยบีชรีสอร์ท

เที่ยวสามเกาะสี่ถ้ำล่องทะเลเมืองตรัง สวนกระแสหน้าหนาวเที่ยวดอย กับฝรั่งยิ้มกว้าง “แดเนียล เฟรเซอร์” ในรายการหลงรักยิ้ม วันอาทิตย์ ที่ 24 ธันวาคม 2560 เวลา 16.30 น. ทางช่อง 28 (3SD) พร้อมติดตามความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้ที่ Facebook: https://www.facebook.com/longrukyim/

นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจ 10 อาชีพเด่นปี 2561 และ 10 อาชีพดาวร่วง พบว่า 10 อาชีพที่ไม่โดดเด่นในปี 2561 ได้แก่ 1.อาชีพตัดต้นไม้ ช่างไม้ไม่มีฝีมือ 2.พ่อค้าคนกลาง 3.อาชีพย้อมผ้า 4.บรรณารักษ์ ไปรษณีด้านการส่งจดหมาย 5.พนักงานขายสินค้าหน้าร้าน 6.การตัดเย็บเสื้อผ้าโหล 7.การทำรองเท้า ซ้อมรองเท้า 8.เกษตรกร ครู อาจารย์ 9. อาชีพแม่บ้านทำความสะอาด และ 10.นักหนังสือพิมพ์ นิตยสาร ผู้สื่อข่าว

ส่วนอาชีพเด่น 10 อาชีพได้แก่ 1.แพทย์ (แพทย์ผิวหนัง ศัลยแพทย์) 2.โปรแกรมเมอร์ วิศวกรซอฟแวร์ และนักพัฒนา นักวิเคราะห์ข้อมูล 3.นักการตลาดออนไลน์ รวมทั้วรีวิวเวอร์ เน็ตไอดอล 4.นักการเงิน นักออกแบบวิเคราะห์ระบบด้านไอที ให้คำปรึกษาด้านระบบไอที 5.กราฟฟิคดีไซต์ นักวิทยาศาสตร์ด้านอาหาร 6.นักวิทยาศาสตร์ด้านความงาม (คิดค้นเครื่องสำอาง หรือครีม เป็นต้น) อาชีพที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว

7.ผุ้ประกอบการธุรกิจ (สตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการ e-commerce เป็นต้น) 8.อาชีพในวงการบันเทิง (ดารานักแสดง นักร้อง) สถาปนิก มัณฑนากร 9.ครูสอนพิเศษ ติวเตอร์ อาชีพเกี่ยวกับโลจิสติกส์ และการขนส่ง และนักบัญชี

โดยปัจจัยที่มีผลต่ออาชีพมาจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อยู่ที่ 4.2% อัตราการว่างงานในปี 2561 คาดว่าจะอยู่ที่ 0.9% แนวโน้มการผลักดันนโยบาย Thailand 4.0 การเข้าถึงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ง่าย การเปิดเสรีทางการค้าและบริการมีมากขึ้น ซึ่งมีผลต่ออาชีพเด่น

นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีอาวุโสวิชาการและงานวิจัย และผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า สาเหตุที่อาชีพที่ไม่โดดเด่นในปี 2561 มาจากเทรนด์ดิจิตอลเข้ามามากขึ้นทั้งในด้านธุรกิจ การท่องเที่ยว การลงทุน และผู้บริโภคก็เริ่มหันมาใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาจากไม้ ประกอบกับการนำเข้าสินค้าจากจีน ซึ่งมีราคาถูกและแนวโน้มจะยิ่งเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น ผลมาจากการเจรจาเขตการค้าเสรี หรือ เอฟทีเอ ระหว่างอาเซียน-จีน จะยิ่งมีผลให้อาชีพที่ใช้แรงงาน และแนวโน้มการส่งจดหมาย เขียนจดหมายก็ยิ่งลดลง เพราะดิจิตอลเข้ามาแทนที่

ประกอบกับในปีหน้าสินค้าเกษตรยังไม่ดีขึ้นก็มีผลต่ออาชีพเกษตรกรเช่นกัน นอกจากนี้ ในปี 2561 แนวโน้มแรงงานก็ยิ่งน่าเป็นห่วง ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่วัยผู้สูงอายุมากขึ้น กลุ่มผู้ใช้แรงงานจะยิ่งลดลงอย่างต่อเนื่อง จากเดิมเด็กเกิดใหม่ต่อปีเฉลี่ยอยู่ที่ 1 ล้านคนต่อปี ปัจจุบันอยู่ที่ 700,000 คนต่อปี ซึ่งจะยิ่งลดลง ขณะที่กลุ่มอายุ 15-60 ปี เดิมอยู่ที่ประมาณ 38 ล้านคน ปัจจุบันลดลงเหลืออยู่ที่ 37.2 ล้านคน ซึ่งลดลงมาถึงกว่า 1 ล้านคน ซึ่งในระยะยาวก็จะยิ่งลดลงต่อเนื่องเฉลี่ยก็จะหายออกไปจากระบบประมาณ 2-3 แสนคน

นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องให้ความสำคัญเรื่องของแรงงานต่างด้าวมากขึ้น ดดยเข้าไปจัดระเบียบ อนาคตแรงงานก็ยิ่งจะหายยาก ค่าแรงก็จะยิ่งปรับตัวสูงขึ้น และการกก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 การนำเรื่องของเทคโนโลยี หุ่นยนต์ ระบบไอที เพื่อเข้ามาเปลี่ยนผ่านแงงานที่ผ่านไป และเข้ามาทดแทนค่าแรงที่สูงขึ้น ในภาคธุรกิจก้จตะยิ่งเร็วขึ้น จากปัจจัยดังกล่าว เชื่อว่าภายใน 5-10 ปีการเปลี่ยนผ่านก็จะยิ่งเห็นผลชัดเจน และมองว่าผู้ประกอบการรายใหญ่นั้นปรับตัวได้ไม่มีปัญหา แต่สำหรับเอสเอ็มอีแล้วอาจจะลำบาก

“ค่าแรงหากมีการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำเร็ว การนำเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนผ่าน ทดแทนแรงงานก็จะยิ่งเร็วขึ้น ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจจะต้องพิจารณาในกรอบที่เหมาะสม มองก็อยู่ในกรอบเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 10-12 บาท หรือ 3-5% เพราะหากมากกว่านี้ แรงงานจะประสบปัญหาภาคธุรกิจจะยิ่งนำระบบต่างๆเข้ามาทดแทน และแรงงานเองก็จะต้องไม่เลือกงาน และพัฒนาฝีมือให้เหมาะสมเพื่อค่าแรงที่เพิ่มขึ้นกับงานนั้นๆ อย่างไรก็ดี แนวโน้มการว่างงานในปี 2561 ลดลงอยู่ที่ 0.9% หากไม่เลือกงานก็บยังมีงานที่รองรับอยู่แน่นอน”

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดเลย โดยในเช้าวันนี้อุณหภูมิในพื้นที่ราบต่ำสุด 5.5 องศาเซลเซียส ที่อำเภอภูเรือ ส่งผลทำให้สภาพอากาศโดยรวมมีความหนาวเย็น และโดยเฉพาะพื้นที่สูงตามอุทยานแห่งชาติต่างๆ ในจังหวัดเลย เช่น อุทยานแห่งชาติภูกระดึง อุณหภูมิต่ำสุด 6.5 องศาเซลเซียส อุทยานแห่งชาติภูเรือ 6 องศาเซลเซียส เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง 4 องศาเซลเซียส ทำให้อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงเย็นและเวลากลางคืน และในหลายพื้นที่ต่างต้องผิงไฟเพื่อคลายหนาว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า และในจังหวัดเลยยังพบว่ามีนักท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวหลายๆ ที่ต้องทำการก่อไฟผิง เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายเป็นการคลายหนาว เนื่องจากเสื้อกันหนาวที่เตรียมมาไม่สามารถรองรับอากาศหนาวที่หนาวจัดได้ เช่น อำเภอนาแห้วอุณหภูมิลดลงต่ำสุด 6 องศา “ภูค้อ” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย เป็นจุดชมวิวทะเลหมอก ชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า ซึ่งเป็นสถานที่ไม่ห่างจากอำเภอนาแห้วไม่มากนัก ทางขึ้นภูค้ออยู่ข้างโรงพยาบาลนาแห้ว มีความสูงประมาณ 900 เมตร ขึ้นรถอีแต๊กของชาวบ้านเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยคิดค่าบริการคนละ 50 บาท ภูค้อเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมาก ในช่วงเช้าที่มีอากาศหนาวเย็นจะเจอกับทะเลหมอกแบบระลานตาที่ไกลสุดลูกหูลูกตา สูงเหยียบยอดเขาเปรียบเสมือนทะเล พร้อมกับชมแสงแรกของพระอาทิตย์ของวันใหม่โผล่ขึ้นกลางทะเลหมอกที่สวยงาม

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ที่ยังแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนส่งผลให้ที่จังหวัดบึงกาฬ ที่อยู่เหนือสุดแดนอีสานมีสภาพอากาศหนาวเย็นทั้ง 8 อำเภอ โดยเฉพาะในพื้นที่ติดเชิงเขา ประกอบกับมีลมพัดแรงทำให้มีอากาศหนาวเย็นกว่าพื้นที่อื่น เช่น ที่อำเภอเซกา ที่มีพื้นที่ติดเชิงเขาภูลังกา อุณหภูมิในเช้าวันนี้วัดได้ 12 องศา ชาวบ้านบ้านโคกกระแซ หมู่ 2 ต.บ้านต้อง อ.เซกา ต้องออกมานั่งก่อกองไฟผิง บ้างก็จี่ข้าวจี่ ปิ้งข้าวเกรียบ ให้กับลูกหลานที่มาร่วมผิงไฟรับประทานก่อนไปโรงเรียนด้วย รวมถึงสัตว์เลี้ยงต้องออกมาร่วมวงผิงไฟคลายความหนาว นอกจากนี้ยังพบผู้สูงอายุและผู้ใหญ่วัยกลางคนที่มาร่วมผิงไฟก๊งเหล้าขาว ตามความเชื่อว่าจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่น คลายความหนาวเย็น

นพ.วิศนุ วิทยาบำรุง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกหนังสือแจ้งเตือนประชาชนที่นิยมดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่เข้าใจว่าจะสามารถช่วยคลายหนาวได้นั้นว่า เป็นความเข้าใจผิด เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกจากจะไม่สามารถช่วยคลายหนาวได้แล้ว ยังส่งผลเสียต่อร่างกาย ทำลายตับ และเยื่อบุกระเพาะ หากดื่มสุรามาก ๆ ในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น อาจช็อกและเสียชีวิตได้ จึงฝากเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แล้วหันไปดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลัง สร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย ใส่เสื้อผ้าหนา ๆ และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ซึ่งเป็นวิธีคลายหนาวที่ถูกต้องที่สุด

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ว่า ที่ประชุม คสช.เห็นชอบในหลักการให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในการแก้ปัญหาการจัดซื้อยางพารา จากการยางแห่งประเทศไทย เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐจัดซื้อยางไปทำถนนได้ โดยตั้งเป้าเพิ่มปริมาณการซื้อให้ได้ 2 แสนตัน ซึ่งคำสั่งดังกล่าว จะเข้าไปปลดล็อกเงื่อนไขทางกฎหมาย ให้หน่วยงานของรัฐสามารถซื้อยางพาราจากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ที่ถือเป็นหน่วยงานของรัฐเช่นกันได้ ทั้งนี้ การพิจารณาใช้คำสั่งตามมาตรา 44 ฉบับดังกล่าวจะต้องรอมติจากที่ประชุมคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐให้ความเห็นก่อนว่า หน่วยงานภาครัฐสามารถจัดซื้อพัสดุของรัฐได้โดยไม่ขัดต่อกฎหมายหรือไม่

รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ มอบใบรับรองและตราสัญลักษณ์มาตรฐานปศุสัตว์ OK แก่เถ้าแก่เล็กเนื้อหมูตู้เย็นชุมชน CP Pork Shop ในเขตภาคตะวันออก เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 171 ราย ที่ร่วมกับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เดินหน้ายกระดับความปลอดภัยในอาหารตลอดห่วงโซ่การผลิตเพื่อผู้บริโภคในทุกชุมชนตามมาตรฐานของกรมปศุสัตว์ ปัจจุบันมีร้านจำหน่ายสินค้าปศุสัตว์ทั้งเนื้อสัตว์และไข่ไก่ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานปศุสัตว์ OK แล้ว 4,000 แห่งทั่วประเทศ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ walkoffbalk.com รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ได้เร่งพัฒนายกระดับสินค้าปศุสัตว์ให้มีคุณภาพมาตรฐานและมีความปลอดภัย ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยน.สพ.อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการรับรองสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ปศุสัตว์ OK ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง กระทั่งครบ 4,000 แห่ง ตามเป้าหมายของปี 2560 ที่ตั้งไว้ ทั้งการรับรองรายเดี่ยวที่สถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ในตลาดสดและร้านจำหน่ายเนื้อสัตว์ทั่วไป และการรับรองรายกลุ่มในห้างสรรพสินค้า และร้านจำหน่ายเนื้อสัตว์ในหมู่บ้าน ดังเช่น ตู้หมูชุมชนของผู้ประกอบการในลักษณะเถ้าแก่เล็ก ที่ได้แสดงเจตนารมณ์และให้ความร่วมมือในการจัดทำมาตรฐานที่กรมปศุสัตว์กำหนดอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันกรมปศุสัตว์ยังเดินหน้าตามเป้าหมายการพัฒนาฟาร์มเลี้ยงสัตว์สู่มาตรฐานจีเอพี (GAP) เพิ่มขึ้นทั้งโคนม โคเนื้อ ไก่เนื้อ ไก่ไข่ ไก่พื้นเมือง เป็ดเนื้อ และสุกร พร้อมปราบปรามโรงฆ่าเถื่อนและผู้ลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดงในโคและสุกร เพื่อความปลอดภัยในอาหารสู่ผู้บริโภค

“ปศุสัตว์ OK เป็นโครงการที่มุ่งสร้างมาตรฐานการผลิตสัตว์ทั้งระบบ ที่ผ่านมาซีพีเอฟและเถ้าแก่เล็กเนื้อหมูตู้เย็นชุมชนเป็นฟันเฟืองร่วมขับเคลื่อนโครงการมาตลอด โดยทุกสถานที่จำหน่ายต่างให้ความสำคัญกับมาตรฐานปศุสัตว์ OK เป็นลำดับแรก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นสู่ผู้บริโภค แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการร่วมสร้างมาตรฐานให้กับสินค้าปศุสัตว์ของไทย และยังมุ่งขยายการขับเคลื่อนนโยบายนี้ต่อไป” รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าว

ด้าน นายสุมาตร รุ่งกำจัด รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายผลิตและจำหน่ายเนื้อสุกรที่ได้มาตรฐาน ถูกสุขอนามัย ปลอดภัยต่อผู้บริโภค จึงสนับสนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรร่วมกับบริษัทเข้าสู่ระบบการรับรองมาตรฐาน GAP ของกรมปศุสัตว์ ขณะเดียวกันยังมีนโยบายในการยกระดับสร้างมาตรฐานจุดจำหน่ายเนื้อสุกรในโครงการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับเถ้าแก่เล็กเนื้อหมูตู้เย็นชุมชน ให้สอดคล้องกับแนวทางของกรมปศุสัตว์ ด้วยการส่งเสริมให้เถ้าแก่เล็กทุกรายนำมาตรฐานปศุสัตว์ OK มาประยุกต์ใช้ ซึ่งจะมีการเฝ้าระวังทั้งเรื่องยาปฏิชีวนะ เนื้อหมูปลอดสารเร่งเนื้อแดง ไม่มีฮอร์โมนเร่งโต และตรวจสอบจุลินทรีย์ที่จุดจำหน่ายเป็นประจำ ช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าได้รับอาหารที่มีคุณภาพมาตรฐาน สด สะอาด ปลอดภัย ปลอดสาร สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดกระบวนการผลิต

“ซีพีเอฟจัดโครงการสัมมนาตู้หมูสด CP Pork Shop จุดจำหน่ายเนื้อสุกรมาตรฐานปศุสัตว์ OK ในทุกภูมิภาค เพื่อเพิ่มเติมความรู้เกี่ยวกับอาหารปลอดภัยและสร้างความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับมาตรฐานดังกล่าว ทำให้เถ้าแก่เล็กสามารถนำไปปรับใช้ในอาชีพตนเองต่อไป” นายสุมาตร กล่าว

วันที่ 20 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ชัยนาทว่า สภาพอากาศโดยทั่วไปเช้าวันนี้อยู่ในเกณฑ์หนาวเย็น โดยอุณหภูมิในตัวเมืองชัยนาทวัดได้ 14 องศาเซเซียส ขณะที่พื้นที่เชิงเขาอุณหภูมิลดต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะที่ ต.เขาท่าพระ อ.เมืองชัยนาท ซึ่งอยู่ตีนเขาขยายอุณภูมิลดต่ำวัดได้ 8 องศาเซลเซียส ซึ่งอากาศที่หนาวยะเยือกนี้เริ่มส่งผลกระทบกับประชาชนที่จะต้องก่อกองไฟผิงเพื่อคลายความหนาว และเป็ดไล่ทุ่งที่เลี้ยงไว้เริ่มมีอาการแข็งตายจากความหนาว วันละ 2-3 ตัว เพราะในพื้นที่นอกจากอากาศหนาวเย็นแล้วยังมีลมกระโชกแรงร่วมด้วยซึ่งผู้เลี้ยงเป็ดเองก็ยอมรับว่าไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะแม้แต่ตัวคนเลี้ยงเองที่นอนในเต๊นฑ์กันลมได้ยังทนกับอากาศที่หนาวเหน็บไม่ไหวต้องออกมาก่อไฟผิงกลางดึก ซึ่งหากอากาศยังหนาวเย็นต่อเนื่องไปอีกเป็ดคงจะทยอยหนาวตายเพิ่มมากขึ้น

ขณะเดียวกันประชาชนที่จำเป็นต้องออกมาทำธุระตอนเช้า ก็ต้องห่มผ้านวมออกมาด้วยแม้ขณะขับรถมอเตอร์ไซค์ และการยืนล้อมกองไฟเพื่อผิงรับไออุ่นให้คลายหยาวก็เป็นภาพที่เห็นได้โดยทั่วไปที่อากาศหนาวเย็นอย่างทั่วถึงอยู่ในระยะนี้